กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--กรมสรรพสามิต
อธิบดีกรมสรรพสามิตสั่งคุมเข้มขบวนการหลบเลี่ยงภาษีรถจดประกอบ ออกมาตรการกำหนดมูลค่ารถหวังสกัดกั้นผู้ประกอบการหัวหมอแจ้งราคาต่ำกว่าความเป็นจริง หวังดัดหลังผู้ประกอบการนำเข้ารถเก่าโดยเรียกเก็บภาษีย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในฐานะที่กรมสรรพสามิตรับผิดชอบในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ทั้งรถยนต์นำเข้าและรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งภาษีรถยนต์ที่จัดเก็บทำรายได้ให้กรมฯเป็นอันดับ 2 รองจากภาษีน้ำมัน แต่ปัจจุบันรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนใช้แล้วซึ่งมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศแล้วนำมาประกอบในโรงงานอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนกับกรมสรรพสามิต แต่มีบางโรงงานมีการหลีกเลี่ยงภาษี มีการลักลอบขายโดยใช้ทะเบียนปลอม ในบางรายมีการแจ้งราคาภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับประกอบการที่ทำถูกต้องทั้งยังทำให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามความเป็นจริง
นายพงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า ทางกรมฯได้มอบหมายให้รองอธิบดีและผู้อำนวยการสำนักที่กำกับดูแลงานตรวจสอบป้องกันและปราบปราม จัดทำแผนกำกับติดตามการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่า เพื่อติดตามตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่า ทางกรมฯจะทำการตรวจสอบความถูกต้องในการชำระภาษี และการจัดทำบัญชี เพื่อนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและการคำนวณเบี้ยปรับ ทั้งนี้ทางกรมฯคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการหลบเลี่ยงภาษีที่เกิดจากการแจ้งราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง อีกทั้งแผนดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กรมสรรพสามิตในด้านการจัดเก็บภาษีเพื่อส่งเสริมฐานะการคลังอย่างยั่งยืน
"ขบวนการนำเข้ารถจดประกอบจะนำรถเหล่านี้เข้ามาในลักษณะผ่าแยกชิ้นส่วนใส่ตู้คอนเทนเนอร์ และสำแดงต่อศุลกากรเป็นการนำเข้าอะไหล่รถยนต์ เมื่อนำเข้ามาแล้วจะประกอบขึ้นเป็นรถใหม่ซึ่งจะถูกกว่าการนำเข้ารถทั้งคัน บางรายทำการฟอกรถเพื่อขอจดทะเบียนโดยการติดตั้งแก็สเพื่อเลี่ยงการตรวจของสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากนั้นจะนำไปเสียภาษีสรรพสามิต โดยอาศัยช่องกฎหมายในการประเมินค่าปรับในราคาที่ต่ำ ซึ่งเมื่อรวมค่าปรับและภาษีแล้วจะถูกกว่าราคาภาษีของรถยนต์นำเข้าปัจจุบัน" อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่า ทางกรมฯได้สั่งการให้สำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 2 เป็นผู้กำหนดมูลค่าราคารถยนต์และรถจักรยานยนต์ในแต่ละรุ่นให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศเพื่อใช้กำหนดค่าภาษีและใช้ในการคำนวณค่าปรับ มาตรการดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนกับกรมสรรพสามิตไม่สามารถแจ้งมูลค่าราคารถที่ต่ำกว่าความเป็นจริง.