กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันการพัฒนาสังคม ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัด“โครงการอบรม เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว”เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงานช่วยเหลือ คุ้มครอง ผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐ โดยมี นายปรีชา สรวิสูตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม รุ่นที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๗-๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ สถาบันการพัฒนาสังคม อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
นายปรีชา สรวิสูตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ โดยกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว และปกป้องคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรง ตลอดจนรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวเอาไว้ เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อน สนับสนุน การรณรงค์เผยแพร่การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ให้เป็นประเด็นสำคัญในวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนับเป็นกลไกปฏิบัติงานที่สำคัญ ในการให้ความคุ้มครองสิทธิของประชาชน ให้ปราศจากความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติฯ ก็จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนและมีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายปรีชา กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดอบรมความรู้ให้กับตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในการคุ้มครองถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่สอบสวน ป้องกัน และปราบปราม คัดเลือกตำรวจจากพื้นที่จังหวัดที่มีระดับความรุนแรงในครอบครัวมาก เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติงาน โดยจะจัดอบรม จำนวน ๓ รุ่นๆ ละ ๘๐ คน รวม ๒๔๐ คน ในเดือนสิงหาคม ณ สถาบันการพัฒนาสังคม อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แบ่งเป็นรุ่นที่ ๑ ในวันจันทร์ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ รุ่นที่ ๒ วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ และรุ่นที่ ๓ วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ จึงมุ่งหวังว่าจากการอบรมในครั้งนี้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงานนำไปสู่การวิเคราะห์ในการหามาตรการที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวต่อไป และประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.