กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ด้วยนายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ป.กก.) ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษในการบรรยายพิเศษ เรื่อง”การพัฒนางานสุขศึกษาสู่สุขภาพที่ยั่งยืน” ให้แก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ณ โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช รีสอร์ท พัทยา จังหวัดชลบุรี
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การพัฒนางานสุขศึกษาสู่สุขภาพที่ยั่งยืน มีความเกี่ยวเนื่องกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและกีฬา บทบาทของกระทรวงที่มีต่อการพัฒนาสุขภาพ โดยกรมพลศึกษา มีภารกิจในการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการพลศึกษา สุขภาพ การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และพัฒนาบุคลากรสาขา ที่เกี่ยวข้อง ส่วนสถาบันการพลศึกษาจัดการศึกษาและศึกษาวิจัยตลอดจนให้บริการทางวิชาการกับชุมชนด้านพลศึกษา สุขศึกษา กีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งได้ผลิตครูผู้สอนวิชาการพลศึกษา และสุขศึกษา เพื่อสอนทุกระดับชั้น และเป็นผู้นำการออกกำลังกายทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้ออกกำลังกายอย่างทั่วถึง และการกีฬาแห่งประเทศไทย นำสุขภาพกีฬาไปสู่อาชีพและความเป็นเลิศ ซึ่งเป็นหน่วยงาน แนวทาง และนำวิธีการนำไปสู่การพัฒนาสุขภาพอย่างยั่งยืน อันสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาการกีฬาชาติ และยังสอดคล้องกับนโยบายสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุของประชาชนไทยโดยมุ่งเน้นที่ “สร้างสุขภาพ” มากกว่า “ซ่อมสุขภาพ” พยายามให้เกิดพัฒนาพฤติสุขภาพไปสู่พฤติกรรมที่พึงประสงค์ มีการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน (Sustainable behavior) ซึ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลหรือสังคมให้เกิดการเรียนรู้และตระหนักถึงปัญหา เข้าใจปัญหาด้วยจิตสำนึก และเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิต โดยเฉพาะการออกกำลังกาย และหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ เป็นกิจนิสัย ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน จะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีอายุยืน เนื่องจากสังคมโลกจะเข้าอยู่สังคมผู้สูงอายุโดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ประชากรสูงอายุในโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 81.86 ล้านคนและการเป็นสังคมผู้สูงอายุของประเทศสำคัญ ๆ ในโลกมีผลกระทบต่อประเทศนั้นในหลายๆด้าน โดยเฉพาะรายจ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ทำให้งบประมาณสำหรับการลงทุนพัฒนาด้านอื่น ๆ ลดลง ซึ่งประเทศไทย จะก้าวเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ในปี 2568 (2559-2568 รวมอีก 9 ปีข้างหน้า) ในขณะที่ประชากรวัยเด็กมีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้สัดส่วนประชากรวัยแรงงานลดลง อาจกระทบต่อความต้องการแรงงานในระบบเศรษฐกิจในอนาคตภาครัฐและครัวเรือนจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณของภาครัฐ และค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ในการดูแลสุขภาพอนามัย และการจัดสวัสดิการทางสังคม
ป.กก. กล่าวปิดท้ายว่า ทั้งนี้องค์กรสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุสากล ที่คาดการณ์ว่า 1 ตุลาคม 2568 จะมีผู้สูงอายุทั่วโลก มากกว่า 800 ล้านคน และ 2 ใน 3 อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศไทยด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องช่วยกันสร้าง เสริมสุขภาวะคนไทยผู้สูงวัย ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ โดยการพัฒนาความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และลดปัจจัยเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการสื่อสารสังคมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุก รวมทั้งการใช้มาตรการการเงินการคลังเพื่อสุขภาพคนไทยผู้สูงวัย ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ที่สำคัญที่สุด คือ การออกกำลังกายและเล่นกีฬาให้เหมาะสมกับเพศกับวัยให้เป็นวิถีชีวิตของคนไทย ( Sports is the way of life) คือการออกกำลังกายและเล่นกีฬา ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันนั้นเอง จะทำให้แก้ปัญหาการพัฒนาสุขศึกษาไปสู่สุขภาพที่ยั่งยืน และแก้ปัญหาของ สังคมไทยที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่า 26% ของประชากรทั้งหมด ได้อย่างแน่นอนอันจะสร้างประโยชน์อันสูงสุดเกิดขึ้นกับคนไทยผู้สูงอายุและประเทศชาติตลอดจนประชาชนคนไทยทุกเพศทุกวัยทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตต่อไป