กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ป.กก.) เป็นประธานในการประชุมการพิจารณาปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน สำนักงาน ก.พ.ร สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๒ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเฉพาะการเสนอจัดตั้งหน่วยงานในลักษณะกรม เป็นหน่วยงานเชิงนโยบายในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพิ่มขึ้นใหม่ อีก ๒ หน่วยงาน คือ (๑.)“สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ” เพื่อเป็นหน่วยงานที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้สูงขึ้น ในการรองรับยุทธศาสตร์ นโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งขับเคลื่อนและสนับสนุนการบริหารนโยบายและแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติให้เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งประสานงานการจัดการเพื่อนำนโยบายและแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ระดับชาติ ภูมิภาค และท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลวางแผนงานพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศทั้งระบบ บริหารจัดการแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณด้านการท่องเที่ยวในแต่ละปี รวมทั้งบริหารจัดการเขตพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างมีทิศทางและมีการบูรณาการงานร่วมกัน โดยจะเป็นมีศูนย์กลางรวมในการจัดสรรงบประมาณด้านการท่องเที่ยว ให้แต่ละหน่วยงานนำไปปฏิบัติอย่างสัมฤทธิ์ผลและให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทั้งนี้การทำงานของ สนง.คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จะเป็นหน่วยงานที่มีการบูรณาการอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากมีอำนาจในการบูรณาการแผนงานด้านการท่องเที่ยว ด้านงบประมาณด้านการท่องเที่ยว กำกับดูแล ประสานงาน และประเมินผลการปฏิบัติงานด้านการท่องเที่ยวให้เป็นเอกภาพ วิเคราะห์กลั่นกรองแผนงาน/โครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย รวมถึงการพิจารณาเสนอแนะกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศค่อนข้างตึงตัว แต่ในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตและขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และ (๒.) “สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา” เพื่อเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์เชิงลึก (Intelligence Unit) ทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการกีฬาของประเทศ และเป็นศูนย์กลางในการวิเคราะห์ คาดการณ์ พยากรณ์ และเตือนภัยล่วงหน้าทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนจัดทำสถิติด้านการท่องเที่ยวและสถิติด้านการกีฬา โดยเฉพาะสถิติด้านกีฬาจะเป้ฯหน่วยงานแรกที่จัดทำเชิงวิชาการที่เป้ฯระบบ รวดเร็ว น่าเชื่อถือ และทันสมัยที่สุด เพื่อให้ภาคส่วนของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ อันจะเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย วางแผน เสนอแนะมาตรการต่างๆ และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาได้อย่างชาญฉลาด ถูกต้องและแม่นยำ นอกจากนี้ยังจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุน สร้างโอกาสความได้เปรียบในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาระหว่างประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย
ป.กก. กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น เป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) แผนพัฒนานันทนาการ ฉบับที่ ๒ ในการสร้างรายได้และสร้างสุขภาพให้เกิดแก่ประเทศชาติ และจัดเตรียมความพร้อมในการแข่งขันสู่การเปิดเสรีอาเซียนในปี ๒๕๕๘ (AEC) จึงเกิดการผลักดันให้มีการจัดตั้งหน่วยงานระดับกรม ๒ หน่วยงานดังกล่าว ทั้งนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงาน โดยมีรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้เชิงลึก และจะสรุปผล นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือน กันยายน ๒๕๕๔ โดยจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ชัดเจน รวมถึงลักษณะโครงสร้างองค์กร โดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญ รวมถึงการบูรณาการทางด้านบุคลากรกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนอื่นๆ เพื่อที่จะให้การจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว เป็นหน่วยงานวิชาการที่น่าเชื่อถือ เป็นมันสมอง ในลักษณะ KM (Knowledge Management) เชื่อมโยงตั้งแต่รากหญ้า จนถึงระดับโลก อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมากที่สุดต่อไป