กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--เจเอสแอล
“ความคิดแง่บวก” นับเป็นพลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตได้อย่างแท้จริง หญิงสาวคนหนึ่งได้รับบทพิสูจน์นี้อย่างชัดแจ้งด้วยตัวเอง เธอเคยเป็นคนขี้อายมาก ไม่กล้าสู้คน พูดภาษาอังกฤษได้แค่ ‘Thank You’ เคยหย่าร้าง และเคยพยายามฆ่าตัวตาย แต่วันนี้เธอเป็นเจ้าของธุรกิจระหว่างประเทศ ดูแลโครงการมูลค่านับหมื่นล้านบาท ยิ้มได้กับตัวเองทุกวัน และกำลังจะแต่งงานใหม่กับสามีคนเดิม!!
ดร.วรัญญา สะอาดเอี่ยม ริเท็นนิส ประธานบริษัท Ventures International Group Pty Ltd. หัวหน้าผู้แปลหนังสือ “ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย” หญิงสาวที่ “สุริวิภา” ค้นพบว่าเธอคือ แบบอย่างของผู้หญิง คิดบวกตัวจริง เล่าถึงเรื่องราวส่วนตัวของเธอก่อนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรข้ามชาติว่า “ตอนนี้ถือว่าตัวเองมีความสุขมากถึง 111.11 % มากเกินร้อย เพราะเราสุขมากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนที่แวดล้อมต่างสร้างพลัง สร้างความสุขให้กับเรา จากเมื่อก่อนเป็นเด็กขี้อายมาก ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาใคร เพื่อนๆแกล้งไม่คุยกับเราไม่ให้นั่งด้วย คิดเองว่าตัวเองไม่สวยและดำ เพื่อนแกล้งเอาหมากฝรั่งมาติดเก้าอี้ แต่ไม่กล้าบอกครู คิดว่าเรียนไม่เก่ง มีนักเรียน 44 คนได้ที่ 43 แต่ที่จบถึงด็อกเตอร์ได้เพราะเรามุ่งมั่นวิริยะใฝ่เรียนมากๆ ตั้งความฝันอยากเรียนเมืองนอก เลยมีความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่า เริ่มจากไปออสเตรเลีย ทุกคนช่วยกันส่งจนหมดเงินส่ง เราต้องทำงานไปด้วย 2 ปีถึงได้เข้าเรียนปริญญาโท เคยคิดท้อแต่ไม่กลับ เพราะเราไปไม่ใช่เพื่อเอาความ ล้มเหลวกลับมา อดทนพยายามจนได้ด็อกเตอร์ ตอนที่เรียนปีสุดท้ายเราก็แต่งงานกับสามี แต่แต่งไม่ถึง 6 สัปดาห์ สามีถูกฟ้องล้มละลาย เราก็ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย กลายเป็นหัวหน้าครอบครัว ตอนนั้นเหนื่อยมาก ท้อและเครียดมาก เพราะเราอยากได้อยากมี อยากให้ตัวเองเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ อยากเป็นแบบอย่างของน้อง แต่เราทำไม่ได้ดั่งใจ เลยตัดสินใจหนีปัญหาด้วยการทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่สุด คือ ทานน้ำยาล้างห้องน้ำ โชคดีที่หมอช่วยได้ทัน
หลังจากที่เราหย่าร้างกันไป ดิฉันทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าคนๆหนึ่งจะให้อภัยได้ง่ายๆ ไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนใหม่ แต่โทรหาเขาเล่าให้เขาฟังทุกวัน เขาก็ยังแสดงน้ำใจให้อภัยแก่เรา เพราะเขาไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง หลังจากอ่านแล้วเขาบอกว่าเขาจะเป็นในจุดที่ดีกว่าเดิม ดีกว่าก่อนแต่งงาน และจะหาได้มากกว่าเดิม แบ่งปันมากกว่าเดิม ทั้งๆที่ตอนหย่ากันเขาตกมากกว่าเรา แต่เขาเปลี่ยนวิธีคิดได้ เลยอยากให้เราอ่านด้วย นั่นคือ The Science of Getting Rich ซึ่งเขียนไว้เป็นร้อยปีแล้วจึงอ่านเข้าใจยากมาก แต่หลังอ่านไป 3-4 บทวางไม่ลงเลยค่ะ เป็นเรื่องของพลังแห่งการคิดบวก พลังแห่งความรัก การดูแลตัวเอง ตรรกะแห่งความสุข การอยากได้อยากมีอยากเป็นบนพื้นฐานของคุณธรรมความดี ความคิดดีที่จะก้าวไปข้างหน้า และปีที่แล้วเขาก็ให้มาอีกเล่มคือ The Secret ซึ่งทั้งสองเล่มก็เปลี่ยนชีวิตเราได้เลย ความคิดเปลี่ยน เป็นคนคิดบวก มีความสุขมากขึ้น ร่าเริง แจ่มใส สนุกสนาน มีจุดยืน กล้าที่จะเปลี่ยนตัวเอง บางคนอาจบอกว่าไม้แก่ดัดยาก แต่ถ้ามีพลังดีๆอยู่ในมือคุณเองแล้ว คุณจะไม่กล้าเปลี่ยนแปลงเลยหรือ ตอนนี้กำลังจะจัดงานแต่งอีกครั้งกับโอลาฟสามีคนเดิมค่ะ”
พลังความคิดบวก ที่ส่งผลดียิ่งต่อชีวิต ดร.วรัญญา นั้น ทำให้เธอรู้สึกอยากแบ่งปันให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย “ดิฉันกับทีมงานช่วยกันแปล The Science of Getting Rich ให้ เป็น “ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย” เพราะหลังจากที่สามีล้มละลายแยกทางกัน ชีวิตมีขึ้นมีลงตลอด จนเราได้ประสบการณ์ตรงว่า ความสุข ความร่ำรวย ความอยากมี อยากได้ มันไม่มีผลอะไรเลย ถ้าไม่มีความสุข ไม่มีศีลธรรม จริยธรรม จุดหลักของหนังสือ คือคุณธรรม คุณต้องเป็นคนดีที่ร่ำรวย ที่อยากแปลมากๆเพราะต้องการให้สังคมไทยไม่ใช่เห็นคนดีแค่ที่เงินอย่างเดียว ต้องมีดีที่อยากแบ่งปัน สำคัญมากคือคนดีที่มีศีลธรรม และหนังสือเล่มนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนแต่ละคนต้องการที่พึ่ง แต่ที่พึ่งที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดคือตัวเอง ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน แล้วเราก็จะเผื่อแผ่เป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้
การจะอยู่อย่างไรให้มีความสุขในสังคมปัจจุบันนี้ เราต้องหาปมด้อยของตัวเองก่อน แล้วยอมรับตัวเองในจุดนั้นให้ได้ก่อน จากนั้นต้องยอมรับผู้อื่นให้ได้ การยอมรับตัวเองและยอมรับผู้อื่น เป็นจุดๆหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุข ถ้าคุณไม่ยอมรับผู้อื่น คุณก็จะทุกข์กับเขาตลอดเวลา ทุกคนต้องขจัดสิ่งที่เราไม่พอใจให้อยู่กับเราน้อยที่สุด เพราะมันจะกระทบคุณ แต่เมื่อคุณยอมรับได้เราก็จะอยู่กับตัวเองอย่างสบายใจและสุขใจ
คนเราต้องสร้างพลังแห่งความสุขให้กับตัวเอง ทุกวันนี้...ทุกครั้งที่เห็นแหวนที่สามีให้ ไม่ว่าจะกำลังทำอะไรอยู่ กำลังขีดๆ เขียนๆ อยู่ดีๆ เห็นแหวน ก็จะต้องยิ้มกับตัวเอง คนอื่นเขาอาจคิดว่าเราโรคจิต แต่เหมือนเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง สังเกตดูอย่างบางทีเราคุยโทรศัพท์เหนื่อยๆอยู่ ลองยิ้มดูซิคะ บังคับตัวเองให้ยิ้ม แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนกับดีขึ้น ในที่สุดเราจะรู้สึกดีขึ้นจริงๆ เราอย่าไปจมปรักอยู่กับสิ่งขุ่นมัว จิตจะยิ่งตกเข้าไปใหญ่ บางครั้งเพียงเราเปลี่ยนมุมมอง เป็นอะไรก็ได้ที่ Positive เป็นบวก ฝึกยิ้มให้มัน ให้กลายเป็นความเคยชินติดตัวไป แล้วเราจะได้รับความสุขจากมัน”
ยังมีแง่คิดดีๆ จาก ผู้หญิงคิดบวกคนนี้ให้ได้ติดตามชมกันอีกใน “สุริวิภา” พุธที่ 21 พฤศจิกายน สี่ทุ่ม ทางโมเดิร์นไนท์ทีวี