กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.54 เหรียญสหรัฐ ส่วนรายได้ก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย (EBIT) อยู่ที่ 3.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศผลประกอบการกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญในไตรมาสที่สองที่ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.54 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด (Fully-Diluted Share) ซึ่งนับเป็นการสร้างผลกำไรได้เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกันของจีเอ็ม ขณะที่รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2553 ที่ผ่านมา จีเอ็ม มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 85 เซนต์ต่อหุ้นปรับลด
รายได้ของจีเอ็มเพิ่มขึ้น 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 39,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับผลดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่สองของปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้สุทธิ (EBIT-adjusted) อยู่ที่ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตัวเลขของไตรมาสที่สองของปี 2553 อยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ไม่มีรายการพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมแต่อย่างใดในรายงานด้านการเงินสำหรับทั้งสองช่วงเวลาดังกล่าว
“ผลจากการมุ่งเน้นการลงทุนไปที่การประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง การออกแบบ และคุณภาพของยานยนต์กำลังส่งผลกลับมาหาเราทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น และผลลัพธ์ทางการเงินที่เป็นบวกก็ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี” มร. แดน เอเคอร์สัน ประธานใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "เรามีความก้าวหน้า และการเติบโตอย่างมั่นคง และเราก็กำลังเตรียมพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดในปีนี้ ซึ่งก็รวมไปถึงการส่ง เชฟโรเลต โซนิค ออกสู่ตลาดอเมริกาเหนือ โอเปิล/ วอกซ์ฮอลล์ ซาฟิร่า ในยุโรป และป่าวจุ่น 630 ในประเทศจีน เพื่อให้ผลการดำเนินธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ดีเช่นนี้ต่อไป”
ผลประกอบการของจีเอ็มโดยรวม (หน่วยพันล้านเหรียญสหรัฐ ยกเว้นในส่วนของจำนวนต่อหุ้น)
ไตรมาสที่2 ปี 2553 ไตรมาสที่2ปี2554
รายได้ $33.2 $39.4
กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ $1.3 $2.5
กําไรต่อหุ้นปรับลด $0.85 $1.54
EBIT - adjusted $2.0 $3.0
รายการพิเศษ $0 $0
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน $3.8 $5.0
กระแสเงินสดที่เหลืออยู่หลังจากกิจกรรมต่างๆทางการค้าตามปกติ(ขาย จ่ายค่าใช้จ่าย ที่เป็นเงินสด) และหักกระแสเงินสดจ่ายจากการลงทุนแล้ว(free cash flow) $2.8 $3.8
- จีเอ็ม อเมริกาเหนือ (GMNA) ได้รายงานตัวเลข EBIT — adjusted ของไตรมาสที่สองในปีนี้ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถทำรายได้สุทธิในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
- จีเอ็ม ยุโรป (GME) ได้รายงานตัวเลข EBIT — adjusted ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นเท่ากับ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2553 โดยจีเอ็ม ยุโรป มีค่าใช้จ่ายในส่วนของการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นรายจ่ายในส่วนดังกล่าวที่ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
- จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ (GMIO) ได้รายงานตัวเลข EBIT-adjusted ที่ระดับ 600ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่สอง ซึ่งเพิ่มขึ้น 100 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปี 2553
- จีเอ็ม อเมริกาใต้ (GMSA) รายงานตัวเลข EBIT-adjusted ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่สองของปี 2553
สำหรับไตรมาสนี้ กระแสเงินสดของอุตสาหกรรมรถยนต์จากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มีมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่กระแสเงินสดที่เหลืออยู่หลังจากกิจกรรมต่าง ๆ ทางการค้าตามปกติ และหักกระแสเงินสดจ่ายจากการลงทุนแล้ว มีมูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
จีเอ็มสามารถดำเนินธุรกิจและจบไตรมาสที่สองได้อย่างงดงาม ด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยมูลค่ารวมทั้งหมดในส่วนของยานยนต์ที่ 39.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งเงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาด รวมถึงเงินสดที่มีเงื่อนไขในการจ่ายจากคาเนเดียน เฮลธ์-แคร์ ทรัสต์ ในไตรมาสนี้มีมูลค่าถึง 33.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขของไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีมูลค่า 30.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ภาพรวมของอุตสาหกรรม บริษัทฯคาดว่ามูลค่าของ EBIT-adjusted ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี มูลค่าของ EBIT-adjusted ของปี 2554 ทั้งปีจะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
“ผลประกอบการและกระแสเงินสดของเรามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และเราจะยังคงไว้ซึ่งหลักการการทำงานทั้งในด้านการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอดและการดำเนินงานที่เสริมสร้างสถานะทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อให้เราสามารถเติบโตทั่วทุกภูมิภาคได้อย่างสวยงาม” มร.แดน อัมมานน์ รองประธานอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินกล่าว