กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--สสปน.
สสปน. บุกตลาดแดนมังกร ดึงกลยุทธ์ LUXURY MICE ชูจุดขายทะเลไทย เจาะกลุ่มลูกค้าขายตรง ผนึกกำลัง 4 เมืองไมซ์ซิตี้ มอบโปรโมชั่นพิเศษ คาดตลาดไมซ์จีนปีนี้โต 18%
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เจาะกลุ่มลูกค้าไมซ์จีน ดึงกลยุทธ์ “LUXURY MICE” เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ชูภูเก็ตและสมุยจุดหมายปลายทางการประชุมแบบอินเซนทีฟ ผนึกความร่วมมือ 4 เมืองไมซ์ซิตี้มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมยกทัพผู้ประกอบการไมซ์ไทยเดินสายทำตลาดในงาน CIBTM ต่อด้วยโรดโชว์ 3 เมืองใหญ่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางเจา มั่นใจสิ้นปีตลาดเติบโต 18%
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สสปน. เปิดเผยว่า “ตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่และมีความสำคัญสำหรับธุรกิจไมซ์ไทย ผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนเดินทางมายังไทยเป็นอันดับที่ 2 รองจากตลาดอินเดีย โดยเฉลี่ยตลาดจีนมีการเติบโตประมาณร้อยละ 15-20 ต่อปี และยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยการเพิ่มขึ้นของลูกค้าจีนเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแบบก้าวกระโดด และการที่ทางการแดนมังกรผ่อนกฏควบคุมการเดินทางในช่วงทศวรรษ ที่ผ่านมา จากเดิมที่อนุญาติให้พลเมืองของตนเองเดินทางไปมาได้ไม่กี่ประเทศเท่านั้น ดังนั้นคลื่นลูกใหม่ของอุตสาหกรรม คือ การเดินทางไปต่างประเทศของชาวจีน ทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและการทำธุรกิจ โดยในปี 2553 ไทยมีจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนเป็นจำนวนกว่า 45,000 คน สร้างรายได้แก่ประเทศกว่า 2,800 ล้านบาท”
สำหรับไทยนั้นคอปอเรทจีนที่เข้ามาในไทย ประกอบด้วย 3 ตลาดไฮไลท์ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางเจา แบ่งเป็นประเภทธุรกิจ ได้เป็นธุรกิจประกันภัย ร้อยละ 25 ธุรกิจขายตรงร้อยละ 20 ธุรกิจการจัดงาน ร้อยละ 15 ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ร้อยละ 15 ธุรกิจยานยนต์ ร้อยละ 10 ธุรกิจแพทย์และยา ร้อยละ 10 และอื่นๆ อีกร้อยละ 5
“ปัจจุบันลูกค้าจากจีนมีรายได้ที่สูงมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ จึงส่งผลให้พฤติกรรมของกลุ่มไมซ์ตลาดจีนเน้นความหรูหรา มีระดับ และมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ สสปน.จึงปรับกลยุทธ์การขยายฐานการตลาดสู่ลูกค้าจีนระดับบน พร้อมดันแผน LUXURY MICE โดยเฟสแรกจะเน้นที่กลุ่มคอปอเรทของธุรกิจประเภทขายตรง และธุรกิจประกันภัยที่มีความต้องการกิจกรรมแบบอินเซนทีฟที่เหนือระดับกว่าธุรกิจประเภทอื่นโดยกลุ่มนี้มีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ ประมาณร้อยละ 30 และมีแนวโน้มการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายอรรคพล กล่าวเสริม
โดยในปี 2554 ภายใต้แคมเปญส่งเสริมการตลาด Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม สสปน. ดึงกลยุทธ์ LUXURY MICE คัดสรร 5 เมืองที่มีเสน่ห์และเป็นสุดยอดแห่งปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก เสริมศักยภาพ “มหานครแห่งไมซ์” อันได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และสมุย ด้วยความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านสถานที่พักระดับไฮเอนด์อันหลากหลาย สถานที่จัดประชุมมาตรฐานโลก สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสามารถนำเสนอการจัดกิจกรรมที่มีความพิเศษเหมาะกับลูกค้าไมซ์ระดับสูง
“สำหรับเทรนด์ตลาดจีนจะเน้นเดสติเนชั่นทางทะเล อาทิ มัลดีฟ และ ตาฮิติซึ่งเป็นจุดหมายลำดับต้นของตลาดจีนที่เดินทางมายังเอเซียแปซิฟิค โดย สสปน.จะเน้นการขาย “LUXURY BEACH Destination” ชู 2 เมืองทะเลสวยอย่าง ภูเก็ต และ สมุย ด้วยความพร้อมของโรงแรมระดับห้าดาวทั้งเพื่อการจัดประชุมและการพักผ่อน กิจกรรมทางน้ำ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและช็อปปิ้งใหม่ล่าสุดอย่างจังซีลอน ที่รองรับกิจกรรมอินเซนทีฟทั้งก่อนและหลังการประชุม” นายอรรคพล กล่าวเสริม
และเพื่อสานต่อโครงการ Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม โดยใช้แนวคิด “เมืองไทย….สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อความสำเร็จของธุรกิจ”และเน้นการทำการตลาดกับลูกค้าไมซ์จีนกลุ่ม Luxury สสปน. จะเข้าร่วมงานเทรดโชว์ CIBTM 2011 ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมไมซ์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเซีย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงใช้โอกาสการเข้าร่วมงานนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพและความพร้อมของการจัดงานไมซ์ไทยนำเสนอแพคเกจการตลาด พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทย มีโอกาสพบปะผู้ซื้อจากนานาชาติ เพื่อนำเสนอธุรกิจและขยายตลาดไมซ์ไทยในเวทีเทรดโชว์ระดับโลกครั้งนี้
นายอรรคพล กล่าวต่อไปว่า “งาน CIBTM 2011 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าร่วมแสดง (Exhibitors) ในงานทั้งสิ้น 300 บริษัทจาก 20 ประเทศ และมีผู้เข้าร่วมงาน (Trade Visitors) จำนวน 290 รายจาก 40 ประเทศ ซึ่งในปีนี้ งาน CIBTM 2011 สสปน. จะนำผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเดินทางเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 8 หน่วยงาน และคาดว่าจะมีจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจทั้งสิ้นกว่า 300 นัดหมาย การเข้าร่วมงานครั้งนี้ สสปน. คาดว่าจะสามารถดึงผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ชาวจีนให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ประมาณ 5,000 ราย สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 300 ล้านบาท จากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้”
นอกจากนี้ สสปน. ยังเดินสายออกโรดโชว์ใน 3 เมืองหลัก ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา ระหว่างวันที่ 2-7 กันยายนต่อเนื่องจากการเข้าร่วมงาน CIBTM 2011 เพื่อโปรมทแคมเปญ Believe in Thailand และ LUXURY MICE ในตลาดหลักโดยเฉพาะที่กวางเจาที่มีความต้องการ LUXURY อินเซนทีฟที่สูงเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ
“เรายังได้รับความร่วมมือจาก 4 เมืองไมซ์ซิตี้ทั้ง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ที่แต่ละจังหวัดมีฐานลูกค้าไมซ์จากจีนร้อยละ 15-30 มอบโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับตลาดจีนในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 100 คนขึ้นไปจังหวัดให้การสนับสนุน อาทิ รถตำรวจนำขบวนจากสนามบินยังที่พัก กิจกรรม ซีเอสอาร์ ปลูกป่า และการให้บริการไมซ์เลนที่สนามบินของจังหวัด สำหรับกลุ่มไมซ์จำนวน 300 คนขึ้นไป จังหวัดให้การสนับสนุน อาทิ การต้อนรับที่สนามบินโดยผู้ว่าราชการจังหวัด การจัดรถรับส่งเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด สำหรับกลุ่มไมซ์จำนวน 500 คนขึ้นไป จังหวัดให้การสนับสนุน อาทิ การเป็นเจ้าภพจัดเลี้ยงอาหารค่ำ การประสานงานให้ผู้ประกอบการให้ราคาที่พักในราคาพิเศษเทียบเท่าราคาคนไทยสำหรับคณะที่อยู่ต่อ รวมทั้งการให้ใช้พื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นต้น”
“ผู้เดินทางไมซ์กลุ่ม LUXURY MICE ของจีนเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนร้อยละ 20 ของผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนโดยทั่วไป และมีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่าผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ทั่วไปร้อยละ 30 โดยผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนทั่วไปมีค่าใช้จ่ายต่อหัว 62,500 บาทในขณะที่กลุ่ม LUXURY มีค่าใช้จ่ายต่อหัว 81,250 บาท โดยเฉพาะกลุ่มนี้ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศสูงถึงกว่า 800-1,000 ล้านบาท โดยสสปน. คาดการณ์ว่าในปี 2554 นี้จากกิจกรรมกระตุ้นการขายน่าจะทำให้อุตสาหกรรมไมซ์จากจีนมีส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้น โดยมีจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนประมาณ 53,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 18 %” นายอรรคพล กล่าวสรุป
สำหรับในปีนี้ สสปน. ได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดลูกค้าแดนมังกร อาทิ งาน IT&CM /กิจกรรม Connection Plus เพื่อเป็นการพบปะผู้ซื้อ และผู้ขาย ที่เป็นกลุ่มลูกค้าของ สสปน. ที่ต้องการจะเข้ามาใช้บริการอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย รวมทั้งการเข้าร่วมงาน การส่งเสริมการเดินทางโดยการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทยซึ่งเป็นงาน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีร่วมกับ ทอท. ททท. ในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ กลุ่มคอปอเรทไฮไลท์จากจีนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในปี 2554 อาทิ การประชุมบริษัท อินฟินิตัส (Infinitus) / การประชุมบริษัท New China Life Insurance /การประชุม Onocology /การประชุมบริษัท CTS FUJI XEROX /และการประชุมกลุ่ม XIAN JANSSEN PHARMACEUTICAL เป็นต้น และในปีหน้าประเทศไทยยังได้เป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มแอมเวย์จากจีนที่มีผู้ร่วมประชุมกว่า 12,000 คน ที่ จ. ภูเก็ตอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารการตลาด
นางสาวปาริฉัตร เศวตเสรณี ผู้จัดการอาวุโส หมายเลขโทรศัพท์ 02-694-6092 อีเมลล์ parichat_s@tceb.or.th
นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการ หมายเลขโทรศัพท์ 02-694-6095 อีเมลล์ arisara_t@tceb.or.th