กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--ธสน.
ธสน. เปิดให้ธนาคารพาณิชย์ใช้บริการประกันการส่งออกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ในการรับซื้อตั๋วส่งออกระยะสั้นไม่เกิน 180 วัน โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ ธสน. ให้บริการนี้ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงของผู้ส่งออกที่เป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย จากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศจำนวนกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
นายสมพร จิตเป็นธม รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามในกรมธรรม์ประกันการส่งออกระยะสั้นของสถาบันการเงิน (Export Credit Insurance Bank Policy) ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554
ภายใต้กรมธรรม์ประกันการส่งออกระยะสั้นของสถาบันการเงิน ธสน. จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงให้แก่ธนาคารพาณิชย์ (ในฐานะผู้เอาประกัน) ในการรับซื้อตั๋วส่งออกภายใต้เทอมการชำระเงินแบบ Document against Payments (D/P), Documents against Acceptance (D/A) และ Open Account (O/A) ที่ไม่เกิน 180 วันจากผู้ส่งออกที่เป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ โดย ธสน. จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ในกรณีที่ผู้ซื้อในต่างประเทศไม่ชำระเงินค่าสินค้าส่งออก เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงให้แก่ธนาคารพาณิชย์ในการรับซื้อตั๋วส่งออกและส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์มีความมั่นใจในการให้สินเชื่อขายลดตั๋วส่งออกให้แก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้ส่งออกไทยทำประกันการส่งออกทุกครั้งที่ส่งออกเพื่อลดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ธสน. จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้สูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นสำหรับความเสี่ยงทางการค้าได้แก่ ผู้ซื้อล้มละลายและผู้ซื้อปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า และความเสี่ยงทางการเมืองได้แก่ การควบคุมการโอนเงินจากประเทศผู้ซื้อมายังประเทศไทย การเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้าหรือห้ามนำเข้าสินค้า และการเกิดสงคราม จลาจล ปฏิวัติ หรือรัฐประหาร
ความร่วมมือระหว่างทั้งสองธนาคารในครั้งนี้เป็นผลจากปัจจุบันคู่ค้าในต่างประเทศจำนวนมากประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสาเหตุจากผู้ซื้อล้มละลาย ซึ่งข้อมูลจากสถาบันประกันการส่งออกชั้นนำของโลกระบุว่า ปัจจุบันมีบริษัทล้มละลาย 1 รายในทุก 3 นาที ทั้งนี้ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนของ ธสน. ในปี 2550-2553 ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าสินค้า (81.7%) รองลงมาคือ ผู้ซื้อล้มละลาย (16.3%) และผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า (2%) หากแบ่งตามประเภทอุตสาหกรรม 57.7% เป็นสินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ รองลงมาได้แก่ อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ (7.7%) อาหารกระป๋อง (7.3%) เฟอร์นิเจอร์ (6.8%) พลาสติก (4.2%) และอุตสาหกรรมอื่นๆ (16.3%)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-7