กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--วิวาลดี้ พีอาร์
ประเทศสิงคโปร์ได้รับการจัดอับดับให้เป็นสุดยอดเมืองแห่งการประชุมในภูมิภาคเอเชียโดย International Congress and Convention Association (ICCA) เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน นอกจากนี้ยังติดอันดับ 1 ใน 5 อันดับแรกของเมืองยอดนิยมแห่งการจัดประชุมของโลก เช่นเดียวกับเวียนนา บาร์เซโลน่า ปารีสและเบอร์ลิน
มร.มาร์ติน เซิร์ค ผู้บริหารระดับสูงแห่ง ICCA ได้กล่าวแสดงความยินดีกับประเทศสิงคโปร์ในฐานะประเทศซึ่งมีการหมุนเวียนจัดงานประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2553 ที่ผ่านมาว่า “ด้วยการวางกลยุทธ์อย่างชัดเจนสู่การเป็นสถานที่จัดอีเว้นท์ชั้นนำแห่งภูมิภาค เพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาเป็นเวลาหลายปี ทำให้วันนี้ สิงคโปร์จึงประสบความสำเร็จในการเป็นสถานที่จัดการประชุม สัมมนา และงานแสดงสินค้าอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างแท้จริง”
การจัดอันดับโดย ICCA มุ่งเน้นที่งานประชุมที่หมุนเวียนจัดเป็นประจำตามประเทศต่างๆ อย่างน้อย 3 ประเทศ และการที่ประเทศสิงคโปร์ได้รับรางวัลนี้ เนื่องจากไม่เพียงมีการจัดงานประชุมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดผู้จัดรายเดิมให้หวนกลับมาจัดงานอีกครั้งแล้วครั้งเล่า โดยในปี 2553 ที่ผ่านมา มีงานประชุมต่างๆที่หมุนเวียนมาจัดในสิงคโปร์กว่า 136 งาน ซึ่งเพิ่มขึ้นว่าปีก่อนถึงร้อยละ 14 ในจำนวนนี้มีหลายงานที่ถือเป็นสุดยอดการประชุมระดับโลก อาทิ 20th Annual Conference of the Inter-Pacific Bar Association, World Conference on Continuing Engineering Education 2010, International Conference of the International Bartenders Association 2010, 77th World Congress of the UFI - The Global Association of the Exhibition Industry, World Congress of Biomechanics 2010, World Congress of Bioethics 2010, RoboCup 2010 และ World Green Building Council International Congress 2010
มร.มาร์ติน เซิร์ค กล่าวเสริมว่า “ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและการดำเนินงานที่มุ่งมั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่สิงคโปร์ ประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านนี้ และสิ่งที่น่าชื่นชมยิ่งกว่าก็คือ การทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นศูนย์กลางการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจระดับโลก ซึ่งรวมถึงการลงทุนในด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและต้นทุนมนุษย์ อันเป็นผลลัพธ์จากความพยายามของหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนของประเทศสิงคโปร์”
มิสเมลิซซา โอ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวว่า “การจัดอันดับโลกโดย ICCA ได้รับการยอมรับว่าเป็นดัชนีวัดค่าของธุรกิจการจัดงานประชุมที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอด ซึ่งสิงคโปร์ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นสถานที่จัดงานระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเกิดจากพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ความสะดวกสบายในการจัดงาน และพันธมิตรทางธุรกิจอันแข็งแกร่งในการจัดนิทรรศการและการประชุมสัมมนา”
“และด้วยการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนออย่างต่อเนื่องประเทศสิงคโปร์จึงสามารถดึงดูดให้ผู้จัดงานทั้งเชิงธุรกิจและการท่องเที่ยวต่างหวนกลับมาจัดงานกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งในอนาคตเรายังมีโครงการพัฒนาที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ทั้งการสร้าง Gardens by the Bay, International Cruise Terminal และ River Safari แห่งแรกของโลก”
ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจเดินทางมายังสิงคโปร์กว่า 3.1 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 27 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดและมีการใช้จ่ายที่ 5.4 ล้านเหรียญ เมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2552 — 2553 คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 19.2 และ 28.6 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่น่าจับตามองทีเดียว โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจการจัดงานนิทรรศการและ การประชุมสัมมนา (MICE) ของสิงคโปร์ยังสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ เนื่องจากสามารถดึงดูดผู้จัดงานได้มากกว่าเดิมทุกปี โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ได้มีการทำข้อตกลงจัดการประชุมระดับโลกแล้วกว่า 12 งานในระหว่างปี 2555 — 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2553 ที่มีการตกลงจัดงานประชุมระดับเดียวกันจำนวน 14 งาน และหากพิจารณารวมไปถึงอีเว้นท์ด้านอื่นๆ อาทิ ไลฟ์สไตล์ การค้าและพาณิชย์ โครงสร้างสาธารณูปโภคและเฮลธ์แคร์ จะพบว่ามีงานประชุมใหม่ ๆ ที่ตกลงจะจัดขึ้นในสิงคโปร์อีกหลายงาน อาทิ 52nd ACI World Congress 2013 , World Federation of Engineering Organisations Congress 2013 , 36th World Diamond Congress in 2014 และ International Congress of the World Confederation for Physical Therapy 2015