กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ในครึ่งปีแรก ปี 2554 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ("MINT") มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกำไรทั้งในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 1 ในไตรมาสนี้ MINT มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 254 เป็น 279 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 เป็น 6,271 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในไตรมาส 2 นั้นมาจากการบันทึกกำไรจากการขายโครงการคอนโดมิเนียม เซ็นต์ รีจิส เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ และกำไรหนึ่งเดือนจาก Oaks Hotels and Resorts ในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 114 ล้านบาท จากการที่ MINT เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Oaks ในขณะเดียวกันธุรกิจอาหารและธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าของ MINT มีผลการดำเนินงานที่ดีเช่นกัน โดยในไตรมาส 2 มีกำไรเพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท และ 22 ล้านบาทตามลำดับ กำไรจากการขายเรสซิเดนท์, การซื้อกิจการ Oaks และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจอาหารและธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าถูกหักลบบางส่วนจากการลดลงของกำไรสุทธิจากธุรกิจโรงแรมเนื่องจากการเปิดโรงแรมใหม่สองโรงแรม คือเซ็นต์ รีจิส และอนันตรา คีฮาว่า และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัท ทั้งนี้ ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2554 ของ MINT เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2553 ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงเนื่องจากการประท้วงทางการเมืองที่เกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ปี 2553
ในไตรมาส 2 ปี 2554 กำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงกำไรของโรงแรมที่บริษัทลงทุนเอง การรับจ้างบริหารโรงแรม การขายอสังหาริมทรัพย์และโครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา เพิ่มขึ้นร้อยละ 186 ทั้งนี้ MINT ประสบความสำเร็จในการขายโครงการคอนโดมิเนียม เซ็นต์ รีจิส เรสซิเดนท์อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ MINT ได้บันทึกการขายอีกร้อยละ 8 เป็นผลให้มีการบันทึกการขายทั้งสิ้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ของพื้นที่ขายทั้งหมด นอกจากนี้ MINT ยังประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Oaks Hotels and Resorts ผ่านการทำคำเสนอซื้อในตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรเลียเป็นจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้น A$ 84 ล้าน Oaks เป็นหนึ่งในผู้ประกอบกิจการโรงแรมและรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและมีการเติบโตเร็วที่สุดของประเทศออสเตรเลีย มีโรงแรมและเซอร์วิสสวีทมากกว่า 36 แห่ง รวมกว่า 5,000 ห้องพักในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และดูไบ นอกจาก Oaks จะช่วยเพิ่มกำไรให้แก่ MINT แล้ว ยังช่วยเพิ่มโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้อีกแบรนด์หนึ่ง และช่วยขยายฐานการตลาดการท่องเที่ยวไปยังออสเตรเลียอีกด้วย สำหรับครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 Oaks มี EBITDA A$ 19 ล้าน
ในไตรมาส 2 ปี 2554 ธุรกิจอาหารของ MINT มี EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของการเติบโตของยอดขายต่อร้าน (Same-store-sales) ร้อยละ 12.3 และการเปิดสาขาร้านอาหารเพิ่มอีก 46 สาขา ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและรับจ้างผลิตสินค้ามีผลการดำเนินงานที่ดีเช่นกัน โดยมี EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 149 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน