กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ปภ.
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 23 จังหวัด 222 อำเภอ 1,519 ตำบล 12,517 หมู่บ้าน ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ นครพนม อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ และพระนครศรีอยุธยา ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 681,810 ครัวเรือน 2,630,201 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 323 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 1,826,053 ไร่ ถนน 4,916 สาย ท่อระบายน้ำ 669 แห่ง ฝาย 602 แห่ง ทำนบ 123 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 429 แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง 22,399 บ่อ ปศุสัตว์ 162,191 ตัว มีผู้เสียชีวิต 24 ราย (เชียงใหม่ 2 ราย แพร่ 6 ราย แม่ฮ่องสอน 7 ราย สุโขทัย 4 ราย ตาก 1 ราย สกลนคร 1 ราย นครพนม 2 ราย อุดรธานี 1 ราย ) สูญหาย 1 คน จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย นครพนม อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด รวม 39 อำเภอ 286 ตำบล 1,921 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 82,318 ครัวเรือน 285,654 คน ได้แก่ สุโขทัย แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา มุกดาหาร และอุบลราชธานี เบื้องต้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำออกให้บริการในพื้นที่ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ปภ.จะประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป