กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนอันตรายจากการขับรถผ่านเส้นทาง ที่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน พร้อมแนะผู้ขับขี่หมั่นตรวจสภาพยางให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการยึดเกาะถนนและการหยุดรถบนเส้นทางที่เปียกลื่น หากต้องขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ให้ลดความเร็ว จับพวงมาลัยให้มั่น ไม่เหยียบเบรกหรือหักเลี้ยวกะทันหันจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะจะส่งผลให้ล้อล็อคจนรถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำได้
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในบางช่วงของพื้นถนนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถเหินน้ำ(Hydroplaning) ในลักษณะที่ล้อรถวิ่งอยู่บนผิวน้ำแทนที่จะเกาะอยู่บนพื้นถนน ส่งผลให้รถเกิดอาการล้อฟรีจนไม่สามารถควบคุมทิศทางรถได้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะปัจจัยเสี่ยง การป้องกันอุบัติเหตุรถเหินน้ำ และวิธีขับรถผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำท่วมขังพื้นถนน ดังนี้ ปัจจัยที่ทำให้รถเกิดอาการเหินน้ำ ได้แก่ การขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง สภาพยางเก่า ไม่มีดอกยาง ลมยางอ่อนกว่าค่าที่กำหนด หน้ายางกว้างเกินไป ระดับความลึกของแอ่งน้ำ รวมถึงปริมาณน้ำที่ท่วมขังบนพื้นถนน การป้องกันอุบัติเหตุรถเหินน้ำ หมั่นตรวจลมยางและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ เติมลมยางให้มากกว่าปกติประมาณ 2-3 ปอนด์ เพื่อให้หน้ายางแข็งจะช่วยให้มีกำลังในการรีดน้ำได้ดี สามารถไล่น้ำออกจากหน้าสัมผัสของยางได้ทันท่วงที จึงช่วยป้องกันอาการล้อฟรี หากตรวจพบดอกยางสึกหรอควรเปลี่ยนยางใหม่ โดยเลือกใช้ยางที่มีดอกยางละเอียดและมีร่องยางลึก 1.5 — 2 มม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการหยุดรถบนเส้นทางที่เปียกลื่น หากต้องขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ ดังนี้ เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ลดความเร็ว จับพวงมาลัยให้มั่นและควบคุมไปในทางใดทางหนึ่ง เพื่อลดแรงกระแทก
ของแอ่งน้ำกับยาง และควรแตะเบรกก่อนถึงแอ่งน้ำเล็กน้อย เพื่อชะลอความเร็ว ที่สำคัญ ห้ามขับรถด้วยความเร็วสูงไม่เหยียบเบรกอย่างรุนแรงจนล้อรถหยุดหมุนในทันทีหรือหักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวรถกะทันหันขณะขับผ่านแอ่งน้ำ เพราะจะทำให้ล้อไม่มีแรงเสียดทานและไม่สามารถยึดเกาะถนน ส่งผลให้ล้อล็อคจนรถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำได้ วิธีแก้ไขสถานการณ์กรณีรถเหินน้ำ ค่อยๆถอนคันเร่งเพื่อเบาเครื่อง ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นในทิศทางที่ต้องการและลดความเร็วลง โดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ท้ายนี้ การเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่และการไม่ขับรถเร็วขณะขับผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำท่วมขังพื้นถนน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถเหินน้ำได้