กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--เวอร์เทค คลินิกทันตกรรม
โดย ทพ.ดร.อมรพงษ์ วชิรมน
ศัลยแพทย์ช่องปาก ขากรรไกร ใบหน้าและทันตแพทย์จัดฟัน
เวอร์เทค คลินิกทันตกรรม ผิวพรรณ ศัลยกรรมความงาม
เวลาเรามองหน้าคนว่าสวยหรือไม่สวย เราไม่ได้มองแค่ตา จมูก คางหรือฟัน แต่เรามองความสมดุลของใบหน้าทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การมองคนจมูกโด่ง เรามักมองจมูกแล้วเทียบกับแก้มและริมฝีปากของเขา คือบางคนแก้มยุ้ยมาก ริมฝีปากนูนมากๆ อาจทำให้ดูจมูกแบนก็ได้ หรือคนไข้ที่มีการจัดฟันอยู่แล้ว เราก็ไม่แนะนำให้คนไข้ทำจมูกขณะจัดฟัน เพราะหลังการจัดฟัน จมูกอาจดูโด่งขึ้นเมื่อดูเทียบกับริมฝีปาก ทั้งนี้การทำศัลยกรรมจมูกก่อนที่จะเสร็จการจัดฟัน ทำให้กะได้ยากว่า ความสูง ความนูน ความมนหรือความแบนของจมูกจะเป็นอย่างไร เราต้องการขนาดไหน เนื่องจากริมฝีปากจะเปลี่ยนตำแหน่ง เพราะทุกส่วนของใบหน้าและฟันมีส่วนเกี่ยวข้องกันหมด ไม่ว่าจะใช้ฟิลเลอร์ การสลายไขมันที่แก้ม หรือการเพิ่มโวลุ่มให้แก้ม เช่น คนไข้ที่มีแก้มแบนเกินไป เราต้องทำการผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรออกมาเพื่อหนุนแก้มขึ้นมา ก็จะทำให้ตำแหน่งฟันเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งอาจทำให้การสบฟันไม่ดี มีปัญหากับการเคี้ยวอาหาร ฉะนั้นคนไข้ที่มีการผ่าตัดเลื่อนโครงของขากรรไกรบนและขากรรไกรล่าง ส่วนใหญ่จะต้องมีการจัดฟันร่วมด้วย เพื่อให้ตำแหน่งฟันสามารถที่จะสบกันได้ หรือถ้าคนไข้ฟันยื่น ตำแหน่งฟันไม่ถูกต้อง แล้วเราทำการผ่าตัด ทำจมูก ทำแก้ม ทำตา แต่ผลที่ได้อาจทำให้ใบหน้าคนไข้ดูไม่สมส่วนกัน ดังนั้น
การผ่าตัดโครงสร้างใบหน้าอาจมีผลต่อช่องปากดังนี้
- ถ้าเราผ่าตัดโครงสร้างเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ จะมีการเทียบกันระหว่างโครงสร้างที่แก้ม จมูกและริมฝีปาก ซึ่งจะมีผลต่อตำแหน่งของฟัน
- ถ้าเราเคลื่อนโครงสร้างใบหน้าโดยเฉพาะขากรรไกรบนและขากรรไกรล่าง จะทำให้ตำแหน่งฟันเลื่อนด้วย อาจมีผลทำให้คนไข้สบฟันไม่ได้
- ถ้ามีการผ่าตัดบริเวณริมฝีปาก ก็จะมีผลโดยตรงในการทำให้ฟันเราเห็นน้อยลงหรือเห็นมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อใบหน้าของเราทั้งหมด เช่น คนไข้ที่เห็นฟันน้อย เนื่องจากมีการผ่าตัดเพื่อยืดริมฝีปากหรือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเห็นของฟัน โดยเฉพาะการผ่าตัดริมฝีปาก หรือการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ จะมีผลกับความยาวและความสั้นของริมฝีปาก อาจทำให้มองเห็นฟันมากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งการที่เห็นฟันน้อยลง โดยเฉพาะคนที่ยิ้มแล้วไม่เห็นฟันเลย จะทำให้สภาพใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นหรือดูบึ้งตึง หรือการยิ้มเห็นเหงือกมากเกินไปก็ดูไม่สวย ส่วนริมฝีปากล่างก็มีผลเหมือนกัน คือถ้าทำการผ่าตัดริมฝีปากล่าง แล้วริมฝีปากล่างไปดันอยู่เหนือฟัน มีผลทำให้ฟันเปลี่ยนไป นอกจากนี้การผ่าตัดที่มีผลทำให้ริมฝีปากตึงมากขึ้น จะมีผลทำให้ตำแหน่งฟันเราเปลี่ยนแปลงไปด้วย คือ ฟันอาจเกมากขึ้น เนื่องจากความตึงของริมฝีปากมีการกดลงในตำแหน่งฟัน นอกจากนี้การขยับโครงใบหน้า ขากรรไกร อาจมีผลทำให้ตำแหน่งของขากรรไกร ลิ้นและริมฝีปากขาดความสมดุล เช่น ทำให้ฟันมีการเลื่อนตัวมากกว่าปกติ ห่างออกหรือเกมากขึ้น
- การผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อนบนใบหน้าก็มีผลกับตำแหน่งฟันด้วย คือถ้าฟันเกก็จะทำให้ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง แปรงฟันไม่สะอาดก็จะทำให้มีหินปูนและมีจุลินทรีย์จับ หรือการไม่ค่อยไปพบทันตแพทย์ก็อาจนำไปสู่การเกิดโรคเหงือกหรือปริทันต์ ส่งผลให้ฟันผุ และสูญเสียฟันในระยะยาว
- การผ่าตัดโครงสร้างขากรรไกรจะมีผลทำให้ช่องปากและช่องจมูกกว้างขึ้นหรือเล็กลงได้ คือเวลาผ่าตัดขากรรไกรบน และขากรรไกรล่าง อาจมีผลต่อทางเดินหายใจ คือทางเดินหายใจอาจกว้างขึ้นหรือแคบลงได้ เช่น คนไข้ที่ฟันยื่นมากๆ แล้วผ่าตัดถอยคางเข้าไปมาก อาจมีผลทำให้บางคนมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ เพราะช่องทางเดินหายใจเล็กลง ฉะนั้นจึงต้องมีการวิเคราห์คนไข้ก่อนการผ่าตัดทำศัลยกรรม
การวิเคราห์คนไข้ก่อนการผ่าตัดทำศัลยกรรม
1. ดูรูปหน้าของคนไข้ว่ามีความผิดปกติอย่างไร
2. ต้องวิเคราะห์ตำแหน่งของฟัน และรอยยิ้มว่าเป็นอย่างไร
นอกจากการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า และตำแหน่งฟันแล้ว ก็ต้องดูทางเดินหายใจว่าเล็กหรือใหญ่ แล้วนำการตรวจหลายๆ อย่างมาวิเคราะห์ว่า ถ้าเราปรับโครงสร้างใบหน้าอย่างนี้ ตำแหน่งฟันควรเป็นอย่างไรและทางเดินหายใจจะเปลี่ยนแปลงมั้ย คือต้องเอาผลการวิเคราะห์ทั้งสามอย่างมารวมกันแล้วจึงวางแผนการรักษาเพื่อให้คนไข้ดูดีขึ้น รวมทั้งสุขภาพของฟันและทางเดินหายใจก็ต้องดีด้วย เพื่อที่คนไข้จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำศัลยกรรมโครงสร้างใบหน้า เป็นต้น