กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ประกาศงบไตรมาส 2 กำไรเพิ่ม 122.76% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนงวด 6 เดือนรายได้เพิ่มเป็น 213.39 ล้านบาท เหตุคำสั่งซื้อเพิ่ม และบริหารจัดการต้นทุนดี ส่งผลอัตรากำไรปรับตัวสูงขึ้นแย้มครึ่งปีหลังช่วง High Season ทยอยส่ง Backlog กว่า 470 ล้านบาท ดันรายได้ทะลุ 20% ลั่นปี 2555 บุกตลาดต่างประเทศเพิ่ม พร้อมเดินหน้าโครงการก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียที่ร่วมกับพันธมิตรเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่ง
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานกรรมการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2554 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิเท่ากับ 0.87 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 3.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 122.76% ขณะที่ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัทฯมีกำไรสุทธิเท่ากับ 6.36 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 10.36 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 161.39%
โดยสาเหตุที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานดังกล่าวปรับตัวขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ 103.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.27 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 69.95 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 47.56% เช่นเดียวกับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็น 23.32% และ 0.84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 19.69 เนื่องจากบริษัทฯมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้นตามลำดับ
"ผลประกอบการของไตรมาส 2 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ และลูกค้าภาคเอกชน โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าที่เป็นหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจที่สูงถึงร้อยละ 39.08 เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนในไตรมาสเดียวกันของปี 2553 ที่มีเพียงร้อยละ 1.43 ซึ่งจากการที่บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายให้แก่ลูกค้าที่เป็นหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจที่สูงนั้นส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากลักษณะการสั่งซื้อหม้อแปลงของลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจนั้นจะเป็นการสั่งซื้อในปริมาณมากส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) "นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มของผลประกอบการในครึ่งปีหลัง นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส3 และไตรมาส 4 ของทุกปีถือเป็นช่วงที่รายได้ของบริษัทฯมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจากการเป็น High Season ของธุรกิจที่ทยอยส่งมอบงานให้ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) รอรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังแล้วประมาณ 470 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้รวมของปีนี้เติบโตมากกว่า 20% ตามที่บริษัทฯได้คาดการณ์ไว้
ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2555 บริษัทฯเตรียมบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมีการศึกษาประเทศที่บริษัทฯมีการส่งออก สินค้าอยู่แล้ว ตลอดจนประเทศที่มีการขยายตัวของการใช้ไฟฟ้า อาทิ ประเทศในแถบแอฟฟริกา เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง ตลอดจนเป็นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียที่ดำเนินการร่วมกับพันธมิตร 2 ราย คือ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC และบริษัท สามร้อยยอด จำกัด ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้โดยคาดว่าจะทราบผลการศึกษาภายใน 6 เดือน