กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--เกษมกิจ
วันแม่ปีนี้หลายคนคงทำตัวเป็นเด็กดีของคุณแม่ ชวนคุณแม่ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือพาคุณแม่ไปท่องเที่ยว วันนี้ หนูสิ — สิริรัตน์ เรืองศรี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010 ซึ่งกำลังจะอำลาตำแหน่งในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ เลยถือโอกาสพาคุณแม่ รัชกร ศุภชาติไกรสร ไปเที่ยวพักผ่อนและทำคอร์สสปา ที่เคป สปา โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน
เมื่อถึงโรงแรมหนูสิก็จูงมือพาคุณแม่เข้าทำสปาที่เคป สปาทันที โดยเลือกใช้บริการนวดแผนโบราณ และ สปาขัดผิว โดยเริ่มจากเปลี่ยนชุดที่เคป สปาจัดไว้ให้ และ เอนกายนอนข้างๆคุณแม่ อย่างผ่อนคลาย
หนูสิ เล่าในระหว่างรอทำสปาว่า “สิกับคุณแม่รักสุขภาพมากๆ เราทั้งสองคนชอบเล่นโยคะเหมือนกัน และปกติจะทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกันตลอด แถมยังชอบช็อปปิ้งเหมือนกันอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเข้าประกวดใหม่ๆคุณแม่ก็จะติดเป็นเงาตามตัวเลยค่ะ ชอบนะที่มีคุณแม่ไปไหนด้วยตลอด จะได้ช่วยเราดูแลตลอดในเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ ทุกๆ เรื่อง ด้วย”
หนูสิเล่าต่ออีกว่า “วันแม่เป็นวันที่สำคัญนะคะ แต่สำหรับหนูสิเองแม่สำคัญทุกวันตลอดเวลา ที่มาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะคุณแม่ที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010 ด้วย เพราะคุณแม่เคยได้รับตำแหน่งมิสออด๊าซมาก่อน คุณแม่จึงเก่งเรื่องการดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก คุณแม่เลยมักจะสอนสิเรื่องการวางตัว บุคลิค การแต่งตัว การแต่งหน้า วันประกวดรอบชิงยังให้เครื่องรางขึ้นเวทีด้วย รู้ว่าเค้าเป็นห่วงเรา สิจึงอยากให้คุณแม่พักผ่อนบ้าง วันนี้ก็เลยถือโอกาสพาคุณแม่มาทำสปา มารับลมทะเลที่หัวหิน ที่สำคัญวันนี้ก็ต้องขอบคุณทางเคป สปา โรงแรมเคป นิทรา ที่ให้หนูสิกับคุณแม่มาทำสปากัน กลับไปจะได้สดชื่นผ่อนคลายมีแรงสู้งานกันต่อค่ะ”
จากนั้นหนูสิและคุณแม่ก็นิ่งเงียบเหมือนหลับลึก ขณะที่เทอราพีสเริ่มนวดตัวไปได้สักพัก เมื่อเสร็จจากการนวดตัวแล้ว หนูสิและคุณแม่จึงเปลี่ยนชุดและเลือกกลิ่นสครับขัดผิวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำทรีตเม้นท์ต่อไป โดยหนูสิเลือกใช้กลิ่นโคโคนัท และ คุณแม่เลือกกลิ่นคอฟฟี่ เพื่อใช้ในการขัดผิว
ระหว่างการรอขัดผิวคุณแม่ รัชกร ศุภชาติไกรสร เล่าถึงลูกสาวบ้างว่า “เราสนิทกันมา เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกันตลอด คือ เราเป็นห่วงเค้า เราเคยผ่านเวทีเคยมีประสบการณ์มาก่อน พอเห็นเค้าเข้าประกวดก็พอจะรู้ว่าจะต้องเจอเรื่องอะไรบ้าง จะต้องรับมือกับงานต่างๆที่เข้ามาอย่างไร แม่จะคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอดซึ่งน้องก็เข้าใจและทำได้เป็นอย่างดี ก็ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มากค่ะ”
หลังจากนั้น 1 ชม. เมื่อเสร็จจากการขัดผิวแล้ว หนูสิและคุณแม่ก็นั่งผ่อนคลายจิบน้ำมะตูมร้อน และพุดคุยกัน คุณแม่จึงบอกกับเราอีกว่า “สิ่งที่ยังห่วงตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องสุขภาพของน้อง เพราะจะมีงานค่อนข้างเยอะ และไม่ค่อยได้พักผ่อน ก็อยากให้เค้าดูแลตัวเองด้วย พักผ่อนเยอะๆ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ห่วงอะไรมากแล้วค่ะ.” น้องสิหันมายิ้มน้ำตาซึมพร้อมหอมคุณแม่ 1 ฟอด และกล่าวกับคุณแม่ว่า “วันหลังเรามาทำสปาด้วยกันอีกนะคะ” และกล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า “วันแม่ปีนี้เป็นอีกปีที่หนูสิมีความสุขที่ทำให้คุณแม่มีความสุขค่ะ” กล่าวเสร็จแล้วก็หันไปยิ้มกับคุณแม่