กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--IR network
EARTH ติดจรวดโชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/2554 สูงเป็นประวัติการณ์ 93.23 ล้านบาท พุ่งขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 2,135 % พร้อมแจกข่าวดีชั้นที่ 2 เผยผลสำรวจจาก JORC ปริมาณสำรองถ่านหินเหมืองทั้ง 2 แห่งในอินโดนีเซียของ TTP อยู่ที่ 7.4 ล้านตัน "ขจรพงศ์ คำดี" ระบุลุยงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้เกิดกับผู้ถือหุ้นและบริษัท ประเมินแนวโน้มธุรกิจจากนี้สดใส พร้อมนับเวลาถอยหลังขุดและจำหน่ายถ่านหินจากเหมืองของตนเองได้ทันที ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในอนาคตเติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นทุกปี
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยถึง ผลประกอบการโดยรวมงวดไตรมาส 2/2554 สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2554 ของบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 93.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 2,135% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.17 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 155.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 119.77% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 12.04 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,961.79ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจาก 686.35 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 185,83 เนื่องจากสามารถจำหน่ายถ่านหินในปริมาณที่สูงขึ้น และราคาถ่านหินจำหน่ายเฉลี่ยต่อตันปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันมีกำไรขั้นต้น 320.97 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจาก 103.81 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 209.19
“ผลการดำเนินงานของ EARTH เติบโตอย่างมากในครั้งนี้ เนื่องมาจากบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมียอดขายที่สูงขึ้นและความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความมุ่งมั่นในการทำงานและการทุ่มเทอย่างเต็มที่จากทั้งคณะผู้บริหารและพนักงานของ EARTH ทุกคน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัท ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างที่เห็น”
พร้อมกันนี้ EARTH ได้รายงานว่าผู้ประเมินอิสระและมีใบอนุญาตในการออกรายงาน JORC ( Joint Ore Reserves Committee) ได้จัดส่งรายงานการประเมินเหมืองทั้ง 2 แห่ง ให้แล้ว โดยเป็นเหมืองเปิดทั้งคู่ตั้งอยู่ที่ South Kalimantan โดยมีปริมาณสำรองถ่านหิน (Measured) จานวน 7.4 ล้านตัน ขณะนี้รอเพียงผลการอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 กย.54 นี้ เมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้วบริษัทพร้อมจะเข้าไปดำเนินการขุดถ่านหินจากเหมืองของตนเองและจัดจำหน่ายถ่านหินจากเหมืองได้ทันที
นายขจรพงศ์ กล่าวในช่วงท้ายว่าแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ EARTH นับจากนี้จะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เพราะการมีเหมืองถ่านหินเป็นของบริษัทเอง จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากคู่ค้าว่าสามารถส่งสินค้าได้ตามปริมาณและระยะเวลาที่ต้องส่งมอบ และที่สำคัญคือทำให้ EARTH มีความมั่นคงของธุรกิจถ่านหินซึ่งจะลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในระดับที่ดีต่อเนื่อง จากการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง รวมถึงทำให้อัตรากำไรของบริษัทดีขึ้น