กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม
บทบาท-คาแร็คเตอร์
เรื่องนี้พลอยรับบทเป็น “แม่หญิงคำแก้ว” ค่ะ พื้นเพจริงๆ แล้วแม่หญิงคำแก้วก็คือลูกสาวคนครัว ได้รับการเลี้ยงดู ได้รับเลือกให้เป็นภรรยาของขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า ผู้หญิงในสมัยนั้นไม่ว่าจะยุคโบราณหรือยุคนี้ผู้หญิงก็จะเป็นช้างเท้าหลังที่จะต้องถูกกดขี่ข่มเหงหรืออะไรต่างๆ นานาค่ะ แม่หญิงคำแก้วก็จะเรียบร้อย แต่...พลอยบอกไม่ถูกนะ แต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวละครดีแต่พูดเอาดีเข้าตัวเอง เสียหน้าไม่ได้ เสียศักดิ์ศรีไม่ได้ เสียเงินทองเป็นเรื่องเล็ก เสียหน้าเสียศักดิ์ศรีเป็นเรื่องใหญ่ แล้วก็แต่ละคนแต่ละคาแร็คเตอร์ก็แรงชัดเจน แต่ว่าตัวแม่หญิงเองจริงๆ แล้วก็เป็นแค่แม่หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่เกิดในสังคมของลูกคนครัวแล้วก็ ถูกชุบให้มาเป็นภรรยาของขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า ซึ่งท่านเองก็เป็นคนเลือกที่จะแต่งงานกับเราเองด้วย แต่ว่ามันก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้รู้ว่าแม้แต่คนที่เราคิดว่าเขารักเราที่สุดแล้วแต่ไม่ใช่ คนที่ดีกับตัวเราที่สุดก็คือตัวเรา มันเป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวของมนุษย์อะไรอย่างนี้ค่ะ
พลิกบทบาทจากเรื่องที่ผ่านๆ มาอย่างไรบ้าง
มันไม่เหมือนหนังเรื่องไหนๆ เลยค่ะ พลิกอย่างแน่นอนเพราะว่าบทภาพยนตร์นี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นบทที่นักแสดงทุกคน แทบจะทุกคนไม่ว่าจะเป็นที่ฮอลลีวู้ดหรือที่เมืองไทยหรือว่าที่ไหนเนี่ย เขาใช้บทแม่หญิงคำแก้วเนี่ยสอบการแสดง คือนักเรียนที่เรียนกำกับการแสดง เรียนการแสดง เขาก็จะใช้บทนี้สอบทั้งนั้นเลย ซึ่งเป็นบทที่ท้าทายมาก แล้วก็ยากมาก เพราะว่าต้องเล่น 4 แบบ เล่าเรื่อง 4 แบบ 4 อารมณ์ค่ะ
แล้วเนื้อหาก็ค่อนข้างเข้มข้นมาก ตัวละครก็จะเยอะ เรื่องหนึ่งคนนี้เล่าเราก็เล่นตามนั้น คนนี้เล่าเราก็เล่นตามนั้น เล่นตามที่เขาเล่า แต่เราเล่ามันก็เป็นอีกแบบ แต่ความจริงมันเป็นแบบนี้เราก็เล่นแบบนี้อะไรอย่างนี้ค่ะ
มีการซักซ้อมการแสดงกับหม่อมน้อยอย่างเข้มข้นด้วย
มันเยอะมากตอนที่พลอยซ้อมเนี่ย พลอยแบบความจำเต็มเลย พลอยงงมากต้องใช้เวลาทำการบ้านนานมาก ตอนที่ถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้เองพลอยก็ถ่ายละครอยู่แล้ว 2 เรื่อง แล้วก็ต้องมารับอีก 4 คาแร็คเตอร์ รวมเป็น 7 คาแร็คเตอร์ เกินตัวจริงๆ ไม่เคยต้องรับหน้าที่ขนาดนี้มาก่อนในเวลาเดียวกัน ก็ใช้เวลาเหมือนกันกว่าจะปรับตัวเป็นแม่หญิงคำแก้วอย่างเต็มตัว ใช้เวลาซ้อม ซ้อมกับตัวเอง ซ้อมกับหม่อม เหมือนอย่างที่ทุกๆ ครั้งที่ทำกับทีมงานและนักแสดงทุกคนค่ะ
การร่วมงานกับหม่อมน้อยและอนันดาอีกครั้งหนึ่ง
การทำงานของพวกเรานี่คือ พวกเราทำงานมาด้วยกัน 10-11 ปีแล้วที่ทำงานกับหม่อมมา มันเหมือนเป็นครอบครัวแล้ว ทุกอย่างมันคุ้นเคยการทำงานแบบนั้น แล้วพลอยก็ชอบทำงานกับหม่อม ชอบทำงานกับอนันดา ชอบทำงานกับพี่เจี๊ยบ เพราะว่าเราเล่นกันมาแล้วหลายเรื่อง ทุกคนก็เหมือนมีอะไรก็คุยกัน เวลาเล่นเนี่ยเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีทุกคน ส่งอารมณ์ถึงกันหมด แล้วหม่อมน้อยก็เป็นคนที่ละเอียดอ่อนมาก แล้วทำงานเนี่ยทำด้วยความรักและศรัทธา แล้วก็ใส่จิตวิญญาณลงไป ซึ่งพลอยพูดได้เลยว่าหาใครคนไหนไม่ได้แล้วที่จะเป็นแบบนั้น น้อยคนมากที่จะใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง แม้กระทั่งการแสดงของนักแสดงทุกคน พลอยโชคดีที่หม่อมให้โอกาส แล้วก็เอ็นดูเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง พลอยก็สะดวกใจที่ได้ทำงานกับหม่อม แล้วก็สะดวกใจที่ได้เล่นเป็นภรรยาอนันดาไปเรื่อยๆ คือเขาเป็นคนอย่างที่รู้กันค่ะ เราเป็นเพื่อนรักกัน พลอยรู้สึกดีกับเขา พลอยรู้สึกสบายใจกับเขามากเลยในทุกๆ เรื่อง แล้วก็เวลาพวกเราทำงานเราเป็นคนเปิด เวลาแสดงมันเหมือนเป็นคลื่นความถี่เข้าหาด้วยกันได้ มันส่งอารมณ์แล้วมันโดน มองตาแล้วมันใช่ค่ะ
ฉากประทับใจที่เล่นกับอนันดาในเรื่องนี้
มีฉากหนึ่งแบบอนันดาต้องไม่รู้สึกอะไรเลยกับพลอย แต่พลอยเพิ่งโดนข่มขืนมา แล้วอนันดากลับมองด้วยสายตาเหยียดหยามมาก แกมันขยะ สายตาที่ส่งมาทั้งๆที่พลอยเป็นเมีย คือแบบพลอยก็ต้องแสดงอารมณ์ออกมามันเหมือนคนจะบ้า คนเสียใจผิดหวัง ทำไมคนที่รัก ทำไมไม่ปกป้องฉันเลย กลับจะผลักไสไล่ส่งออกไปอีก พลอยเล่นเป็นซีนที่เครียดมากเลยนะ อนันดาถึงขั้นต้องสงบสติอารมณ์ จริงๆ แล้ววันนั้นอนันดาต้องไม่รู้สึก อนันดาต้องมองพลอยแบบเหยียดที่สุด อนันดาร้องไห้ อารมณ์มันแรงมาก อารมณ์คนแบบสิ้นไร้ไม้ตอก พลอยส่งอนันดาเขารับไง เขารับอารมณ์อยู่ยาก เก็บอารมณ์เข้ามากก็กลั้นไว้ไม่อยู่ ก็ร้องไห้ออกมาเลย ก็เป็นฉากที่อารมณ์แรงมากๆ ฉากหนึ่งที่ชอบค่ะ
การร่วมงานกับพี่ดอม
เล่นกับพี่ดอมเป็นเรื่องแรกเลยค่ะ สำหรับพี่ดอมเองเคยรู้จักกับพี่ดอมตอนอายุ 17 พี่ดอมเป็นนักแสดงรุ่นพี่ที่แบบเราก็เจอกันแล้วก็คุยกัน คือเขาเป็นคนน่ารักมาก คือเป็นพี่ที่แบบน้องมีปัญหาอะไรปรึกษาพี่ได้อะไรอย่างนี้ เขาน่ารักเป็นคนที่สนุกสนาน เป็นพี่ชายที่แสนดีแสนอบอุ่นมาก แล้วกว่าจะได้ร่วมงานกันนี่พลอยก็รอมาตั้งนาน รอมานานมากที่จะได้ทำงานกับคุณดอม อยากทำงานร่วมกันมาก พี่ดอมเป็นนักแสดงที่เก่ง ถือว่ามีวินัย แล้วก็มีพลังในการแสดงสูงมาก พลังเยอะมาก เล่นแบบเยอะอึด เขาแสดงแบบชัดมากไปทุกเรื่องเลย พลอยเห็นครั้งที่พี่ดอมซ้อม พลอยบอกพี่ดอมไปซ้อมมาจากไหน ทำไมถึงจำบทได้หมดเลย 20 กว่าหน้าทำไมจำได้หมด พี่ดอมบอกว่าพี่ซ้อมมาแล้วไม่รู้กี่หน มิน่าล่ะมาซุ่มก่อน แล้วช่วงนั้นพลอดติดละครพลอยก็มาไม่ได้ เขาก็บอกพี่เป็นน้องใหม่ครับ ผมเป็นเด็กใหม่ผมเพิ่งเข้ามา คุณก็เป็นลูกคนกลาง ผมเป็นน้องใหม่ ผมก็ต้องตั้งใจ เขาก็รู้หน้าที่
เป็นบทบาทการแสดงที่เข้มข้นที่สุด
ใช่ค่ะ เรียกว่าเป็นบทบาทที่เข้มข้นที่สุดในชีวิตที่เคยเล่นมา แล้วเล่นอย่างหมดตัวจริงๆ พลอยเล่นแบบหมดตัวเลยคราวนี้ พลอยใส่เต็มที่หูตาพลอยออกมา พูดได้เลยเรื่องนี้หาพลอยสวยยาก แต่เราไม่ได้มาดูหนังเพราะว่าความสวยงามของนักแสดง หน้าตาพระเอกหล่อไหม มันจะเน้นเรื่องการแสดงล้วนๆ แล้วก็ความสุนก ความหลากหลายมันดูแล้วมันมาก พลอยพูดตรงๆ พลอยอ่านบทแล้วพลอยชอบมาก พลอยเคยดูพีสาวพลอยทำ Thesis พี่สาวพลอยเรียน มศว. ประสานมิตร เรียนกำกับการแสดงพลอยเคยเห็นเขานั่งทำรายงานอยู่ ไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะได้เล่น มันเป็นอะไรที่แบบว่าเราได้รับเกียรติสูงส่งมาก ได้รับหน้าที่อันสำคัญอีกแล้ว เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เล่นบทประพันธ์ดีๆ แบบนี้ พลอยก็ต้องทำให้ดีค่ะ
ยากที่สุดคงเป็นฉากสุดท้าย 9 หน้าค่ะ แต่ก็โชคดีนะหม่อมเค้าแบ่งคัท เพราะเราต้องมีภาพแต่ละมุมไป แต่ว่าเป็นไดอะล็อคที่ยากมาก ก็คือไดอะล็อค 2 หน้าสุดท้ายของพลอย เฌอมาลย์นี่แหละ เป็นที่หลากหลายอารมณ์มาก ร้องไห้ หัวเราะเป็นคนบ้าเหมือนหมาไฮยีน่าเลย แต่อันนี้แค่เลเวล 2 นะ ขอโทษค่ะมีเลเวล 10 หัวเราะเป็นแม่มดแล้วแบบลุกขึ้นมาหัวเราะใส่หน้าผู้ชายด่าๆๆๆๆ แล้วถุยน้ำลายใส่ มันสะใจมากค่ะ เป็นบทที่ยากจริงๆ แล้วบางทีเหมือนเราอินมาก ก็จะเครียดเลยค่ะ บางฉากที่พลอยเล่าพลอยเอามีดปักอนันดา เอ็นคอมันขึ้น คอเป็นเอ็นแล้วเห็นเป็นเส้นเลือดเลยค่ะ ดูในมอนิเตอร์แล้ว โห...พลอยเครียดมากจริงๆ แล้วก็คอเป็นเอ็น เป็นเส้นอะไรหมดเลย คือเครียดจริงๆ แบบพลอยใส่ไปเต็มที่เลย แต่มึนนะ กลับบ้านมึนหัวมาก แต่โชคดีคือตัดแล้วตัดเลย เวลาคัทปุ๊บพลอยจะออกมาอยู่ในโลกของพลอย แต่พลอยก็ไม่ได้ลั้นลา แต่พลอยก็จะมองนกมองฟ้า นั่งอ่านบทไปเรื่อย ดูเขาทำงาน พอเข้าซีนเราก็เอาใหม่ค่ะ
มันสำคัญมาก เราต้องไม่ยึดติด มันเหมือนเป็นคำสอนของพุทธศาสนา ไม่ยึดติดก็คือไม่ยึดติดอะไรทั้งสิ้น รูปธรรม นามธรรม เงินทองของนอกกายหรือว่าติดกับความคิดอะไรต่างๆ นานา มันต้องตัด โชคดีที่พลอยจะแบบไม่คือไม่ ก็เลยเอาหลักการใช้ชีวิตมาใช้ในการแสดง ก็ช่วยได้มากเลยค่ะ
ปัญหา-อุปสรรคในการทำงาน
อุปสรรคที่ต้องทำงานต่างกองนี่แหละค่ะคือปัญหาของพลอย พลอยว่ามันยากนะ มันต้องทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ปีหนึ่งพลอยอยากให้มันมีซัก 600 กว่าวัน 365 วันไม่เพียงพอสำหรับพลอย เหนื่อยมากช่วงนี้โทรมหน้าแหลม คอยาว เป็นกะหรี่ยง สังเกตเวลารวบผมตึง คอยาวมากน่ากลัว หันด้านข้างมาตายแล้วน่ากลัว เพราะมันเหนื่อยมากค่ะ ต้องแบกรับถึง 7 คาแร็คเตอร์ มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยทีเดียว นี่กำลังมาใหม่อีกเรื่องนะ เดี๋ยวจะเคลียร์เรื่องนี้ให้เสร็จก่อน ก็เนี่ยแหละเรื่องเวลาที่ต้องทำให้ดี ต้องรักษามาตรฐาน รักษาคุณภาพให้มันดีเพราะว่าพลอยเหนื่อยมากจริงๆ พลอยแบบจะเอาตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้ เวลาพลอยทำงาน ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด
ไม่ได้นอนนี่เรื่องเล็ก เมื่อก่อนไปเที่ยวไม่ได้นอนไม่เห็นบ่นซักคำ นี่แค่ตื่นตี 4 แล้วก็ทำงาน เรื่องเล็ก อย่าไปคิดมาก แต่เวลาผ่านไปเร็วนะคะ เพราะว่าพลอยถ่ายแต่ตอนกลางวัน แล้วก็มันเหมือนสนุก มันเล่นๆ ไปเรื่อยๆ มันหยุดไม่ได้ บางทีหม่อมบอกพอแล้ว แต่พลอยขออีกนิดนึง หนูติดไดอะล็อคอันนี้นิดเดียว หม่อมแกก็น่ารักนะแกให้ด้วย
ความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้
อย่างที่พลอยบอกค่ะ ด้วยบทประพันธ์ก็มาที่ 1 และตัวท่านคึกฤทธิ์ ตัวหม่อมน้อยเอง คุโรซาว่าอีก ใครๆ ก็รู้ว่าเรื่องนี้น่าดูมาก พลอยพูดได้คำเดียวว่าน่าดูมาก อย่างที่บอกโดยเฉพาะที่เป็นนักเรียนการแสดงเนี่ยจะต้องรู้จัก แล้วก็เป็นภาพยนตร์ที่น่าดูอะไรอย่างนี้ เนื้อหาความจริงมันมีอยู่เรื่องเดียวแต่แต่ละคนก็เล่ามาแต่ละอย่าง ก็ตีความกันคนละแบบ มันก็แสดงแตกต่างกันมาก ไฮไลต์ก็เยอะเลย พลอยว่าไฮไลท์ทุกเรื่องทุกฉากเลยค่ะ ต่างคนต่างเล่ามันก็ต่างสไตล์ ก็มีทั้งดราม่า แอ็คชั่น ขำก็มี ยิ่งตอนสุดท้ายนี่ขำกลิ้งเลย เป็นอะไรที่ครบรสชาติมาก
อยากให้คนไทยสนับสนุนหนังไทยดีๆ อะไรอย่างนี้ เราก็มาดูหนังไทยที่มีคุณค่า หนังสนุกมาก ภาพสวย ความละเอียดอ่อนมีทุกอย่าง เรื่องราวเนี่ยมันจะให้อะไรเยอะมากเลยนะ พลอยบอกตรงๆ พลอยอาจจะพูดอะไรไม่ดีมาก พลอยไม่รู้จะเรียบเรียงยังไง ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนที่มีคาแร็คเตอร์อยู่ในหนังที่พลอยเล่น เขาก็จะเห็นว่ามันไม่ดีนะ เราควรรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราก็ควรดีๆ กันไว้ รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่าทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย แล้วก็เหมือนอาจจะทำให้คนยอมรับด้วยกัน เพราะว่าคนเราจะดีจะชั่วจะถูกจะผิด สุดท้ายแล้วเนี่ยก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น เพราะตัวเรานี่แหละรักตัวเราที่สุด ตัวเรานี่แหละที่เห็นคุณค่าของตัวเราที่สุด ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเรา ใช่ไหมคะ แต่บางทีตัวเราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดค่ะ ต้องไปดูค่ะหนังให้สาระในการใช้ชีวิตมากเลยค่ะ