กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--พม.
เมื่อวานนี้ (๑๕ ส.ค.๕๔) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายในบริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กรุงเทพฯ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางเข้ากระทรวงฯ เป็นวันแรก ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยถือฤกษ์ ๐๙.๐๙ น. เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ในบริเวณกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และภายในบริเวณสถานสงเคราะห์บ้านราชวิถี พร้อมเรียกประชุมผู้บริหาร เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นกระทรวงหลักที่จะต้องดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะ“สตรี”ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ที่สมควรได้รับการส่งเสริมสิทธิ บทบาท และความเท่าเทียมในสังคม กระทรวงฯ จึงต้องมีบทบาทในการดูแล สร้างโอกาส พร้อมทั้งช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูสตรีที่ประสบปัญหา ในเบื้องต้น จึงได้แจ้งให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสตรี ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ลงไปวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละพื้นที่ และทำรายงานสรุปส่งมาให้กระทรวงฯ เพื่อที่จะได้รับทราบถึงปัญหาและความต้องการที่ตรงจุด โดยในส่วนของนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ ๑.ปัญหายาเสพติด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ในส่วนของพม.จะเข้าไปมีบทบาทในการดูแลเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ที่ติดยาเสพติด ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ๒.ภัยน้ำท่วม โดยเข้าไปเยียวยาช่วยเหลือ ทั้งในระยะเบื้องต้น เช่น การมอบเงินสงเคราะห์ รวมทั้งการช่วยเหลือในระยะยาว โดยให้การอบรม สร้างอาชีพ และให้ทุนสำหรับการดำรงชีพ ให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ๓.การดูแลผู้ด้อยโอกาส และพัฒนาแหล่งเสื่อมโทรมต่างๆ เพื่อลดต้นตอของการเกิดปัญหาสังคม ๔.จัดตั้งกองทุนส่งเสริมบทบาทสตรี จังหวัดละ ๑๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอาชีพให้สตรี ได้มีรายได้และอาชีพเสริม ซึ่งจะต้องศึกษาดูความเหมาะสมตามแต่ละจังหวัดก่อน ๕.เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยังคงนโยบายไว้เหมือนเดิม โดยจะปรับอัตราขึ้น แต่ต้องรอความชัดเจนหลังแถลงนโยบาย ในวันนี้ เวลา ๑๕.๐๐ น. ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมพร้อมกัน เพื่อสรุปนโยบาย ก่อนจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานตามนโยบายต่อไป
“การเข้ามารับตำแหน่งนี้ นับเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ ซึ่งงานด้านการพัฒนาสังคม ก็เหมือนกับการปิดทองหลังพระ แต่ก็เป็นงานที่สำคัญ ที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข และสังคมน่าอยู่ ดังนั้น อะไรที่สามารถทำเพื่อสังคมได้ ก็จะพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่”นายสันติ กล่าว