กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--อาร์เอส
ถ้าเอ่ยถึง “เม-จิระนันท์” หลายคนก็จะนึกถึงสาวนักร้องเสียงดี ที่ร้องเพลงเหงาเศร้าได้จับใจเป็นที่สุด แต่ถ้าเอ่ยถึง “เม-จิระนันท์” ในแบบที่เปรี้ยวจี๊ด และทิ้งอารมณ์เศร้ามาสนุกสนานในแบบ “Happening” แล้วล่ะ ยังนึกไม่ออกใช่ไหม!! ติดตามความเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์ในแบบ “Happening” ได้ในสกู๊ป “Happening Me’” !!!
ดูเปลี่ยนไปเยอะเลย?
เม : คือที่ผ่านมาเมก็ร้องแต่เพลงช้า เป็นเพลงเหงา เศร้าอะไรแบบนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเมก็รู้สึกว่ามีอีกมุมนึงที่เมเป็นคนสนุก แต่ว่าไม่ค่อยมีใครได้เห็นมุมนี้นัก ก็เลยคุยกันกับทีมงานว่าเออ อัลบั้มนี้เมขอนะ ขอแบบเปิดตัวด้วยเพลงเร็ว แล้วก็ให้คนแบบเห็นแล้วอยากจะสนุก อยากจะเต้นตามไปกับเมด้วยก็เลยมาลงที่ “Happening Me’” ค่ะ
เซ็กซี่ขึ้นไหม?
เม : จริงๆ คอนเซ็ปต์เนี่ยมันไม่ได้วางไว้ว่าต้องเซ็กซี่หรืออะไรนะคะ แต่วางไว้ว่าดูแล้วจะต้องเปลี่ยน ดูแล้วแบบว่าเปรี้ยวอะไรอย่างนี้มากกว่า ตามเพลงค่ะ เพลงก็จะเป็นแนวสนุกๆ ด้วยก็เลยใส่เสื้อผ้าให้เข้ากับเพลงด้วย
คิดว่าตัวเองเซ็กซี่ไหม?
เม : จริงๆ เมไม่คิดว่าตัวเองเซ็กซี่นะคะถึงได้กล้าที่จะแต่งตัวเปรี้ยวขนาดนี้เพราะว่า เมคิดว่าตัวเองเป็นคนรูปร่างตัวเล็กด้วย แล้วก็เล็กมากด้วย (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าใส่ชุดแบบนี้แล้วคงไม่น่าเกลียดอะไร แต่คนที่มีความเซ็กซี่ มีเซ็กแซพเพียวสูงเนี่ยแค่เขาใส่เสื้อยืดเขาก็สามารถจะดูว่าเซ็กซี่ได้ ก็อยากจะให้มองว่าเป็นแฟชั่น แล้วก็เป็นความเปรี้ยวที่เหมือนกับเพลงนี้ค่ะ
ความเป็นมาของชื่อ “Happening Me’”?
เม : ก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นอะไรที่แบบอยากให้คนแห็นแล้วอุ๊ย!! เมหรอ ดูเปลี่ยนไปนะเพราะว่า เมก็แบบเป็นคนขี้เบื่ออยู่แล้วก็อยากหาอะไรใหม่ๆ ให้ทั้งตัวเองและก็คนฟังด้วยค่ะ ก็เลยเหมือนกับว่า เฮ้ย!! มันเกิดขึ้นแล้วนะ แบบ “Happening” เลยอะไรอย่างนี้
แนวเพลงของ “Happening Me’”?
เม : ก็เป็นป๊อบร็อคเหมือนเดิมนะคะเป็นพื้นฐานแต่ว่าจะมีซาวน์ดนตรีใหม่ๆ เข้ามาอย่างเช่น ดิสโก้ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นแฟชั่นทางดนตรีนะคะ แล้วก็มีความเป็นโซลซึ่งยังไม่เคยใช้เลยในอัลบั้มผ่านๆ มา อัลบั้มนี้ก็จะใช้มากขึ้น และก็มีอาร์แอนด์บีในบางเพลงด้วยค่ะ
เพลงใน “Happening Me’”?
เม : เพลงแรกก็ชื่อว่า “Call Me Baby” ก็คอนเซ็ปต์นะคะอย่างที่บอกว่าเพลงแรกเนี่ยอยากให้คนเห็นแล้วแบบดูแล้วแบบว่าเมหรอ ดูแปลกหูแปลกตาไป ก็ขอเลยว่าคนฟังเพลงนี้แล้วต้องเต้นตาม ต้องสนุกตามไปด้วยได้ค่ะ เนื้อเพลงก็จะเป็นอะไรที่สนุกสนาน ออกแนวแบบกวนๆ เป็นคนสมัยใหม่แล้วก็อาจจะใช้คำที่ดูเป็นศัพท์แบบวัยรุ่นนิดนึง ที่เขาใช้กันอยู่ปัจจุบันนี่ค่ะ ก็เป็นการชวนคนมาเที่ยวกัน ชวนเพื่อนก็ได้ ชวนใครก็ได้ที่อาจจะอยู่ในอารมณ์แบบว่าเฉยๆ หรือเบื่อๆ อยู่ค่ะก็ให้ “Call Me” แล้วมาเที่ยวกัน
เพลงที่ 2 ชื่อว่า “ไม่อยากเป็นแค่กิ๊ก” เพลงนี้ก็เป็นเพลงช้าซึ่งมีความเป็นร็อคมากขึ้นนะคะจากอัลบั้มที่ผ่านๆ มาด้วยซาวน์ดนตรีที่ฟังดูก็จะแปลกหูไปอีกแบบนึง แล้วก็เมโลดี้ที่แบบค่อนข้างเปลี่ยนไปด้วยค่ะ ก็เป็นเนื้อเพลงประมาณว่า เราเนี่ยตกอยู่ในสภาพที่แบบเป็นกิ๊กมานานแล้ว อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าเป็นกิ๊กเขา เขาอาจจะมีคนของเขาอยู่ แต่เมื่อถึงวันนึงที่เรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้วนะ ไม่อยากจะตกอยู่ในสภาพนี้แล้วเพราะว่ามันก็ทรมานแล้วก็รู้สึกเป็นทุกข์ ก็เลยถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นมาบอกแล้วว่าไม่เป็นแล้วนะ ไม่ขอเป็นกิ๊กเธออีกแล้ว
เพลงต่อไปชื่อเพลงว่า “อยากเปลี่ยนเบอร์โทร” ค่ะ เพลงนี้ก็ใครที่ยังคิดถึงเมในแบบเก่าๆ เพลงเหงาๆ ก็อาจจะชอบเพลงนี้เพราะว่า เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ฟังง่ายๆ อาจจะเน้นอารมณ์เป็นหลัก ก็เศร้าเลยแหละ พูดถึงคนรักที่ถึงแม้ว่าจะจากกันไปแล้ว เลิกกันไปแล้วแต่ว่าตัวเราเอง ใจเราเองก็ยังไม่เคยเปลี่ยน มันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน อย่างเช่น แบบเรารู้สึกรอเขาทุกๆ วินาทีเลย แล้วก็อยากจะเปลี่ยนเบอร์โทรนะ อยากจะแบบลืมเขาให้ได้แต่เราก็ไม่ยอมเปลี่ยนเพราะว่า เราก็ยังหวังว่าเขาจะโทรกลับมา มาคืนดีกับเราค่ะ
เพลงต่อไปเป็นเพลงเร็วชื่อ “DIDA-LA LA” เพลงนี้เป็นเพลงที่เมชอบมากที่สุดเลย เพลงนี้ก็เป็นซาวน์แบบสนุกมาก อาจจะฟังดูแปลกหูไปนิดนึงด้วย ก็มันๆ ออกแนวกวนๆ เหมือนกับว่าฉันน่ะชอบเธออยู่นะ เจอเธอทุกครั้งก็แบบ “DIDA-LA LA” อะไรแบบนี้ค่ะ แม้ว่าเธออาจจะแบบไม่รู้สึกอะไรกับฉันเลยแต่ก็เหมือนออกแนวแบบดื้อน่ะ เธอไม่รักฉันฉันก็จะรักเธอ เธอจะรักใคร ไปกับใครแขนขาก็เป็นของเธอ ฉันไม่ว่าหรอกขอแค่ฉันได้รักเธอก็พอแล้ว
สุดท้ายก็เป็นเพลงที่ชื่อว่า “อยากรู้วิธีลืมกัน” เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่มีกลิ่นของอาร์แอนด์บีกับโซลอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ พูดถึงคนรักที่แบบถึงแม้ว่าเขาจะเลิกกับเราไปแล้ว แต่ก็อยากให้เขาสอนวิธีที่ทำกับเราหน่อย เพราะเขาทิ้งเราไปง่ายๆ ก็ช่วยบอกหน่อยเถอะว่าวิธีลืมคนแบบง่ายๆ ของเธอน่ะทำยังไง ก็เศร้าๆ นิดนึงแต่ว่าฟังได้สบายๆ ค่ะ
คิดยังไงกับคำว่า “กิ๊ก” บ้าง?
เม : ก็แล้วแต่คนจะนิยามนะคะ ก็คิดว่า “กิ๊ก” เนี่ยแค่ลองศึกษาดูใจกัน เขาอาจจะใช้คำว่า เออก็กิ๊กกิ๊กกันอยู่ แต่บางคนอาจจะคิดไปถึงว่า กิ๊ก เนี่ยหมายถึงลึกซึ้งมากกว่านั้น ก็คือเขามีแฟนของเขาอยู่แล้ว แล้วเราก็ไปเป็นกิ๊กเขา ความรู้สึกของเมมันก็เป็นศัพท์วัยรุ่นที่แบบแล้วแต่ว่าคนจะนิยามว่ายังไง แล้วมันก็ไม่ได้มีในพจนานุกรมค่ะ
แล้วมีความคิดเห็นยังไงกับการที่มี “กิ๊ก”?
เม : เมว่าถ้าเขาใช้คำว่ากิ๊กในแบบแรกที่เมบอกก็คือ ศึกษาดูใจกัน มันไม่ผิดศีลธรรมไม่อะไรก็เป็นคำที่น่ารักดีนะ แต่ถ้ากิ๊กแล้วทำให้มีคนต้องเสียใจเมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะทำ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตามที่ไปมีกิ๊กค่ะ เพราะมันทำให้อีกคนต้องแบบเป็นทุกข์ค่ะ ถ้ารักใครจริงๆ ก็อยากให้รักคนๆ เดียว แล้วก็อย่าไปมีกิ๊กเลยเพราะว่ามันก็ไม่มีใครที่มีความสุขเลย
MV ตัวแรก?
เม : “Call Me Baby” คอนเซ็ปต์ก็คือสนุกเลย อะไรก็ได้ที่คนดูแล้วแบบอยากลุกขึ้นมาเต้นตาม เนื้อเรื่องก็จะเป็นประมาณว่า เป็นสถานที่ที่อาจจะเป็นผับหรือบ้านร้างอะไรอย่างนี้ มันก็อาจจะไม่มีชีวิตชีวาแต่เมื่อไรก็ตามที่เมไปพร้อมกับเพลงของเม ที่ตรงนั้นก็จะกลายเป็นที่ที่แบบสนุก แล้วก็จะมีเพื่อนๆ มา เหมือนกับเมไปที่ไหนก็จะมีเพื่อนๆ เข้ามาสร้างความสนุกสนาน ความมันอะไรอย่างนี้ค่ะ
ฝาก “Happening Me’”?
เม : เมก็ฝากถึงแฟนเพลงนะคะทั้งแฟนเพลงที่มีอยู่เดิมแล้ว และอีกหลายคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักเมเท่าไร ก็อยากจะให้มาทำความรู้จักกันในอัลบั้ม “Happening Me’” นะคะ กับอัลบั้มนี้ก็จะได้เห็นเมในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็อย่าตกใจกันไปนะคะเมก็ยังเป็นเมคนเดิม เพียงแต่ว่านำมุมที่อยากให้คนรู้จักมากขึ้นคือความสนุกสนานของเม แล้วก็ที่ผ่านมาก็จะฟังแต่เพลงเศร้าๆ ก็เลยอยากให้ลองมาฟังเพลงสนุกดูบ้าง ก็ฝากอัลบั้มนี้ด้วยนะคะ แล้วติดตามดู MVตัวแรก ของเม “Call Me Baby” ได้ทาง www.youdumv.com นะคะ