กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4,500 ล้านบาท) เตรียมเปิดศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ที่เมืองเบกาซี ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเป็นฐานการผลิตรถรุ่นใหม่และการจัดจำหน่ายทั้งตลาดภายในประเทศและทั่วทั้งภูมิภาคเ
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4,500 ล้านบาท) เตรียมเปิดศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ที่เมืองเบกาซี ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเป็นฐานการผลิตรถรุ่นใหม่และการจัดจำหน่ายทั้งตลาดภายในประเทศและทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเริ่มเปิดการผลิตตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
ศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ที่เมืองเบกาซี แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 110,000 ตารางเมตร มีกำลังการผลิตยานยนต์ได้มากถึง 40,000 คันต่อปี และจะสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 800 อัตรา
ศูนย์การผลิตยานยนต์เบกาซีแห่งนี้จะถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์ชุดใหม่ที่ใช้ในการผลิตยานยนต์ เพื่อให้มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมถึงระบบการจัดการโรงงานตามมาตรฐานระดับโลกของจีเอ็ม สำหรับรุ่นรถที่จะขึ้นสายการผลิตในโรงงานแห่งนี้ ทางบริษัทฯจะประกาศอีกครั้ง
ศูนย์การผลิตยานยนต์เบกาซีแห่งนี้ จะเดินหน้าผลิตยานยนต์คุณภาพควบคู่ไปกับศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย และในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่จีเอ็ม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะเดียวกัน ยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ท้องถิ่นให้เติบโต และช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จีเอ็มในอินโดนีเซียอีกด้วย
“นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของจีเอ็มในภูมิภาคแห่งนี้” มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“การตัดสินใจเปิดศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ที่เมืองเบกาซีอีกครั้งในวันนี้ นับเป็นการสานต่อความมุ่งมั่นของจีเอ็ม ในการรักษาฐานการผลิตที่แข็งเเกร่งในประเทศอินโดนีเซีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อการผลิตยานยนต์ระดับโลกที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า” คุณ มาร์คอส เพอร์ตี้ ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินโดนีเซีย กล่าว
“การประกาศการลงทุนในวันนี้ ถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของจีเอ็ม ที่ต้องการให้ จีเอ็ม อินโดนีเซีย มีบทบาทที่สำคัญและอยู่ในแผนธุรกิจระดับโลกของจีเอ็ม การผลิตและจำหน่ายยานยนต์ใหม่ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอในประเทศอินโดนิเซียจะช่วยให้จีเอ็มสามารถรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดแห่งนี้ และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย” คุณ มาร์คอส เพอร์ตี้ กล่าวเพิ่มเติม
เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ยอดขายของจีเอ็มในประเทศอินโดนิเซียมีอัตราการเติบโต เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72 โดยมียอดขายอยู่ที่ 4,500 คัน ขณะที่ยอดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2554 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2,500 คัน โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน