กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--บลจ.แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส เปิด IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) 26 พ.ย. — 12 ธ.ค. นี้ ลงทุนใน บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน (BRIC) ผ่านกองทุน Templeton BRIC Fund ที่ได้รับ Fund Rating จาก S&P ในระดับ AA* บริหารโดย Templeton Asset Management ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ระดับแนวหน้าของโลก มั่นใจจับจังหวะเหมาะเข้าลงทุน พร้อมเชิญผู้สนใจฟังเสวนาเรื่อง “บราซิล รัสเชีย อินเดีย จีน (BRIC) : ผู้นำเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่” ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 นี้ เวลา 13.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ชั้น 2 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิด IPO “กองทุนเปิดแอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC)” ในระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน — 12 ธันวาคม 2550 นี้ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้อนุมัติจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสบริค (ASP-BRIC) เป็นกองทุนต่างประเทศประเภทกองทุนรวมหน่วยลงทุน หรือ Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Templeton BRIC Fund ที่ได้รับการจัดอันดับกองทุนอยู่ในระดับ AA โดย S&P* ซึ่งบริหารจัดการโดย Templeton Asset Management เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน (รวมไต้หวันและฮ่องกง) และประเทศที่มีรายได้หรือกำไรอย่างมีนัยสำคัญจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือมีทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าว เพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีในรูปของการเติบโตของสินทรัพย์สุทธิในระยะยาวจากหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งในธุรกิจ และมีศักยภาพในการเติบโตหรือได้รับผลดีจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ดังกล่าว
“แอสเซท พลัส มองว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในรอบการขยายตัว ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงก็ตาม โดยในปีหน้าเศรษฐกิจโลกน่าจะเติบโตประมาณ 4.6% ซึ่งเป็นการเติบโตจากประเทศที่พัฒนาแล้วประมาณ 2.6% ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาจะเติบโตที่ประมาณ 9.8% โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ BRIC คิดเป็น 2 ใน 3 ของ Global GDP ดังกล่าว อินเดีย และจีน เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าและบริการรายใหญ่ของโลก บราซิล เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและวัตถุดิบขนาดใหญ่ รัสเซียมีแหล่งพลังงาน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประชากรมีความต้องการมากที่สุด ประกอบกับค่าเงินของประเทศดังกล่าวยังอ่อนค่าจากความเป็นจริง ทำให้การลงทุนในประเทศดังกล่าวเป็นโอกาสที่จะได้รับผลดีทั้งจากการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจ และการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินแต่ละประเทศ และในช่วงนี้มีการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในบางประเทศ ทำให้เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนในกลุ่มประเทศ BRIC ดังกล่าว” นางลดาวรรณ กล่าว
“Templeton Asset Management เป็นผู้บริหารกองทุนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีของนักลงทุนทั่วโลก มีประสบการณ์ลงทุนในกลุ่มประเทศ BRIC มานานก่อนที่จะมี MSCI BRIC Index มีแนวคิดและหลักในการบริหารกองทุนแบบคุณค่าและระมัดระวัง กระจายการลงทุนแบบกว้าง (Wide Diversification)
นอกจากนี้ Mr.Mark Mobius ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุน เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาด Emerging Market สไตส์การบริหารแบบเลือกหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มี Market Cap ใหญ่ สภาพคล่องสูงและมีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยใช้ข้อมูลจากทีมวิจัยที่มีอยู่ทั่วโลก และการ Company Visit ไม่เน้นการบริหารตาม Index (Market Weight) ทำให้ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนอยู่ในระดับดีอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงมั่นใจว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศในระยะยาวได้เป็นอย่างดี” นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Noppamas Perdpornpun
Assistant Vice President
Business Development Department
Asset Plus Fund Management Co., Ltd.
Tel. +(66) 2672 1000 ext. 3307
Tel. Direct +(66) 2672 1029
Fax +(66) 2286 4480
www.assetfund.co.th