กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ซิตี้ คาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 จะคล้ายคลึงกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก โดยจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางด้านการคลัง ความผันผวนของสกุลเงิน ความไม่แน่นอนทางการเมือง และแรงกดดันจากเงินเฟ้อ นักวางกลยุทธ์และการลงทุนของซิตี้ ยังย้ำเตือนให้นักลงทุนต้องลงทุนโดยพิจารณาความสมดุลระหว่างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนกับการบริหารความเสี่ยงควบคู่กันไป นอกจากนี้ นักลงทุนจะได้รับผลดีหากบริหารพอร์ตการลงทุนได้อย่างสมดุลและมีวินัย
มร.ฮาเรน ชาห์ ผู้อำนวยการและนักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส บริการบริหารความมั่งคั่ง ซิตี้เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ในช่วงต้นปี เราคาดว่าปี 2554 นี้จะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าลง โดยบางช่วงจะเกิดความไม่แน่นอนและความผันผวนขึ้น ทั้งนี้ในตอนต้นปี แต่ไม่ใครคาดถึงเหตุความตึงเครียดและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศกลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่น ผลกระทบของทั้งสองเหตุการณ์ต่อเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่และคงไม่น่าแปลกใจหากยังส่งผลต่อไปยังครึ่งหลังของปีด้วย”
มร.ชาห์ นักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์ในการบริหารความมั่งคั่งระดับสากลและมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ได้เดินทางมาพบปะกับกับลูกค้าซิตี้โกลด์ ผู้บริหารและกลุ่มนักลงทุนในกรุงเทพฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยเหตุนี้ ซิตี้เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ความกังวลและประเด็นต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีแรก จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกต่อไป เราคาดว่าความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและแม้แต่ในสหรัฐในขณะนี้น่าจะเป็นหลัก ภาวะเงินเฟ้อสูงในกลุ่มเอเชียและลาตินอเมริกาน่าจะเริ่มแพร่กระจายต่อไปยังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ การใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุมในเศรษฐกิจเกิดใหม่ และการที่ประเทศพัฒนาแล้วเริ่มมีการดำเนินนโยบาย แบบเดียวกันก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาอาหารที่สูงขึ้นได้ก่อให้เกิดความไม่สงบในหลายประเทศและการที่รัฐบาลของหลายประเทศพยายามลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด”
นายปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ อธิบายเสริมว่า ซิตี้โกลด์ มีบริการให้คำปรึกษาสำหรับนักลงทุน ด้วยบทวิจัยด้านการเงินและการลงทุนระดับโลก พร้อมทีมที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในด้านการลงทุนของท่านทั้งในและต่างประเทศ ซิตี้โกลด์ให้บริการวางแผนทางการเงินและแผนการลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่งที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้ารักษาและเพิ่มพูนความมั่งคั่งของพอร์ตการลงทุนมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการอันหลากหลายของธนาคารซิตี้แบงก์ ลูกค้าของซิตี้โกลด์จะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางการการลงทุนที่ทุ่มเทให้บริการแก่ลูกค้า และพร้อมจะช่วยตรวจสอบและวิเคราะห์ทางการเงินให้กับลูกค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อช่วยลูกค้าสร้างพอร์ตการลงทุนเฉพาะตัว ซิตี้โกลด์ มีหลากหลายทางเลือกของผลิตภัณฑ์ทั้งการออมและการลงทุน พร้อมเครือข่ายช่องทางทางการเงินให้ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่โลก ผ่านอินเตอร์เนทแบงกิ้ง หรือซิตี้โกลด์ฮอตไลน์ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ท่านจะได้รับอภิสิทธิ์เหนือระดับจากศูนย์บริการซิตี้โกลด์ที่มีอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งจะได้รับบริการพิเศษ เฉกเช่นเดียวกับที่ได้รับในประเทศไทย
นักกลยุทธ์ของซิตี้อยากให้นักลงทุนมีความตื่นตัว ไวต่อสถานการณ์และปรับสัดส่วนการลงทุนของตนเป็นประจำ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่ผันผวน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในเชิงกลยุทธ์หลักเห็นว่า กระแสบริโภคนิยมในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่และกองทุนป้องกันความเสี่ยง น่าจะให้ผลดีต่อนักลงทุน แม้ว่าหลายคนจะกังวลเกี่ยวกับตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ แต่นักกลยุทธ์ของซิตี้คาดว่าเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นและดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้าไปลงทุนอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจเกิดใหม่อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมขึ้นนั้นก็ดูจะมีมากเกินไป และระดับราคาของสินทรัพย์ก็ดูจะเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ นอกจากนี้ กองทุนป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ long/short แบบมหภาคหรือตามเหตุการณ์ของวงจรเศรษฐกิจ ยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนต่อไป
นอกจากนี้ สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น การลดเงินเฟ้อและควบคุมราคาสินทรัพย์ของจีนอาจจะเริ่มส่งผลดี เศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตอยู่ในอัตราร้อยละ 8-9 และนักลงทุนน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเติบโตของจีนโดยการลงทุนในตลาดหุ้นของฮ่องกง นอกจากนี้นักกลยุทธ์ของซิตี้มองว่า ตลาดหุ้นของ ประเทศผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น บราซิลและรัสเซียจะเป็นตัวเลือกที่ดีลำดับต้นๆ สำหรับการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ แต่การลงทุนเหล่านี้ก็มีความผันผวนอยู่
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้นยังคงไม่ชัดเจน เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลกระทบของเหตุการณ์ในญี่ปุ่นต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก และยังไม่สามารถบอกได้ว่าญี่ปุ่นต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดในการฟื้นฟูประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตลาดหุ้นของญี่ปุ่นมีความน่าลงทุนมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพิจารณาจากมุมมองของระดับราคาสินทรัพย์ แต่นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังในการเลือกลงทุนมากขึ้น โดยควรจะเน้นลงทุนในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลดีจากการฟื้นฟูประเทศ ทั้งนี้ นักกลยุทธ์ของซิตี้มองว่าภาคธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มแร่โลหะและวัสดุก่อสร้างของญี่ปุ่นน่าจะมีแนวโน้มที่ดี เพราะจะได้รับอานิสงค์จากการบูรณะสร้างอาคารในประเทศ และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก
มร.ชาห์ กล่าวสรุปว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2554 จะมีความคล้ายคลึงกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก โดยเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยทางด้านการคลัง ความผันผวนของสกุลเงิน ความไม่แน่นอนทางการเมือง และแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ทั้งนี้ในภาพรวมแล้ว ซิตี้ยังมองว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องระมัดระวังต่อการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนที่ยังคงเกิดขึ้นตลอดทั้งปีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ
ธนาคารซิตี้แบงก์ พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
หัสญา หาสิตะพันธุ์ นริสา ชะมุนี
โทร. 0 2788 2904 โทร. 0 2651 8989 ต่อ 331
อีเมล์: hassaya.hasitabhan@citi.com อีเมล์: narisa@prassociates.net
นิพนธ์ พิลา ศุภิกา อัตตโนคติ
โทร. 0 2788 2905 โทร. 0 2651 8989 ต่อ 334
อีเมล์: nipon.pila@citi.com อีเมล์ : supika@prassociates.net