หัวเว่ยแจงยอดขาย ทะลุหลัก 4.6 แสนล้านหลังสิ้นสุดครึ่งปีแรก พร้อมกำไรสุทธิกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท

ข่าวเทคโนโลยี Friday August 19, 2011 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--แฟรนคอม เอเชีย หัวเว่ย ผู้นำด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศผลประกอบการประจำช่วงหกเดือนแรกของปี 2554 ชี้ยอดขายสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 11 แตะระดับ 9.83 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.6 แสนล้านบาท) ในขณะที่ยอดกำไรปฏิบัติการนั้นก็ขยับตัวสูงขึ้นเป็น 1.24 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.8 หมื่นล้านบาท) "ผลประกอบการของหัวเว่ยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้นั้น แสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อันเป็นไปตามความคาดหมายของเรา" เคธี่ เหมิง ประธานบริหารฝ่ายการเงินของหัวเว่ยกล่าว "ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงขาดเสถียรภาพอยู่ แต่เราก็มั่นใจว่ายอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนของกลุ่มธุรกิจดีไวซ์และเอนเตอร์ไพรซ์ จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากยอดขายในปีนี้ได้สูงถึง 1.99 แสนล้านหยวน (ราว 9.31 แสนล้านบาท) ตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้" ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา หัวเว่ยจะมีรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นโทรคมนาคมสำหรับลูกค้าในกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่ในปัจจุบัน บริษัทก็ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อการขยับขยายเข้าสู่ตลาดโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงมากในขณะนี้ ตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 หัวเว่ยได้เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งในตลาดโซลูชั่นโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากจะทำการเปิดตัวอุปกรณ์ระบบ SingleRAN รุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโลกที่สนับสนุนทั้งเทคโนโลยีไวแมกซ์และแอลทีอีแล้ว บริษัทยังได้ผนึกกำลังกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาติซาอุดิอาระเบียอย่างโมบิลี่ เพื่อร่วมกันวางโครงสร้างเครือข่ายสื่อสารไร้สายแห่งแรกของโลก ที่สามารถใช้งานได้ทั้งกับระบบทีดี-แอลทีอีและไวแมกซ์ ภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมานี้ หัวเว่ยได้ร่วมวางระบบเครือข่ายด้วยโซลูชั่น SingleRAN ถึง 130 เครือข่ายทั่วโลก โดยทุกระบบสามารถใช้งานกับเทคโนโลยีแอลทีอีได้อย่างราบรื่น ในจำนวนนี้ มีถึงกว่า 40 เครือข่ายที่เปิดให้บริการในระบบแอลทีอีแล้ว หรือกำลังอยู่ระหว่างขั้นการเตรียมการก่อนเปิดบริการ ส่วนในด้านการวางโครงข่ายใยแก้วนำแสงและอุปกรณ์เครือข่ายประเภทอื่นๆ นั้น หัวเว่ยก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเป็นผู้ชนะประมูลโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติถึง 6 จาก 7 โครงการทั่วโลก ในช่วงต้นปี 2554 หัวเว่ยได้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรซ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าในตลาดเอนเตอร์ไพรซ์เปิดรับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยี ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรซ์ของหัวเว่ยได้ขยายตัวเข้าสู่ตลาดในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อช่วยเสริมศักยภาพทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภาคธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐบาล สถาบันการเงิน อุตสาหกรรมคมนาคม พลังงาน หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนในด้านโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทก็ได้เปิดตัวระบบเทเลเพรสเซนส์รุ่นล่าสุด ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ทันทีกว่า 500 ชุดในช่วงครึ่งปีแรก และทำให้ยอดขายระบบเทเลเพรสเซนส์ทุกรุ่นของหัวเว่ยทะลุหลัก 1,000 ชุด นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์เราเตอร์ประสิทธิภาพสูงตัวใหม่เข้าสู่ตลาดอีกด้วย สำหรับเทคโนโลยีคลื่นลูกใหม่อย่างคลาวด์ คอมพิวติ้ง ก็ยังคงได้รับการพัฒนาโดยหัวเว่ยอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ บริษัทได้คิดค้นโซลูชั่นคลาวด์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจประเภทสื่อภาพยนตร์ (มีเดีย คลาวด์) และบริการด้านสุขภาพ (เฮลธ์ คลาวด์) ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งและดาต้าเซนเตอร์ของหัวเว่ยนั่น ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การแพทย์ วิทยุและโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต การศึกษา หรือแม้แต่หน่วยงานของภาครัฐ ส่วนกลุ่มธุรกิจดีไวซ์ ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนาและทำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปนั้น ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 40 หรือเท่ากับ 72 ล้านหน่วย ซึ่งทำให้หัวเว่ยยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดอุปกรณ์โมบาย บรอดแบนด์เอาไว้ได้ ในตลาดโทรศัพท์มือถือ ยอดขายทั่วโลกของหัวเว่ยพุ่งสูงขึ้นเกินกว่าเท่าตัว โดยมีผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฟนเป็นตัวชูโรง และช่วยผลักดันให้บริษัทกลายเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ชั้นนำของโลก ยิ่งไปกว่านั้น หัวเว่ยยังได้เปิดตัว "มีเดียแพด" แทบเล็ตระบบดูอัลคอร์ขนาด 7 นิ้วที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 รุ่นแรกของโลก และสมาร์ทโฟนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งรุ่นแรกของโลกอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ