กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ซีเมนส์
กลุ่มธุรกิจพลังงานของซีเมนส์และบริษัทมารูเบนิซึ่งเป็นพันธมิตรการค้าสัญชาติญี่ปุ่นได้รับคำสั่งซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 2 แห่งในรูปแบบรับเหมาเบ็ดเสร็จ (EPC) ซึ่งได้แก่โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่2 ใน จ. สงขลา และโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่4 ใน จ.อยุธยา ซึ่งโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 นี้จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมแบบเพลาเดี่ยว (single-shaft) แห่งแรกของประเทศไทยที่จะสร้างขึ้นตามการออกแบบโรงไฟฟ้าที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วของซีเมนส์ ส่วนโรงไฟฟ้าวังน้อยจะเป็นโรงไฟฟ้าความร้อนร่วมแบบเพลาผสม (multi shaft) โดยโรงไฟฟ้าแต่ละโรงจะมีกำลังการผลิตราว 800 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ คาดว่าโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งจะเปิดดำเนินการได้ในปี พ.ศ. 2557 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกว่าครึ่งเป็นการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับขอบเขตการจัดหาของซีเมนส์ ส่วนการเซ็นสัญญางานซ่อมบำรุงระยะยาวของซีเมนส์สำหรับโรงไฟฟ้าทั้งสองนี้จะดำเนินการในลำดับต่อไป
“ขอบคุณเทคโนโลยีที่ทันสมัย โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้จะเป็นเกณฑ์มาตรฐานใหม่ของโรงไฟฟ้าในประเทศไทยในด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพ” ม.ร. โลธาร์ บอลลิ่ง หัวหน้าธุรกิจโซลูชั่นโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ กลุ่มธุรกิจพลังงานบริษัท ซีเมนส์กล่าว “โรงไฟฟ้าทั้งสองนี้ยังมีลักษณะพิเศษโดยมีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการประกอบการสูงอีกทั้งยังประหยัดกว่า”
ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ซีเมนส์ประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานสร้างโรงไฟฟ้าจำนวนมากในประเทศไทย อาทิ โครงการ IPT ในจังหวัดชลบุรี โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกง ชุดที่ 5 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเฟส 5 ของกลุ่มบริษัทโกลว์ นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซีเมนส์ยังได้รับคำสั่งซื้อในการจัดหากังหันก๊าซสำหรับอุตสาหกรรมจำนวน 20 ตัว
โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 ที่ซีเมนส์จะสร้างเป็นส่วนขยายจากโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 นี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแบบเพลาเดี่ยวแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งนอกจากการก่อสร้างในรูปแบบรับเหมาเบ็ดเสร็จ (EPC) แล้วซีเมนส์ยังเป็นผู้จัดหากังหันก๊าซรุ่น SGT5-4000F กังหันไอน้ำรุ่น SST5-3000 และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยไฮโดรเจนรุ่น SGen5-2000H ตลอดจนอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด และระบบควบคุมโรงไฟฟ้าอัตโนมัติ SPPA T3000 รวมทั้งระบบสำรองต่างๆ ในขณะที่มารูเบนิรับผิดชอบด้านการจัดหาเครื่องผลิตไอน้ำจากความร้อนทิ้ง (Heat Recovery Steam Generator) หม้อแปลงหลัก ตลอดจนสวิทช์เกียร์รวมทั้งงานโยธาและงานติดตั้งของโรงไฟฟ้า
โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 ซึ่งจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนขยายของโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 1-3 เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแบบเพลาผสม ซึ่งจะใช้กังหันก๊าซรุ่น SGT5-4000F จำนวน 2 ตัวของซีเมนส์ และกังหันก๊าซรุ่น SST5-3000 จำนวน1 ตัว รวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยอากาศรุ่น SGen-1000A ของซีเมนส์จำนวน 3 ตัว ตลอดจนระบบควบคุมโรงไฟฟ้าอัตโนมัติ SPPA T3000 และระบบสำรองต่างๆ
“หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการโรงไฟฟ้าจะนะใน จ. สงขลา และโรงไฟฟ้าบางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา เรามีความภูมิใจที่ กฟผ. ให้ความไว้วางใจให้เราดำเนินโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 และโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และยินดีที่จะได้ร่วมทำงานกับมารูเบนิอีกครั้งหนึ่ง” ม.ร. โลธาร์ แฮร์มันน์ หัวหน้าฝ่ายบริหารของซีเมนส์ภูมิภาคอาเซียนกล่าวเสริม
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมประสิทธิภาพสูงเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอด้านสิ่งแวดล้อมของซีเมนส์ ในปีงบ ประมาณ 2553 ที่ผ่านมา ซีเมนส์ทำรายได้จากพอร์ตโฟลิโอดังกล่าวถึง 28,000 ล้านยูโร ทำให้ซีเมนส์กลายเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรายใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลูกค้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 270 ล้านตันซึ่งนับเป็นจำนวนเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละปีของเมืองใหญ่ๆ ได้แก่ ฮ่องกง ลอนดอน นิวยอร์ค โตเกียว เดลีและสิงคโปร์ รวมกัน
เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานของซีเมนส์
ธุรกิจพลังงานของซีเมนส์ ถือเป็นผู้จัดหาชั้นนำของโลกซึ่งจัดหาทั้งผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน งานบริการและโซลูชั่นสำหรับการผลิต การส่งและการจัดจ่ายพลังงาน รวมถึงการขุดเจาะ การแปรรูปและการขนส่งน้ำมันและก๊าซ ในปีงบประมาณ 2553 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554) มีรายได้ประมาณ 25,500 ล้านยูโรอีกทั้งมียอดสั่งซื้อใหม่รวมกันได้มากกว่า 30,100 ล้านยูโรและมีกำไรเกินกว่า 3,300 ล้านยูโร โดยมีพนักงานทั้งสิ้นกว่า 88,000 ทั่วโลก (สถานะ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554)
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานของซีเมนส์ได้ที่ www.siemens.com/energy
เกี่ยวกับบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประเทศไทย
ซีเมนส์ จำกัด ประเทศไทยดำเนินธุรกิจในทั้ง 3 ภาคธุรกิจ ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรม พลังงาน และเฮลท์แคร์ โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในธุรกิจที่มีฐานธุรกิจที่กว้าง ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถบรรลุผลสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดของธุรกิจที่กำลังเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและพลังงาน เช่น ปิโตรเคมี น้ำ โลหะ พลังงานสะอาด และ น้ำกับก๊าซ ในปีงบประมาณ 2553 สิ้นสุดปีงบประมาณในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 บริษัทฯ มียอดสั่งซื้อ 8,500 ล้านบาท และมีพนักงานราว 1,200 คน
บริษัท ซีเมนส์ จำกัด
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
อาคารชาญอิสระทาวเวอร์ 2 ชั้น 35
2922/333 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่บางกะปิ ห้วยขวาง
กรุงเทพฯ 10310 ประเทศไทย