กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--กทม.
เขตหลักสี่กำชับให้เทศกิจดูแลรักษาความปลอดภัย และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เตือนประชาชนเล่นดอกไม้เพลิงด้วยความระมัดระวัง ใช้กระทงธรรมชาติเพื่อร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อม และขอให้จัดงานอย่างเรียบง่ายเน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี
นางสาวอมรรัตน์ กฤตยานวัช ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กทม. เปิดเผยว่า เขตฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายเทศกิจดูแลรักษาความปลอดภัย และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ จึงอาจมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากออกไปร่วมงานในสถานที่ที่มีการจัดงานฯ และอาจก่อให้จะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ เช่น อุบัติเหตุจากท่าเรือพัง โป๊ะล่ม ตกน้ำ อุบัติเหตุจากการเล่นดอกไม้เพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณงานและชุมชนต่างๆ ได้โดยง่ายเนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้งและมีลมกระโชกแรง
ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากดอกไม้เพลิง จึงขอแนะนำให้ประชาชนเล่นดอกไม้เพลิงในที่โล่งแจ้ง ไม่เล่นใกล้กับวัตถุไวไฟ หรืออาคารบ้านเรือน ถ้าเป็นเด็กต้องเล่นอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง และขอย้ำเตือนประชาชนว่า การเล่นดอกไม้เพลิงด้วยความประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย จะมีความผิดทางอาญา มีโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยดอกไม้เพลิงที่ห้ามเล่นเด็ดขาด คือ ประทัดจีนทุกชนิด ประทัดทรงกลม ประทัดรูปไข่ ประทัดรูปสามเหลี่ยม และไดนาไม หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้จำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดีเขตฯ ได้ให้ฝ่ายพัฒนาชุมชนประสานผู้ผลิตสินค้าหนึ่งชุมชนหนึ่งผลิภัณฑ์ เพื่อนำสิ้นค้าไปแสดงและจัดจำหน่ายในบริเวณจัดงานที่ผู้จัดขอให้เขตฯ เป็นผู้ประสานให้ สำหรับกระทงที่จะนำไปลอยนั้นเขตฯ ขอให้ประชาชนใช้กระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติแทนการใช้กระทงโฟม เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ในทางหนึ่ง รวมทั้งขอให้จัดงานอย่างอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี เรียบง่าย และประหยัด ในส่วนการรักษาความสะอาดนั้นได้กำชับให้ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะเร่งจัดเก็บกระทงที่ประชาชนนำกระทงไปลอยในคู คลอง และแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆ โดยให้เร่งจัดเก็บให้แล้วเสร็จภายในเช้าวันรุ่งขึ้น(25 พ.ย. 50)
นางสาวอมรรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆ รวมถึงเทศกาลลอยกระทงนี้มักมีการดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนนและอุบัติเหตุทางน้ำ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจนขาดสติ หรือเมาแล้วขับ ซึ่งอาจทำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดด้วย