SSI จารึกประวัติศาสตร์ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทะลุ 25 ล้านตัน ระดมนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำภาพผู้นำอุตฯเหล็กระดับโลก

ข่าวอสังหา Tuesday August 23, 2011 09:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สหวิริยาสตีลอินดัสตรี เอสเอสไอบันทึกประวัติศาสตร์อีกครั้งประกาศความสำเร็จฉลองผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนครบ 25 ล้านต้นเป็นรายแรกของประเทศไทย โรงงานสหวิริยาสตีลบางสะพานโชว์ความพร้อมด้านบุคลากรและระดมสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง พร้อมเร่งการผลิตสนองความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 2554 นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2554 เวลา 4.18 น. โรงงานสหวิริยาสตีลบางสะพาน ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HSM) สะสมครบ 25 ล้านตันเป็นรายแรกของประเทศไทย โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการผลิตรับปริมาณขายในครึ่งหลังของปี 2554 ที่คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 1.2 ล้านตัน นายวิน กล่าวว่า “เอสเอสไอก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2533 ด้วยความร่วมมือร่วมใจและทุ่มเททำงานอย่างหนักของพนักงานทุกคนรวมระยะเวลากว่า 20 ปี ส่งผลให้บริษัทมีความเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้น รวมถึงสามารถผ่านอุปสรรคสำคัญๆ มาได้หลายครั้ง ความตั้งใจแน่วแน่ของพวกเราที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทยได้นำมาสู่การบรรลุยอดการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนสะสมครบ 25 ล้านตัน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์สำคัญอีกหน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย และสร้างความภาคภูมิใจให้กับเอสเอสไอ ผมขอขอบคุณลูกค้าและพนักงานเอสเอสไอที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในครั้งนี้” การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของเอสเอสไอได้พัฒนาสูงขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นในความเป็นเลิศและยึดมั่นในคุณภาพของสินค้า จนได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติการผลิตเหล็กรีดร้อนชนิดม้วนของเอสเอสไอได้ครบ 12.5 ล้านตันแรกใช้ระยะเวลาการผลิตรวม 14 ปี ในขณะที่การผลิตจำนวน 12.5 ล้านตันล่าสุดใช้ระยะเวลาเพียง 7 ปี ซึ่งส่งผลให้ยอดการผลิตสะสมครบ 25 ล้านตันเป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย โดยปัจจุบันเอสเอสไอมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษเพื่อรองรับความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาค ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัท คือ สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน “เอสเอสไอได้มุ่งเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมของกระบวนการผลิตและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นคุณภาพพิเศษ Value+1 (Value plus product) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป ทั้งทางด้าน มิติ ความหนา ความกว้าง และคุณสมบัติเชิงกล 2) การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดบางพิเศษ (Ultra thin gauge 0.90 มม) ในเชิงการค้าได้สำเร็จเป็นรายเดียวของประเทศ 3) การผลิตเหล็กสำหรับงานขึ้นรูปลึกโดยใช้เทคโนโลยีการควบคุมขนาดเกรน (Grain Size) ที่สม่ำเสมอกันตลอดหน้าตัด ซึ่งสามารถใช้งานได้ตลอดหน้าตัดและช่วยลดการสูญเสียจากการตัดขอบ 4) ผลิตภัณฑ์เหล็กเพิ่มส่วนผสมทางเคมีพิเศษเพื่อเสริมคุณสมบัติการยืดตัวและความแข็งของผิว และ 5) การออกแบบผลิตภัณฑ์เหล็กม้วนแบบเฉพาะตามลักษณะการใช้งานของลูกค้า (Tailor-made design) เป็นต้น” นายวินกล่าวและเพิ่มเติมว่าในครึ่งหลังของปี 2554 ได้มีการปรับแผนการผลิตเพื่อรองรับปริมาณการขายที่คาดว่าจะมากกว่าครึ่งปีแรกถึงร้อยละ 40 เป็นจำนวน 1.2 ล้านตัน และมั่นใจว่าเอสเอสไอจะยังสามารถเติบโตก้าวหน้าแบบทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากโรงงานสหวิริยาสตีลทีไซด์ ที่ประเทศอังกฤษเปิดการถลุงและผลิตเหล็กแท่งแบนในเดือนธันวาคม ที่จะถึงนี้ เอสเอสไอก่อตั้งขึ้นโดยมีโรงงานสหวิริยาบางสะพานเป็นฐานการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 4 ล้านตันต่อปี และได้มีพัฒนาการนำอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทยภายใต้การลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจเหล็กอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเหล็กแผ่นรีดเย็น ธุรกิจเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ธุรกิจท่าเรือน้ำลึก ธุรกิจวิศวกรรมซ่อมบำรุง และการเดินหน้าก้าวสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ.2554 นี้ เมื่อเอสเอสไอประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ที่ประเทศอังกฤษเข้าซื้อสินทรัพย์โรงงานถลุงเหล็กและเหล็กกล้าครบวงจร Teesside Cast Products (TCP) จากกลุ่มทาทาสตีล แล้วรับมาดำเนินการเป็นโรงงานสหวิริยาสตีลทีไซด์ ของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี สหราชอาณาจักร จำกัด หรือ เอสเอสไอ ยูเค มาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพลิกโฉมจากผู้ผลิตเหล็กแผ่นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย พัฒนาขึ้นเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนและเป็นบริษัทเหล็กระดับโลกรายแรกในอาเซียน ? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-238-3063 ต่อ 1327, 1302 และ 1320 สำนักประชาสัมพันธ์ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี คุณรุ้งกาญ คุณน้ำผึ้ง และคุณสราวุธ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ