กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--กรีนพีซ
ไนกี้ บริษิทยี่ห้อเสื้อผ้ากีฬาชื่อดังประกาศวางแผนยุติการใช้และปลดปล่อยสารเคมีอันตรายตลอดห่วงโซ่การผลิตและใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ให้สำเร็จภายในปี 2563 (1) หลังการรณรงค์อย่างหนักโดยกรีนพีซและผู้บริโภคภายใต้โครงการ “Detox” หรือ“ล้างสารพิษ”
ไนกี้ได้ให้คำมั่นว่าจะยุติการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติคงทนและสะสมในสิ่งแวดล้อมและรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนในร่างกายตลอดห่วงโซ่การผลิต ไนกี้ได้ให้คำมั่นนี้หลังจากกรีนพีซเปิดเผยรายงาน “เสื้อผ้าสกปรก” (2) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เปิดเผยถึงมลพิษทางน้ำในประเทศจีนที่เกิดจากโรงงานฟอกย้อมผ้าที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ (3) อย่างเช่น ไนกี้ พูมา (4) อาดิดาส และอื่นๆ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา อาดิดาส ซึ่งยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง ได้รับข้อความจากสาธารณชนให้ “ล้างสารพิษ” โดยนักกิจกรรมกรีนพีซและศิลปินได้ฉายข้อความ “มลพิษไม่ใช่เกมที่ยุติธรรม” ในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมบาเซโลนาและเรียลมาดริดที่มีแฟนบอลกว่า 100,000 คนเข้าชมการแข่งขันในสนามกีฬา Camp Nou (5) โดยในนัดนี้ทีมบาเซโลนาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากไนกี้ชนะทีมเรียลมาดริดที่ได้รับการสนับสนุนจากอาดิดาสด้วยคะแนน 3-2
“มีแฟนบอลในประเทศไทยที่ชื่นชอบทีมบอลทั้งสองทีมนี้ พวกเขาอยากเห็นทีมที่พวกเขาชื่นชอบได้รับการสนับสนุนจากบริษัทสินค้าที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ไนกี้และพูมาได้เริ่มก้าวไปสู่จุดนั้นแล้ว แต่อาดิดาสยังไม่กระเตื้องสักนิด” นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว “อาดิดาสจะต้องก้าวขึ้นมาแสดงความเป็นผู้นำ โดยให้คำมั่นในการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Discharge) และริเริ่มวัฒนธรรมความโปร่งใสด้านการรายงานข้อมูลในอุตสาหกรรมฟอกย้อมและสิ่งทอ โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลสารสารเคมีอันตรายที่ใช้และปลดปล่อยจากกระบวนการผลิต”
ทั้งนี้ ไนกี้นอกจากจะให้คำมั่นว่าจะปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2563 แล้ว ไนกี้ยังให้ความสำคัญกับ “สิทธิในการรับรู้” ของประชาชนโดยจะเปิดเผยสารเคมีที่ปลดปล่อยจากกระบวนการผลิต และสัญญาว่าจะใช้ศักยภาพ องค์ความรู้และประสบการณ์เพื่อลดการใช้สารพิษอันตรายจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ไนกี้ยังได้ตอบตกลงที่จะเผยแพร่แผนพัฒนาเหล่านี้ภายใน 8 สัปดาห์
“ไนกี้จ้างโรงงานในประเทศไทยหลายแห่งในการผลิตเสื้อผ้า ดังนั้นการที่ไนกี้ได้ให้คำมั่นที่จะมุ่งสู่การยุติการใช้สารเคมีอันตรายย่อมเป็นข่าวดีของคนไทย กรีนพีซคาดหวังที่จะให้ทุกโรงงานอุตสาหกรรมปฏิบัติเช่นเดียวกันและผลักดันเป็นกฏหมาย โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลการใช้สารพิษ ที่จะทำให้ประชาชนได้รู้ว่ามีการใช้และปล่อยสารพิษชนิดใดลงสู่แหล่งน้ำ อย่างไรก็ตามกรีนพีซจะจับตามองการดำเนินการของไนกี้ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะติดตามว่าไนกี้จริงจังต่อการลดใช้สารพิษจากห่วงโซ่การผลิตหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินว่าไนกี้เป็นผู้ชนะที่แท้จริง” นายพลายกล่าวเสริม
กรีนพีซทำงานรณรงค์ด้วยหลักการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธี นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ กรีนพีซรณรงค์เพื่อยุติมลพิษอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ซึ่งเกิดจากสารเคมีที่เป็นพิษ คงทนในสิ่งแวดล้อมและรบกวนฮอร์โมน โดยเรียกร้องให้บริษัทและรัฐบาลลงมืออย่างจริงจังในการ “ล้างสารพิษ” จากอนาคตของเรา
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
พลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 02-357-1921 ต่อ 135, 081-658-9432
วิริยา กิ่งวัชระพงศ์ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 089-487-0678
หมายเหตุ
(1) ไนกี้ได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุน “เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงระบบเพื่อยุติการปลดปล่อยสารเคมีอันตรายที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานและวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด” และให้คำมั่นที่จะลดใช้สารเคมีที่มีความเป็นอันตรายสูงสุด โดยในคำประกาศของบริษัทได้ระบุไว้ว่า (5) “สารเคมีอันตรายประกอบด้วยสารที่มีคุณสมบัติคงทน หรือสะสมได้ในสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติก่อมะเร็ง รบกวนระบบฮอร์โมน การพัฒนาเพศ การสืบพันธุ์ และคุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
สามารถดูแถลงการณ์จากไนกี้ได้ที่ http://www.nikebiz.com/media/pr/2011/08/17_zero_discharge.html
(2) กรีนพีซใช้เวลา 1 ปีในการสำรวจมลพิษทางน้ำในประเทศจีนและพบว่าบริษัทเสื้อผ้ารายใหญ่รวมถึง อาดิดาสและไนกี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตในประเทศจีนที่ปล่อยสารเคมีอันตรายซึ่งเป็นสารรบกวนฮอร์โมนและมีความคงทนสามารถสะสมในสิ่งแวดล้อมลงสู่แม่น้ำในประเทศจีน การศึกษาครั้งนี้ได้ชี้ถึงสารเคมีอันตรายที่ถูกปล่อยจากโรงงานฟอกย้อมสู่แหล่งน้ำว่าอาจเกิดขึ้นได้ทั่วโลก และบ่งชี้ถึงปัญหาร้ายแรงที่สามารถส่งผลกระทบที่รวดเร็วและร้ายแรงต่อทั้งระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์
สามารถอ่านรายงาน “เสื้อผ้าสกปรก” ฉบับย่อได้ที่ http://www.greenpeace.org/seasia/th/press/reports/dirty-laundry-summary-report/
รายงานฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) http://www.greenpeace.org/international/en/publications/reports/Dirty-Laundry/
(3) อเบอร์ครอมบี้ แอนด์ ฟิช (Abercrombie & Fitch) อาดิดาส (Adidas) บาวเออร์ ฮอกกี้ (Bauer Hockey) คาลวิน ไคลน์ (Calvin Klein) คอนเวอร์ส (Converse) คอร์ทีฟิล (Cortefie)l) เอช แอนด์ เอ็ม (H&M) ลาคอส (Lacoste) หลี่หนิง (Li Ning) มีเทอร์ซ/บอนว์ (Meters/bonwe)ไนกี้ (Nike) ฟิลิปส์ แวน ฮุสเซน (Phillips-Van Heusen Corporation) พูมา (Puma) และยาเกอ (Youngor)
(4) แถลงการณ์ให้คำมั่นว่าจะลดการใช้สารเคมีอันตราย ของพูมาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม
http://www.greenpeace.org/seasia/th/press/releases/Puma-overtakes-competitors-Adidas-and-Nike-in-race-to-drop-toxic-pollution/
(5) การแข่งขันฟุตบอลระหว่างบาเซโลนาและเรียลมาดริดเป็นการแข่งขันนัดที่สองในเกมซูเปอร์โคปปา ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสเปน ทีมบาเซโลนาได้รับการสนับสนุนจากไนกี้ ส่วนทีมเรียลมาดริดได้รับการสนับสนุนจากอาดิดาส