TGI สู่ปีที่ 60 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอาเซียน

ข่าวทั่วไป Tuesday August 23, 2011 13:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง บมจ.อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย (TGI) ฉลอง 60 ปี แห่งความสำเร็จ ก้าวสู่ปีที่ 61 ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการขยายฐานตลาด ผนึกพันธมิตรระดับโลกพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัย ชูจุดขายเน้นการให้บริการและคำแนะนำแก่ลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงส่งมอบผลิตภัณฑ์ และต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งที่มีแอลกอฮลลและไม่มีแอลกอฮอลล์ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยา รวมไปถึงเครื่องสำอาง ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้โต 14% แตะ 8,600 ล้านบาท นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (บีเจซี) ซึงเป็นบริษัทชั้นนำของไทย ในการประกอบธุรกิจพาณิชยกรรม การผลิต และการให้บริการ และถือหุ้นร้อยละ 98 ในบริษัท อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า TGI เป็นโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วโรงงานแรกในประเทศไทยก่อตั้งนับแต่ปี 2494 เป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทคนไทยและบริษัทต่างชาติ โดยมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ร่วมลงทุนด้วยส่วนหนึ่ง นับว่า TGI เป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศไทยที่ได้มีการร่วมลงทุนกับต่างประเทศ โดยตลอดระยะเวลา 60 ปี TGI มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 2,400 ตันต่อวัน และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปี 2553 นับเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของธุรกิจ โดยบีเจซีได้ร่วมทุนกับบริษัท โอเว่น อิลลินอยส์ อิงค์ (NYSE: OI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าซื้อกิจการของบริษัทมาลายากล๊าส โปรดักส์ ซึ่งมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอยู่ในประเทศไทย จีน มาเลเซียและเวียดนาม ส่งผลให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วของบีเจซีมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 2,400 เป็น 3,300 ตันต่อวัน จากทั้ง 5 โรงงาน และเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วในประเทศไทยอยู่ที่ 4,300 ล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วของ บีเจซี มียอดขายที่สูงที่สุดในรอบ 60 ปี หากรวมกับเครือข่ายทางการผลิตและการจัดจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว คาดว่ายอดขายรวมภายในปีนี้จะสูงถึง 12,300 ล้านบาท ในปี 2554 นายอัศวิน กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา TGI ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาคุณภาพของบรรจุภัณฑ์และการบริการ เราทุ่มเทในทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เพราะเรามุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาล มุ่งสร้างบรรจุภัณฑ์แก้วคุณภาพดีเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรทุกระดับ ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้นำเอาแนวคิดแบบ Lean Six Sigma มาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตและการจัดการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากขึ้น” “TGI พร้อมที่จะเติบโตและยกระดับศักยภาพขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การพัฒนาคุณภาพบุคลากร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การพัฒนาศักยภาพกระบวนการจัดเก็บและขนส่ง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม TGI ไม่เคยหยุดนิ่งและพร้อมจะก้าวไกลบนเส้นทางแห่งความเป็นผู้นำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างภาคภูมิ” นายอัศวิน กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ