กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ไทยเบฟเวอเรจ
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการประกวด “ศิลปกรรมช้างเผือก” ภายใต้หัวข้อ “พระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย” ชิงเงินรางวัล มูลค่า 2,400,000 บาท ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกและเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เหล่าศิลปินเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้างและได้แสดงออกถึงศักยภาพทางศิลปะในรูปแบบ Realistic (เชิงเหมือนจริง) และ Figurative Art (เชิงสัญลักษณ์) โดยดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงศิลปะ ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับ โครงการประกวด “ศิลปกรรมช้างเผือก” ครั้งที่ 1 ในปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เพราะเป็นปีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เจริญพระชนมายุครบรอบ 84 พรรษา “ไทยเบฟ” จึงได้เปิดตัวโครงการประกวดนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดรับผลงานศิลปะในแนวทางเหมือนจริง ภายใต้หัวข้อ “พระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย” ด้วยผลงานด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ เพื่อเป็นเวทีแห่งการสร้างสรรค์ และสนับสนุนการสร้างผลงานของเยาวชนรุ่นใหม่ให้ไปสู่ระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งทางไทยเบฟ เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของการเฟ้นหาศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในแบบเชิงเหมือนจริง (Realistic) รวมไปถึงในรูปแบบเชิงสัญลักษณ์ (Figurative Art) ซึ่งเน้นความเป็นรูปธรรมของต้นแบบที่ศิลปินถ่ายทอด ลงมาสู่ผลงานของตนเอง และอย่างที่ได้กล่าวเบื้องต้นว่าโครงการนี้จะหนึ่งในโครงการที่ไทยเบฟฯ จัดขึ้น ภายใต้ การเฉลิมพระเกียรติในวโรกาส84 พรรษา ซึ่งเราจะมีโครงการและกิจกรรมอื่นๆ ทยอยเปิดตัวในลำดับต่อไป”
ด้าน ผศ.ถาวร โกอุดมวิทย์ อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรและที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงงาน Realistic และ Figurative Art ว่า เป็นงานที่ใช้ทักษะในการสร้างสรรค์สูงมาก ศิลปินที่สร้างสรรค์ในแนวทางนี้ต้องเชี่ยวชาญ และอาศัยการฝึกฝนเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น ศิลปินในแนวทางนี้ จึงเป็นอีกรูปแบบของงานศิลปกรรมอันทรงคุณค่า ต่อวงการศิลปะ ทั้งในเมืองไทยและระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมถึงกติกาและการจัดการประกวดว่า “สำหรับในประกวดครั้งนี้เราได้ดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในแวดวงด้านศิลปะ อาทิ อาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ประติมากร อาจารย์และ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) สาขาย่อยประติมากรรม อาจารย์ไพรวัลย์ ดาเกลี้ยง จิตรกรที่มีชื่อเสียงในการเขียนภาพเหมือนจริง อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร คณบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และนายวราวุธ ชูแสงทอง ศิลปินอิสระ มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินผลงาน ส่วนคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดนั้น ประการแรกคือ ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องเป็นศิลปินหรือผู้สร้างสรรค์งานศิลปะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ไม่จำกัดสัญชาติหรือภูมิลำเนา สำหรับผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวด และดาวน์โหลดใบสมัครได้จาก www.thaibev.com และ www.bacc.or.th ซึ่งจะระบุรายละเอียดต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน อาทิ คุณสมบัติของผู้สมัคร กติกาการส่งผลงาน เช่น ผลงานแต่ละชิ้นรวมกรอบและแท่นฐานแล้ว จะต้องมีขนาดไม่เกิน 2.5 x 2.5 เมตร สำหรับจิตรกรรมและภาพพิมพ์และ 2.5 x 2.5 x 2.5 เมตร สำหรับงานประติมากรรม เป็นต้น โดยเกณฑ์การตัดสินจากคุณภาพของงานแต่ละชิ้นโดยไม่แยกประเภท แต่ประเมินและยึดถือคุณค่าของตัวงานนั้นๆ เป็นสำคัญ ซึ่งการตัดสินรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 24 เมษายน 2555 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และจะทำการประกาศผลรางวัลทางเว็บไซต์ www.thaibev.com และ www.bacc.or.th ในวันที่ 27 เมษายน 2555 ทั้งนี้หากไม่มีผลงานใดผ่านเกณฑ์การพิจารณาสำหรับรางวัลใดรางวัลหนึ่ง คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์การให้รางวัลนั้น ผลงานทั้งหมดที่ได้รับรางวัลจะได้รับการจัดแสดงนิทรรศการ ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน — 29 กรกฎาคม 2555 สำหรับโครงการประกวด “ศิลปกรรมช้างเผือก” เราเปิดกว้างในเรื่องของงาน ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม จิตรกรรม งานพิมพ์ต่างๆ ผมเชื่อว่าเรามีเวลามากพอที่จะให้ทุกท่านได้ขบคิดผลิตผลงาน และสร้างสรรค์ชิ้นงานอันทรงคุณค่า ซึ่งผลงานต่างๆถือเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาอีกด้วย”
นอกจากนี้ “ไทยเบฟ” ต้องการสนับสนุนในการอนุรักษ์งานด้านศิลปะของไทยให้คงอยู่สืบไป ตลอดจนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดจึงได้กำหนดเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นมูลค่า 2,400,000 บาท โดยแต่ละระดับนั้น จะแบ่งออกเป็น
รางวัลช้างเผือก 1 รางวัล รางวัลละ 1,000,000 บาท
รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล รางวัลละ 300,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท
และรางวัลชมเชย 12 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท
อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร หนึ่งในกรรมการตัดสินและศิลปินอิสระ กล่าวว่า “สำหรับหัวข้อการประกวด “พระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย” นั้น ถ้ามองในแง่ของศิลปะในระดับสากล ไม่มีประเทศไหนนอกจากประเทศไทยที่ทำศิลปะในแนวนี้ และทำด้วยความศรัทธาต่อองค์พระมหากษัติย์ของคนในสังคม ผมเชื่อว่า ยังไม่มีบุคคลใดที่มีภาพ Portrait ในงานศิลปะมากเท่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา และสำหรับท่านที่ส่งผลงานเข้าประกวด ท่านจะเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกันต่อประวัติศาสตร์ตรงนี้ให้ยืนยาว เราเป็นศิลปิน ไม่มีวันหยุดนิ่ง เราต้องค้นหาแนวทางศิลปะตลอดเวลา อย่าให้อุปสรรคทั้งหลาย มาปิดกั้นศิลปะครับ”
ด้าน นายวราวุธ ชูแสงทอง หนึ่งในกรรมการตัดสินและศิลปินอิสระ แนะนำเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ที่นำมาใช้ ว่า “ผมขอกล่าวในฐานะเพื่อนศิลปินด้วยกันนะครับ ศิลปินและจิตรกรที่สนใจอยากส่งภาพเข้าประกวดนั้น ภาพควรมีความงดงามเนื่องจากหัวข้อเกี่ยวกับองค์พ่อหลวง ซึ่งองค์ประกอบของผลงานควรสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่ค้นหาขึ้นใหม่ๆ หรือใช้ความชำนาญที่มีอยู่สร้างสรรค์ให้เกิดเสน่ห์ของผลงานและเกิดเป็นส่วนผสมใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเห็นและแปลกตา เช่น การใช้เส้น สี น้ำหนัก พื้นผิวทั้งในเชิงประติมากรรมหรือจิตกรรม หวังว่าเพื่อนศิลปินทุกคนจะได้ทำสิ่งที่คิด แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นส่งผลให้เกิดสิ่งที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไป”
“โครงการนี้ นอกจากเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้ศิลปินที่สนใจได้ร่วมกันส่งผลงานแล้ว ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ตามหัวข้อที่เราจัดทำขึ้น นั่นก็คือ “พระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย” ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ ก็อยากให้ผู้สนใจได้ร่วมกันส่งผลงานเข้ามาครับ”
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยังคงที่จะสานต่อโครงการที่สร้างสรรค์ศิลปกรรมของไทยอันทรงคุณค่า ให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 027855192 พีอาร์ไทยเบฟ