กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัยสูงและยากต่อการควบคุม ผู้ที่เดินทางไปเที่ยวป่า ไม่ควรทิ้งก้นบุหรี่ลงบน
พงหญ้า หากจำเป็นต้องก่อกองไฟควรดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้ที่อาศัยตามแนวชายป่า ควรจัดทำแนวกันไฟ สำหรับประชาชนควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ระมัดระวังการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและเพลิงไหม้ที่อยู่อาศัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและอัคคีภัยมากที่สุด เนื่องจากสภาพอากาศแห้งประกอบกับลมพัดแรง เมื่อเกิดเพลิงไหม้จึงลุกลามอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุมเพลิง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดไฟป่าและเพลิงไหม้ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปเที่ยวป่า ไม่ควรทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นหรือพงหญ้าแห้ง หากจำเป็นต้องก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นหรือประกอบอาหาร ควรดูแลอย่างใกล้ชิดและดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพราะหากเกิดไฟป่า จะทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ที่อาศัยตามแนวชายป่าควรงดเว้นการจุดไฟทั้งเพื่อการเกษตร การล่าสัตว์ หรือการเผาขยะ ควรหมั่นกำจัดวัชพืชและต้นไม้แห้ง ไม่ควรปล่อยให้มีหญ้าแห้งกองสุมกัน เพราะเมื่อเกิดไฟไหม้หญ้าแห้งจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่จะทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งควรจัดทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามจนยากที่จะควบคุม นอกจากนี้ ยังพบว่ากว่า 40% ของการเกิดเพลิงไหม้ที่อยู่อาศัยเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จึงขอเตือนให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะสายไฟที่อยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง โดนฝนสาด และใกล้แหล่งกำเนิดความร้อน เนื่องจากบริเวณข้อต่อที่มีฉนวนหุ้ม เป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งควรเผาขยะหรือหญ้าแห้งในบริเวณที่โล่งแจ้งหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันไฟลุกลาม หากจุดธูปเทียนควรดับให้เรียบร้อยทุกครั้ง ไม่ควรปล่อยให้ธูปดับเอง จะเห็นได้ว่า การประกอบกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องการไฟ ต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบเพราะหากลมพัดแรงและสภาพอากาศแห้ง จะมีโอกาสทำให้เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม