กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เอชพี ประกาศความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP ProLiant โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีความสามารถในการทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลปริมาณมหาศาล และมีฐานข้อมูลที่สามารถขับเคลื่อน
การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในอนาคต
เซิอร์ฟเวอร์แบบปรับขยายได้ (scale-up server) นี้เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นเซิร์ฟเวอร์ตระกูล x86 ที่มีความพร้อมในการทำงานสูงสุด และยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับแอพพลิเคชั่นที่ทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องยาวนานที่สุด โดยสามารถทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียว ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์แบบปรับขยายได้ของเอชพี ทั้งแบบเซิร์ฟเวอร์ฟาร์ม และเมนเฟรม เพราะสามารถบริหารจัดการได้ง่าย ช่วยลดต้นทุน และลดพื้นที่ของศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอชพีขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของโลกในผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล x86(1) โดยสามารถรองรับโซลูชั่นการทำงานที่ปรับขยายได้ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant DL980 G7, HP ProLiant DL580 G7, HP ProLiant BL680c G7 และ HP ProLiant BL620c G7 โดยได้รับคะแนนสูงสุดจาก
การทดสอบเกณฑ์มาตรฐานการทำงานสำคัญในอุตสาหกรรมไอที 6 ประเภท นอกจากนี้ ยังสามารถปรับขยายได้ถึง 8 ซอคเก็ต, 80 คอร์ และมีหน่วยความจำสูงถึง 4 เทราไบต์ภายในเซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่อง ช่วยให้ลูกค้าสามารถรองรับการเติบโตของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่องค์กรธุรกิจชั้นนำองค์กรธุรกิจต่างๆ อาทิ บริษัท อีซี่เน็ต โกลบอล เซอร์วิสเซ็ส (Easynet Global Services) และบริษัท กรุ๊ปโป มีเดียเซ็ต (Gruppo Mediaset) ได้ติดตั้งและใช้เทคโนโลยีของเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตลอดจนเร่งการให้บริการของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ภายในสภาพแวดล้อมไอทีขององค์กร
บริษัท อีซี่เน็ต โกลบอล เซอร์วิสเซ็ส ได้เลือกผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant รุ่น DL580 G7 ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำแบบ Scalable Memory Buffer ใหม่ของอินเทล เพื่อบริหารจัดการและขยายการให้บริการโฮสติ้งรวมทั้งอัพเดต
การทำงานของศูนย์ข้อมูลขององค์กร ทั้งนี้ ด้วยความจุของหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ช่วยเพิ่มพลังในการประมวลผล ส่งผลให้ระบบของบริษัทสามารถทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเร่งสมรรถนะการทำงานของแอพพลิเคชั่น และที่สำคัญที่สุดยังช่วยเพิ่มระดับการให้บริการอีกด้วย
บริษัท กรุ๊ปโป มีเดียเซ็ต สถานีวิทยุโทรทัศน์ของอิตาลี สามารถลดต้นทุนได้กว่าร้อยละ 60 โดยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไอทีแบบเดิมของซิสโก้ไปเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี โดยใช้ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL680c G7 และ BL620c G7 ที่มาพร้อมกับ HP Virtual Connect(2) ทั้งนี้ ด้วยการทำงานร่วมกันของระบบเซิร์ฟเวอร์และ HP Virtual Connect ของเอชพี ส่งผลให้ผู้ดูแลระบบสามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์การทำงานแบบเวอร์ช่วลหรือเสมือนเข้ากับระบบเครือข่ายจัดเก็บข้อมูลทั้งแบบ LAN และ SAN ได้โดยใช้อุปกรณ์น้อยชิ้นลงกว่าเดิม โซลูชั่นแบบผสมผสานของเอชพีช่วยให้บริษัทลดความซับซ้อนของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไร้ระเบียบ ส่งผลให้มีความสามารถในการให้บริการด้านคอนเท้นต์ได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในการทำงานได้เป็นอย่างดี
มร. คริสเตียโน่ ฟูมากัลลิ สถาปนิกระบบ บริษัท กรุ๊ปโป มีเดียเซ็ต กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL620c G7 พร้อมด้วยเซิร์ฟเวอร์เบลด BL680c G7 รวมถึง HP Virtual Connect ช่วยให้เรามีแต้มต่อที่เหนือกว่าคู่แข่งในยุคปัจจุบันที่โลกแห่งการกระจายเสียงและแพร่ภาพวิทยุโทรทัศน์มีการหมุนไปอย่างรวดรวดเร็วและมีการแข่งขันสูงมาก ทั้งนี้ เราไว้ใจเลือกผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP ProLiant สำหรับดูแลศูนย์ข้อมูลของเรา เพราะมีการออกแบบเป็นโมดูลาร์จึงสามารถปรับขยายและอัพเกรดได้อย่างรวดเร็ว ตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และยังช่วยให้เรารับมือกับการเติบโตของข้อมูลที่ไร้ระเบียบได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
เอชพี หนุนสถาบันวิจัยของมหาวิยาลัยชื่อดัง ให้เกิดการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ได้เร็วขึ้น
ศาสตราจารย์ฮิดีโอะ มาบูชิ ประจำภาควิชาฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ต้องการระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการทำวิจัยที่มีข้อมูลปริมาณมหาศาล หลังจากที่ได้ประเมินเปรียบเทียบการใช้งานผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งแล้ว ศาสตราจารย์มาบูชิ ตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant DL980 G7 ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม HP PREMA และเทคโนโลยีหน่วยความจำอัจฉริยะขนาดเล็กความเร็วสูง (CPU caching technology)
ด้วยโซลูชั่นของเอชพีที่มีความสามารถปรับขยายได้สูง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ ได้ถึงร้อยละ 900(2) ส่งผลให้ศาสตราจารย์มาบูชิสามารถขยายแบบจำลองในการทำวิจัยได้อย่างรวดเร็วทั้งยังเร่งให้เกิดการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ได้เร็วขึ้น
ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant scale-up x86 แจ้งเกิดทำลายสถิติ
การทดสอบประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant scale-up มอบสภาพแวดล้อมระบบคอมพิวติ้งที่มีประสิทธิภาพสูง (high-performance computing) ในราคาที่คุ้มค่า มีคุณสมบัติเด่นดังนี้
— มีความสามารถในการประมวลผลที่เหนือกว่า เหมาะสำหรับการคำนวณข้อมูลปริมาณมากๆ เช่น กระบวนการทำธุรกรรมออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะทางด้านธุรกิจ และการคำนวนทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ จากการทดสอบตามมาตราฐาน SPEC CPU2006 ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ DL980 G7 ได้รับคะแนนสูงสุดในการทดสอบเกณฑ์มาตรฐานทางด้านประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ตระกูล x86 แบบ 8 ซอคเก็ต(3)
— มีพลังในการประมวลผลและปรับขยายได้สูงสุดโดยใช้พื้นที่น้อย สามารถรองรับผู้ใช้งานตามมาตรฐาน SAP SD ได้มากกว่า 25,000 คน โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant DL980 ที่ใช้ระบบประมวลผลแบบเดี่ยว 8 ตัวและทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows? ทั้งนี้ ผลการทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐานของแอพพลิเคชั่น SAP SD แบบ 2 ชั้น (two-tier) บนเซิร์ฟเวอร์แบบเดี่ยว ระบุว่า เอชพีเป็นผู้ให้บริการระบบรายแรกที่มีประสิทธิภาพการทำงานในระดับนี้ได้ (4)
— เพิ่มความสามารถในการปรับขยาย ทั้งนี้ จากการทดสอบเกณฑ์มาตรฐานโดย VMmark 2.0 (5,6) พบว่า ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL620c G7 และ HP ProLiant DL580 G7 แบบ 2 และ 4 ซอคเก็ต สามารถรองรับอุปกรณ์การทำงานแบบเสมือนหรือเวอร์ช่วลได้เป็นจำนวนมากสุดต่อเซิร์ฟเวอร์ 1 เครื่อง นอกจากนี้ ยังมีสมรรถนะสูง ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่มีการเพิ่มทรัพยากรต่างๆ เข้ามาในระบบก็ตาม ช่วยให้ลูกค้าทำงานแบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นได้อย่างเต็มที่โดยใช้พื้นที่ในเซิร์ฟเวอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานล่าสุดที่นำมาใช้ทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ในตระกูล HP ProLiant สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://h18004.www1.hp.com/products/servers/benchmarks/index.html
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ HP scale-up สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/go/scaleup
ในโลกของการสื่อสารเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่องนั้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะก้าวไปสู่การเป็นองค์กรแบบ Instant-On ทั้งนี้ แนวคิดแบบ Instant-On Enterprise คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และประชาชนได้อย่างตรงจุดและโดยทันที