กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
ราชบุรีโฮลดิ้ง ระดมทุนตลาดเอเชียสำเร็จ
ออกหุ้นกู้ 15,000 ล้านเยน อัตราดอกเบี้ย 2.72%
- การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ยืนยันความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและแหล่งเงินทุนในตลาดเอเชียท่ามกลางความผันผวนของตลาดเงินโลก
- เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำไปใช้ลงทุนซื้อหุ้น TSIF
- เป็นกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงแหล่งเงินทุน และอัตราดอกเบี้ย
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทย่อย คือ บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น ประกาศออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิมูลค่า 15,000 ล้านเยน ระยะเวลา 15 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 2.72%ต่อปี หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ BBB จากเอสแอนด์พี เรตติ้ง เซอร์วิส เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เพื่อลงทุนซื้อหุ้นกองทุน TSIF ในออสเตรเลีย (ปัจจุบัน TSIF เปลี่ยนชื่อเป็น RATCH-Australia Corporation Limited: RAC) ความสำเร็จครั้งนี้บ่งชี้ถึงความสามารถและศักยภาพของบริษัทฯในการระดมทุนในตลาดเงินระดับภูมิภาคเพื่อการลงทุนขยายกิจการอย่างมั่นคงในระยะยาว
นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ วางแผนและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดีลนี้นับเป็นความสำเร็จท่ามกลางความผันผวนของตลาดเงินและวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป และอเมริกา หุ้นกู้ระยะยาวถึง 15 ปีไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้สำเร็จในตลาดเงินต่างประเทศทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือแม้แต่ตลาดในประเทศ เราได้ศึกษาแหล่งเงินทุนในตลาด และในที่สุดเราก็เลือกหุ้นกู้สกุลเงินเยนเป็นแหล่งเงินทุน ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือระยะเวลาของหุ้นกู้สอดรับกับผลตอบแทนระยะยาวจาก RAC ได้เป็นอย่างดี รวมถึงสนองตอบกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ดีลนี้ยืนยันได้ถึงก้าวย่างที่มั่นคงและแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในภูมิภาคที่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีคุณภาพโดยแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมในเอเชียได้เป็นอย่างดี
“อัตราดอกเบี้ยที่ 2.72% เป็นอัตราที่แข่งขันได้และจูงใจอย่างมาก เมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่เสนอขายกันอยู่ ทั้งที่เป็นบริษัทไทย หรือบริษัทเอเชียที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันในปัจจุบัน ที่สำคัญ เราได้ใช้เครื่องมือทางการเงินในการจัดการความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิผลด้วย เราจึงมั่นใจว่า ได้มีการกระจายแหล่งเงินทุนและการเสริมความมั่นคงให้กับผลตอบแทนการลงทุนของบริษัทฯ” นายพีระวัฒน์ กล่าวปิดท้าย