กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--สำนักโฆษก
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บริษัท แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เลื่อนการปฏิบัติงานตามข้อผูกพันการสำรวจปิโตรเลียมช่วงข้อผูกพันช่วงที่หนึ่ง ปีที่สามของสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 2/2541/56 และเปลี่ยนแปลงข้อผูกพันการสำรวจปิโตรเลียมช่วงผูกพันช่วงที่สอง ปีที่สองของสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 4/2539/51 ของกระทรวงอุตสาหกรรม ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรอง เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานกรรมการฯ เสนอ
ทั้งนี้ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ได้กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอคณะรัฐมนตรีในช่วงการศึกษา ความเป็นไปได้ของโครงการสำหรับการเสนอโครงการใหม่ที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่การขอเปลี่ยนแปลงข้อผูกพันในสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 4/2539/51 จากการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ ระยะทาง 8,550 กิโลเมตร ไปเป็นการเจาะสำรวจนั้นเป็นขั้นตอนหนึ่งในการดำเนินโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว จึงไม่เข้าเกณฑ์ให้นำ EIA เสนอคณะรัฐมนตรี หากแต่ต้องนำ EIA เสนอกรมทรัพยากรธรณีแทน จึงไม่เป็นการดำเนินการ ข้ามขั้นตอนแต่อย่างใด
คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 มีความเห็นว่า การขออนุมัติให้บริษัท แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เลื่อนการปฏิบัติงานตามข้อผูกพันการสำรวจปิโตรเลียม ช่วงข้อผูกพันช่วงที่หนึ่ง ปีที่สามของสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 2/2541/56 และเปลี่ยนแปลงข้อผูกพันการ สำรวจปิโตรเลียมช่วงผูกพันช่วงที่สอง ปีที่สองของสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 4/2539/51 นั้น แม้ไม่ได้ทำให้รัฐเสียประโยชน์ และบริษัทได้มีหนังสือแจ้งขอเลื่อนก่อนครบระยะเวลา ช่วงที่ 1 แต่การขอเลื่อนการปฏิบัติงานตามข้อผูกพันในสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 2/2541/56 ไปอีก 1 ปี นั้น ตามข้อผูกพันของสัมปทานปิโตรเลียมฯ กำหนดให้บริษัท แฮร์รอดส์ฯ ทำการเจาะหลุมสำรวจภายในวันที่ 10 กันยายน 2544 ซึ่งการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีได้ล่วงเลยวันที่ครบกำหนดสัญญาฯ ไปแล้ว จึงเห็นสมควรนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา--จบ--
-สส-