ไนน์บีบี พลัส จุดกระแสเห็ดไทย นำผลงานวิจัย ลุยตลาดเครื่องสำอาง มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Monday August 29, 2011 13:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--นิวส์เพอร์เฟค ไนน์บีบี พลัส รับอาสาจุดกระแสเห็ดไทย นำผลงานวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)ที่ทุ่มเทวิจัยกว่า4ปี ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ ชิโซเดอม่า ประเดิมด้วยสินค้าชุดแรก 3 ชนิด คุณภาพของไทยตีของนอก ร่วมชิงแชร์ตลาดเครื่องสำอางธรรมชาติมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท นายพัฒน์โรจน์ โชติศรีพันธุ์พร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไนน์บีบี พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องสำอางของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากพืช หรือสมุนไพรธรรมชาติ ที่มีมูลค่าสูงถึงปีละกว่า 15,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 15 - 20 % ซึ่งตลาดนี้กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก แม้แต่ภาครัฐก็ให้ความสนใจและสนับสนุนบรรจุไว้ในโครงการ ครีเอทีฟ อีโคโนมี เพื่อหนุนให้คนไทยสร้างสารสกัดจากพืชสำหรับใช้ผสมในเครื่องสำอาง ไนน์บีบี พลัส มองเห็นโอกาสของสมุนไพรไทย และศักยภาพของนักวิจัยไทย จึงได้ตัดสินใจทำตลาดเครื่องสำอาง โดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และเน้นการสร้างแบรนด์ ทำตลาดแบบสากล ประเดิมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด 3 ชนิดแรกจากเห็ดนางรมทอง เห็ดนางรมดอย และเห็ดแครง “ สมุนไพรของไทยได้รับการยอมรับในแง่สรรพคุณความเป็นยามายาวนาน บริษัทเลือกเห็ด เป็นหัวหอกทำตลาด ประกอบด้วย เห็ดนางรมทอง และเห็ดนางรมดอย สำหรับทำ เซรั่ม และแผ่นมาร์กหน้า เห็ดแครง ใช้สำหรับทำครีมทาหน้า ภายใต้ชื่อยี่ห้อ ชิโซเดอม่า บริษัทได้รับการคัดเลือกจาก วว. ให้เป็นผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศ รวมถึงการเตรียมการสำหรับนำเครื่องสำอางไทยไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิดโดยจะเน้นการทำตลาดในกรุงเทพก่อนจะขยายไปทั่วประเทศ ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้วที่ ร้านวัตสัน เดอะมอลล์ (Home Fresh Mart) ตั้ง ฮั่ว เส็ง แคตตาล็อค 7-11 และในเว็บไซต์ของบริษัท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 30 ปีขึ้น สินค้าราคาไม่ได้แพงมากนัก ” นายพัฒน์โรจน์ กล่าว ด้านคุณเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. เปิดเผยเพิ่มเติมถึงนโยบายของ วว. ต่อสมุนไพรไทยว่า วว. เป็นหน่วยงานของภาครัฐ รับผิดชอบวิจัยและพัฒนาผลงานวิจัยให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ อีกทั้งยังคิดต่อยอดไปถึงการขยายผลไปสู่ภาคการเกษตร เพื่อให้มีการผลิตวัตถุดิบให้เพียงพอความต้องการของผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์ได้ เมื่อได้ผลงานวิจัยออกมาแล้ว ก็ส่งต่อให้ภาคเอกชนต่อยอดเป็นงานเชิงธุรกิจ เพราะเชื่อมั่นว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งผลงานวิจัยของเราจะช่วยพัฒนาประเทศในการนำวัตถุดิบที่มีมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าได้ โดยทำการคัดเลือกบริษัทที่มีนโยบายการตลาด และศักยภาพที่ดี สามารถต่อยอดผลงานวิจัยเป็นนโนยบายการตลาดที่ทำได้จริง โดยที่เลือกบริษัท ไนน์บีบี พลัส มารับผิดชอบต่อยอดผลงานวิจัยชิ้นนี้ ของ วว. ก็เพราะแผนงานด้านการตลาดที่นำเสนอให้ วว. เห็นเป็นรูปธรรม และเชื่อว่าจะสามารถปฎิบัติได้จริง คุณภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด นักวิชาการฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ จาก วว. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในแง่ของความปลอดภัยแล้ว เครื่องสำอางจากสมุนไพรมีความปลอดภัยสูงกว่าเครื่องสำอางทั่วๆไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานวิจัยของ วว. นั้นจะเน้นคุณภาพและความปลอดภัยมาก่อนเป็นอันดับแรก ภายใต้โครงการวิจัยนี้ วว. นำเห็ดเพื่อบริโภคมากกว่า 10 ชนิด มาทำการวิจัยทดสอบและพบว่าเห็ดนางรมทอง เห็ดนางรมดอย และเห็ดแครง เหมาะที่จะนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เพราะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ผลงานวิจัยนี้ยังจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเห็ดของไทย เนื่องจากมีเห็ดอีกหลายชนิดที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในเชิงการค้า และยังไม่ได้ถูกพัฒนามาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น หากมีการนำมาพัฒนาให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เกิดการขยายตัวของการเพาะเห็ดในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเกิดการกระจายรายได้ เป็นเครือข่ายการผลิตของอุตสาหกรรม เอสเอ็มอี ที่ต่อเนื่องและยั่งยืนได้ สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2956-5276 E-mail : pr@newsperfect.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ