(ต่อ2) บทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง LIFE OR SOMETHING LIKE I จาก ทเวนตี้ธ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์

ข่าวทั่วไป Thursday April 18, 2002 14:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ทเวนตี้ธ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ (ประเทศไทย)
เมลิสสา เออริโค (แอนเดรีย) จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล ได้รับชื่อเสียงครั้งแรกจากการรับบทนำในละครบรอดเวย์ Les Miserables โดยเทรเวอร์ นันส์ ขณะนั้นเธอมีอายุได้ 19 ปี หลังจากนั้นรับบท คิท/แอนนา ในเรื่อง Anna Karenina โดยเทด แมนน์ และรับบท เอลิซาใน My Fair Lady และร่วมแสดงกับริชาร์ด แ ชมเบอเลน และเทรซี ลอร์ด ใน High Society After a หลังจากรับบทเล็กๆ ในซีรี่ส์ของ CBS เรื่อง Central Park West โดยดาเรน สตาร์ เออริโคจึงคืนสู่เวทีนิวยอร์ค รับบทในเรื่อง One Touch of Venus โดย เคิร์ท วีล ซึ่งนำมาแสดงซ้ำ ผลงานที่ไม่เกี่ยวกับเพลงได้แก่เรื่อง Major Barbara โดยโทนี วอลตัน และ The Importance of Being Earnest ให้กับ Irish Repertory Theatre
หลังจากนั้นเริ่มต้นการแสดงภาพยนต์ให้กับหนังไร้สังกัด ได้แก่ หนังโรแมนติคคอมเมดี้ Picture This, Loose Women กับชาร์ลี ชีน และ เรื่องดังอย่าง Bury the Evidence และ Mockingbird Don't Sing เธอได้รับการต้อนรับจากแฟนภาพยนต์เป็นอย่างมากเมื่อรับบทในภาพยนต์รักของจิม คาวิเซิล เรื่อง Frequency เออริโคแต่งงานกับแพทริค แมคเอนโร นักเทนนิสอาชีพแชมป์เดวิส คัพ
คริสเตียน เคน (คาล) เข้าสู่วงการแสดงเมื่อปี 1997 ในบทของไรอัน "Flagboy" Legget บทนำในซีรี่ส์โทรทัศน์ Fame L.A. สร้างจากโครงเรื่องภาพยนต์โทรทัศน์ดังแห่งยุค 80s ในปี 1999 เขารับบทวิค โลโบ a.k.a. "Cowboy" ใน Rescue 77 โดยแอรอน สเปลลิ่ง หลังจากนั้นไม่นานได้รับงานเป็นผู้ช่วยด้านโปรดักชั่นให้รอน โฮเวิร์ด ในเรื่อง Edtv แสดงโดยแมทธิว แมคคอนาฟฟี, เจนนา เอฟแมน, วู้ดดี้ ฮาเรลสัน และล่าสุดเรื่องราวชาวตะวันตกที่สร้างเพื่อฉายทางโทรทัศน์ Crossfire Trail กับทอม เซลเล็ค และในภาพยนต์จอเงิน Summer Catch เคนกำลังอยู่ในระหว่างถ่ายทำภาพยนต์เบาสมองของทเวนตี้เซ็นจูรี่ ฟอกซ์ เรื่อง Just Married กับแอชตัน คัทเชอร์ และบริตตานี เมอร์ฟีย์ เป็นชาวดัลลัส แต่เขาและครอบครัวย้ายมาอยู่ในเมืองเล็กชื่อนอร์แมน โอคลาโฮมา ได้รับการศึกษาที่ University of Oklahoma ซึ่งเขาวางเข็มไว้ที่ Art History ก่อนเข้าสู่วงการแสดงเป็นอาชีพ
ทีมงานสตีเฟน เฮเร็ค (ผู้กำกับการแสดง) เขาเป็นผู้กำกับฮอลลีวู้ดที่ได้รับความสำเร็จและเป็นที่นับถือมากว่าสิบปี รวมรายได้ภาพยนต์จากฝีมือการกำกับของเขาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น เป็นเงินกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดมีผลงานกำกับการแสดงเรื่อง Rock Star นำแสดงโดยมาร์ค วาลห์เบิร์ก และเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ผลงานกำกับจากเรื่อง 101 Dalmatians แสดงโดยเจฟฟ แดเนียลส และเกน โคลสในบทนางปิศาจครูเอลล่า รวมทั้งหนังดัง Mr. Holland's Opus ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล Outstanding Director, Feature Film, โดย Family Film Awards หลังจากจบการศึกษาจาก University of Texas เฮเร็คย้ายมาลอสแอนเจลิสราวปี 1980 เขาเริ่มงานกับ Roger Corman Productions ในตำแหน่งผู้ลำดับภาพ ผลงานกำกับภาพยนต์เรื่องแรกในปี 1985 เรื่อง Critters ซึ่งเขาร่วมประพันธ์บท เนื้อเรื่องเกี่ยวกับไซไฟเบาสมองสองภาคซึ่งเป็นหนังไร้สังกัดที่ทำรายได้สูงสุด.นรอบสิบปี ในปี 1987 เฮเร็คกำกับการแสดงหนังล้ำยุค เรื่องราวเบาสมองย้อนเวลาของวัยทีน Bill and Ted's Excellent Adventure ไม่เพียงแต่โกยรายได้มหาศาลเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดกำเนิดของศัพท์แสลงอเมริกันที่กลายเป็นวลีฮิตติดปากวัยรุ่นทั่วประเทศ เช่น "Dude!" "Excellent!" และ "No Way!" ผลงานมีชื่อของเฮเร็คยังมีภาพยนต์ดิสนีย์ยอดฮิต The Mighty Ducks ซึ่งประสบความสำเร็จในภาคต่อ และเรื่องราวของฟรานไชส์ National Hockey League ยังรวมทั้ง Don't Tell Mom the Babysitter's Dead!; รีเมคเรื่อง The Three Musketeers, นำแสดงโดยคริส โอดอนเนล, ชาร์ลี ชีน และ ไคเฟอร์ ซุทเธอร์แลนด์ และ Holy Man จากการแสดงของเอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์
จอห์น สก็อต เชฟเฟิร์ด (บทประพันธ์) เคยเป็นครีเอทีฟที่ประสพความสำเร็จในบริษัทโฆษณาในแคนซัส ซิตี้ มีผลงานให้ลูกค้าต่างๆ เช่น Sprint และ Northwest Airlines เคยได้รับรางวัลมากมายจากการเขียนสคริปท์และกำกับวิดีโอและโฆษณาบริษัท
จนกระทั่งเมื่อเขาได้รับการเสนอให้รับงานชิ้นใหญ่ เป็นหัวหอกให้ McDonald's ในลอสแอนเจลิส เขาจึงได้เลือกทำงานที่เขารักที่สุด - เขียนบท
เชฟเฟิร์ดกลายเป็นหนึ่งในนักเขียนที่โด่งดังที่สุดในอเมริกา จากเรื่อง Joe Somebody และ LIFE OR SOMETHING LIKE IT ที่จะลงโรงเร็วๆ นี้ นอกจากนี้เขายังมีภาพยนต์อีก 5 เรื่องจากผลงานเขียนของเขาซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำในสตูดิโอฮอลลีวู้ด งานกำกับอีกสามเรื่อง และสัญญาระยะยาว 3 ปีกับสตูดิโอที.วี. เพื่อสร้างเป็นละครความยาว 1 ช.ม. ในช่วงเวลาว่างของเขา
นวนิยายเรื่องแรกของเขา Henry's List of Wrongs, เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักหมิ่นเหม่ จากมุมมองของผู้ชาย ซึ่งถูกเลือกโดยนิวไลน์
ชื่อเสียงที่ขจรขจายของเชฟเฟิดเริ่มมาจากบทภาพยนต์เรื่องแรก Michigan at Madison ซึ่งเป็นเรื่องราวการเดินทางกลับไปสู่อดีตของตนเองเพื่อแก้ชะตาชีวิตให้ผู้อื่น ในระหว่างไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือกับเคน แอทชิตี้ (ผู้เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับเขาตอนนั้น และได้กลายมาเป็นหุ้นส่วนของเขาในบริษัทภาพยนต์ Warp & Weft) เชฟเฟิดได้ถูกคะยั้นคะยอโดยแอทชิตี้ให้เขียนพล็อตซึ่งต่อมาได้กลายเป็น Henry's List of Wrongs
ในข้อตกลงสร้างหนังสามเรื่องที่มีกับวอร์เนอร์บราเดอร์ส เชฟเฟิดถูกกำหนดให้กำกับจากบทดัดแปลงของตนเองจากนวนิยายคอมเมดี้ดราม่า Eulogy for Joseph Way (ซึ่งจะจัดพิมพ์โดย Rugged Land ในปี 2003) เพื่อผู้อำนวยการผลิต จอห์น เวลล์ส (ER and White Oleander) เรื่องที่สองกำหนดโดยวอร์เนอร์ Kill Martin Club เรื่องราวสยองขวัญเบาสมองเกี่ยวกับชีวิตคนทำงานกลุ่มหนึ่งที่ชอบจินตนาการเกี่ยวกับการสังหารนายของตนเอง แล้วในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
เรื่องอื่นๆ ที่อยู่ในโปรเจ็ค ได้แก่ Favorite Son, ซึ่งคล้ายคลึงกับเรื่อง Field of Dreams คอมเมดี้ดราม่า ในเรื่องราวของชายชาวเนบราสก้าผู้ค้นพบว่าชีวิตเขาไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็น กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตให้ AEI โดยโดนัลด์ ดีไลน์ ร่วมกับผู้กำกับการแสดงสตีเวน บริล (Mr. Deeds); เรื่องโรแมนติคคอมเมดี้ Tonic, ซึ่ง Revolution Studios กำลังผลิตให้
เพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ในฐานะผู้อำนวยการผลิตและผู้กำกับ เชฟเฟิร์ด ก่อตั้งบริษัทโฆษณา Warp & Weft ของตนเองในปี 2001 ร่วมกับหุ้นส่วน เคน แอทชิตี้ (ซึ่งยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทบริหารและผลิตงานประพันธ์ Atchity Editorial/Entertainment International, AEI) และภายใต้ชื่อบริษัทนี้เขาทั้งสองกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงสคริปท์ของเชฟเฟิร์ดเรื่อง Prince of Pools
เชฟเฟิร์ดจบการศึกษาจาก University of Missouri-Kansas City ด้วยปริญญาใน English/Mass Media Emphasis เขาและซูซานผู้เป็นภรรยาและลูกทั้งสามมีบ้านอยู่ในแคนซัสซิตี้
ดานา สตีเฟนส์ (บทประพันธ์) เธอผู้นี้มีพื้นเดิมจากการเป็นผู้เขียนบทละครเวทีมาก่อน เกิดในวิทเธอร์ แคลิฟอร์เนีย และไปเติบโตในฟีนิกซ์ อริโซน่า และได้รับปริญญาสาขา Theatre Arts จาก UCLA, summa cum laude เคยเป็นนักแสดงและผู้อ่านบทเป็นเวลาสองสามปี และประสบความสำเร็จในฐานะผู้เขียนบทละครในวิทยาลัยหลังจากนั้นจึงหันมาจับงานภาพยนต์ บทหนังเรื่องแรกที่ทำให้กับนิวไลน์ ซีเนม่า คือเรื่อง Blink กำกับการแสดงโดย ไมเคิล แอปเทด นำแสดงโดยแมดเดอลีน สโตว์ และไอเดน ควินน์ ออกฉายเมื่อปี 1994 ในปี 1998 ผลงานเรื่องที่สองของเธอคือ City of Angels แสดงโดยนิโคลัส เคจ และเมก ไรอัน ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังฮิตแห่งปี เรื่องที่สาม For Love of the Game แสดงโดยเควิน คอสเนอร์ และเค้าโครงเรื่องจากนวนิยายของไมเคิล ชาร่า ซึ่งออกฉายในปี 1999
งานเขียนสคริปท์ที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องเกี่ยวกับชีวิตชาวตะวันตกให้กับโจดี้ ฟอสเตอร์ และหนังชีวประวัติ จอห์น เลนนอน ให้กับโซนี่
อาร์นอน มิลแคน (ผู้อำนวยการผลิต) มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์ที่ประสพความสำเร็จมากว่า 20 ปีที่ผ่านมา นับเป็นจำนวนกว่า 60 เรื่อง มิลแคนเกิดที่อิสราเอล ได้รับการศึกษาที่ London School of Economics และ University of Geneva ธุรกิจแรกที่เขาดำเนินการคือการขยายกิจการบริษัทเล็กๆ ของบิดาให้กลายเป็นบริษัทเคมีการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งความสำเร็จนี้ได้ส่งผลให้เขาเป็นที่ยอมรับในความเป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ
ต่อจากนั้นเขาจึงเริ่มโครงการที่เขามีความสนใจเป็นพิเศษมาโดยตลอด - ภาพยนตร์, โทรทัศน์ และละครเวที งานชิ้นแรกๆ อาทิเช่น "Amadeus", "Dizengoff 99", "La Menace"และ "The Medusa Touch" โดยโรมัน โปลินสกี้ ตอนปลายยุค '80 มิลแคนเริ่มสร้างภาพยนต์เรื่อง "The King of Comedy" ของมาร์ติน ซอสเซส, เรื่อง "Once Upon a Time In America" โดยเซอจิโอ ลีโอน และ "Brazil" โดยเทอร์รี่ กิลเลียม
หลังจากที่ประสพความสำเร็จอย่างสูงกับ"Pretty Woman" และ" The War of the Roses" มิลแคนก่อตั้งบริษัทนิวรีเจนซี่ โปรดัคชั่น ขึ้นและสร้างผลงานมากมาย ได้แก่ "J.F.K.," "Sommersby," "A Time to Kill," "Free Willy," "The Client," "Tin Cup," "Under Siege," "L.A. Confidential," "The Devil's Advocate," "The Negotiator," "City of Angels," "Entrapment," "Joy Ride," "Fight Club," และล่าสุดผลงานบ็อกซ์ออฟฟิซ "Don't Say A Word" และ "Big Momma's House" โดยล่าสุดมีผลงานทริลเลอร์ High Crimes
(ยังมีต่อ)
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ