กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--กรมสรรพสามิต
ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวเนื่องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทบต่อการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ว่า “การปรับลดราคาน้ำมันทั้ง 3 ชนิด คือ เบนซิน 95 เบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล จะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้รวมกันถึง 300,000 ล้านบาท” กรมสรรพสามิตขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
การปรับลดราคาน้ำมันทั้งหมด เป็นการปรับลดในส่วนของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต โดยยังคงจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ในอัตราเดิม คือ 7.00 บาทต่อลิตร ภาษีสรรพสามิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E10) อยู่ที่ 6.30 บาทต่อลิตร ภาษีสรรพสา มิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E20) 5.60 บาทต่อลิตร และภาษีสรรพสามิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E85) 1.05 บาทต่อลิตร ขณะที่ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 0.005 บาทต่อลิตร
ส่วนการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเหลือ 0.005 บาทต่อลิตรนั้น เป็นการดำเนิน การตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 89) ลงวันที่ 20 เมษายน 2554 ซึ่งออกมาในช่วงรัฐบาลที่แล้ว โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 และกรมสรรพสามิตได้คำนึงถึงผลกระทบต่อประมาณการรายได้ภาษีสรรพสามิตแล้ว ดังนั้น นโยบายดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของกรมสรรพสามิตแต่อย่างใด