กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--Greenpeace Southeast Asia
อาดิดาส บริษัทยี่ห้อเสื้อผ้ากีฬาชื่อดังได้ตอบสนองข้อเรียงร้องจากกรีนพีซและผู้บริโภคภายใต้โครงการ “Detox” หรือ“ล้างสารพิษ” แล้ว โดยได้ ประกาศวางแผน (1) ยุติการใช้และปลดปล่อยสารเคมีอันตรายตลอดห่วงโซ่การผลิตและใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ให้สำเร็จภายในปี 2563 (2)
อาดิดาสได้ให้คำมั่นนี้หลังจากกรีนพีซเปิดเผยรายงาน “เสื้อผ้าสกปรก” (3) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เปิดเผยถึงมลพิษทางน้ำในประเทศจีนที่เกิดจากโรงงานฟอกย้อมผ้าที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ (4) อย่างเช่น อาดิดาส ไนกี้ (5) พูมา (6) และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีรายงานต่อเนื่อง “เสื้อผ้าสกปรก 2: ปัญหาที่ถูกละเลย” (7) ที่ชี้ถึงหลักฐานเพิ่มเติมว่าเสื้อผ้า 14 ยี่ห้อระดับโลก เช่น อเบอร์ครอมบี้แอนด์ฟิทช์ (Abercrombie and Fitch) เอชแอนด์เอ็ม (H&M) ต่างมีการใช้สารเคมีอันตรายในกระบวนการผลิต เช่น สารโนนิลฟีนอล (Nonylphenol หรือ NP) ซึ่งเป็นสารพิษที่ตกค้างยาวนานในห่วงโซ่อาหาร มีคุณสมบัติรบกวนการทำงานระบบฮอร์โมน และเป็นอันตรายได้แม้ในระดับเพียงเล็กน้อย
“อาดิดาสจ้างโรงงานหลายแห่งในประเทศไทยในการผลิตเสื้อผ้า ดังนั้นการที่อาดิดาสได้ให้คำมั่นที่จะมุ่งสู่การยุติการใช้สารเคมีอันตรายย่อมเป็นข่าวดีของคนไทย ทั้งนี้ การให้คำมั่นของอาดิดาสในการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Discharge) นั้นหมายถึงการยอมรับว่าสารเคมีอันตรายนั้น ไม่มีระดับเรียกว่าปลอดภัย และการยกเลิกการใช้เท่านั้นคือหนทางเดียวที่จะป้องกันผลกระทบ” นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
“หนทางสู่การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ยังอีกยาวไกล ขณะนี้ไนกี้ อาดิดาส และพูมาได้ให้คำมั่นที่จะมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสู่อนาคตปลอดสารพิษแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำคำพูดให้เป็นการปฏิบัติจริง โดยต้องมีแผนปฏิบัติงานและลงมือทำให้เห็นผลอย่างแท้จริง” นายพลายกล่าวเสริม
ส่วนหนึ่งของคำประกาศของอาดิดาสได้รวมถึงแผนเร่งด่วนที่จะยกเลิกการใช้ สารโนนิลฟีนอลอีทอกซิเลท (Nonylphenol Ethoxylates หรือ NPEs) ที่คำนึงถึงหลักการ “ไม่มีระดับที่ปลอดภัย” สำหรับสารเคมีอันตราย และคำมั่นที่จะร่วมมือกับโรงงานผู้ผลิต นอกจากนี้ อาดิดาสยังได้ให้ความสำคัญด้านความโปร่งใสในการรายงานข้อมูลการปลดปล่อยสารเคมีอันตรายจากโรงงานผลิต และนอกจากแผนปฏิบัติงานของตนแล้ว อาดิดาสยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลักดันอุตสาหกรรมอื่นๆ ควบคู่กันไป โดยให้คำมั่นว่าจะคลอดแผนปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 7 สัปดาห์ข้างหน้า
หลังจากที่กรีนพีซได้เปิดเผยรายงาน เสื้อผ้าสกปรกทั้งสองฉบับและรณรงค์โครงการ “Detox” หรือ“ล้างสารพิษ” ยังมีบริษัทยี่ห้อเสื้อผ้าอื่นๆ ที่ได้เริ่มตอบรับข้อเรียกร้อง อาทิ ลาคอส (Lacoste) (9) จี-สตาร์ รอว์ (G-Star Raw) (10) ยูนิโคล่ (Uniqlo) (11) และ หลี่หนิง (Li Ning) แบรนด์จากประเทศจีน โดยกรีนพีซกำลังนำเสนอและเจรจาให้บริษัทเหล่านี้ประกาศอย่างเป็นทางการที่จะเข้าร่วมการนำอุตสาหกรรมสู่อนาคตปลอดสารพิษ
กรีนพีซทำงานรณรงค์ด้วยหลักการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธี นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ กรีนพีซรณรงค์เพื่อยุติมลพิษอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ซึ่งเกิดจากสารเคมีที่เป็นพิษ คงทนในสิ่งแวดล้อมและรบกวนฮอร์โมน โดยเรียกร้องให้บริษัทและรัฐบาลลงมืออย่างจริงจังในการ “ล้างสารพิษ” จากอนาคตของเรา
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
พลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 02-357-1921 ต่อ 135, 081-658-9432
วิริยา กิ่งวัชระพงศ์ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 089-487-0678
หมายเหตุ
(1) อาดิดาสได้ประกาศคำมั่นลดใช้สารพิษในวันที่ 26 สิงหาคม และประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในวันที่ 30 สิงหาคม หลังจากการพูดคุยกับกรีนพีซสากล
(2) อาดิดาสให้คำมั่นที่จะลดใช้สารเคมีอันตรายในวันที่ 30 สิงหาคม http://www.adidas-group.com/en/sustainability/statements/2011/Commitment_to_Zero_Discharge_Aug_2011.aspx
(3) กรีนพีซใช้เวลา 1 ปีในการสำรวจมลพิษทางน้ำในประเทศจีนและพบว่าบริษัทเสื้อผ้ารายใหญ่รวมถึง อาดิดาสและไนกี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตในประเทศจีนที่ปล่อยสารเคมีอันตรายซึ่งเป็นสารรบกวนฮอร์โมนและมีความคงทนสามารถสะสมในสิ่งแวดล้อมลงสู่แม่น้ำในประเทศจีน การศึกษาครั้งนี้ได้ชี้ถึงสารเคมีอันตรายที่ถูกปล่อยจากโรงงานฟอกย้อมสู่แหล่งน้ำว่าอาจเกิดขึ้นได้ทั่วโลก และบ่งชี้ถึงปัญหาร้ายแรงที่สามารถส่งผลกระทบที่รวดเร็วและร้ายแรงต่อทั้งระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์
สามารถอ่านรายงาน “เสื้อผ้าสกปรก” ฉบับย่อได้ที่ http://www.greenpeace.org/seasia/th/press/reports/dirty-laundry-summary-report/
รายงานฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) http://www.greenpeace.org/international/en/publications/reports/Dirty-Laundry/
(4) อเบอร์ครอมบี้ แอนด์ ฟิช (Abercrombie & Fitch) อาดิดาส (Adidas) บาวเออร์ ฮอกกี้ (Bauer Hockey) คาลวิน ไคลน์ (Calvin Klein) คอนเวอร์ส (Converse) คอร์ทีฟิล (Cortefie)l) เอช แอนด์ เอ็ม (H&M) ลาคอส (Lacoste) หลี่หนิง (Li Ning) มีเทอร์ซ/บอนว์ (Meters/bonwe)ไนกี้ (Nike) ฟิลิปส์ แวน ฮุสเซน (Phillips-Van Heusen Corporation) พูมา (Puma) และยาเกอ (Youngor)
(5) ไนกี้ประกาศลดการใช้สารพิษ ในวันที่ 18 สิงหาคม http://www.nikebiz.com/media/pr/2011/08/17_zero_discharge.html
(6) พูมาประกาศลดใช้สารพิษ ในวันที่ 26 กรกฎาคม http://www.greenpeace.org/seasia/th/press/releases/Puma-overtakes-competitors-Adidas-and-Nike-in-race-to-drop-toxic-pollution/
(7) รายงาน “เสื้อผ้าสกปรก2” ฉบับภาษาไทย สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.greenpeace.or.th/dirtylaundry2
(8) “นอกจากนี้ เราตระหนักดีว่าการบรรลุเป้าหมาย การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และการเปิดเผยการใช้สารพิษในห่วงโซ่การผลิตนั้นเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นบนพื้นฐานของ “สิทธิในการรับรู้” และภายใน 7 สัปดาห์ เราจะพัฒนาแผนร่างดำเนินการสำหรับกลุ่มอาดิดาส และเครือผู้รับจ้างผลิต ซึ่งจะรวมถึงแผนงานและการลงมือปฏิบัติที่เราได้ให้คำมั่นไว้ ทั้งนี้ได้รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมด้วย”
http://www.adidas-group.com/en/sustainability/statements/2011/Commitment_to_Zero_Discharge_Aug_2011.aspx
(9) ลาคอสระบุวันที่ 29 สิงหาคม http://www.lacoste.com/#/press-news-70
(10) http://www.g-star.com/media/documents/G-Star%20Raw%20committed%20to%20eliminate%20hazardous%20chemicals%20August,%202011.pdf
(11) http://www.fastretailing.com/eng/csr/news/1108241700.html