เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิก ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2548

ข่าวเทคโนโลยี Thursday August 4, 2005 09:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิก ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2548 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชนะใจลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมด้วยความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และงานบริการ
เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิก ประกาศรายรับจากซอฟท์แวร์โซลูชั่นในรอบหกเดือนแรกของปี 2548 โตขึ้นกว่าปี 2547 กว่า 38 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิกก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกปี 2548 โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548 เอส เอ พีมีรายรับจากซอฟท์แวร์โซลูชั่นในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกโตขึ้นกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นรายได้กว่า 61 ล้านยูโร ส่วนรายรับโดยรวมทั่วโลกของเอส เอ พีในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 นั้นมีรายได้กว่า 2.02 พันล้านยูโร โดยเป็นรายรับจากซอฟท์แวร์โซลูชั่นกว่า 576 ยูโร
เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน โดยเอส เอ พี เอเซียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของรายได้จากซอฟท์แวร์โซลูชั่นเพิ่มขึ้นกว่า 2 จุดนับเป็นเปอร์เซ็นต์ (Percentage Points) ในแต่ละไตรมาส ซึ่งมีค่าเฉลี่ยจาก 63 เปอร์เซ็นต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 เป็น 72 เปอรเซ็นต์ ในไตรมาส ที่ 2 ปี 2548 การเติบโตอย่างรวดเร็วของเอส เอ พี ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก เป็นผลมาจากความสำเร็จในการทำตลาดในกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมด้วยกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ เห็นได้จากการที่เอส เอ พี มีการเซ็นสัญญากับลูกค้าใหม่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกกว่า 600 รายในครึ่งปีแรกของปี 2548 หรือคิดเฉลี่ยจำนวนลูกค้าใหม่ประมาณ 5 รายต่อ 1 วัน ยืนยันได้ดีถึงความพึงพอใจของลูกค้าต่อโซลูชั่นจากเอส เอ พีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแสดงความเป็นหนึ่งในทุกอุตสาหกรรม
“ครึ่งปีแรกของปี 2548 นั้นเป็นความสำเร็จที่เด่นชัดที่สุดของ เอส เอ พี เอเซียแปซิฟิก” มร. ฮานส์-ปีเตอร์ เคลย์ ประธานและ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เอส เอ พี จำกัด ภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก กล่าว “ผลการดำเนินงานของเรา เป็นสิ่งที่ยืนยันว่ายุทธวิธีที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางนั้นเป็นยุทธวิธีที่ถูกต้อง และบอกถึงการขยายตัวของช่องว่างในการเติบโตที่เอส เอ พีทิ้งห่างบริษัทซอฟท์แวร์รายอื่นๆ การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลมาจากการมุ่งเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจไปที่สิ่งที่เอส เอ พีมีความเชี่ยวชาญที่สุด และพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการตลอดจนสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนด้านการจัดซื้อซอฟท์แวร์ให้แก่ลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง”
คลื่นความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อ เซฟ แพสเซจ (Safe Passage Program)
มีธุรกิจจำนวนมากได้ให้ความไว้วางใจเลือกใช้โซลูชั่นของเอสเอพี ด้วยเป็นโซลูชั่นที่เหมาะสมกับกระบวนการดำเนินทางธุรกิจ ในช่วงเวลาเพียง 6 เดือนที่ผ่านมา เอส เอ พี ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก สามารถดึงลูกค้ามากกว่า 20 รายให้เปลี่ยนมาใช้โซลูชั่นของเอส เอ พี รวมทั้งมีลูกค้าพีเพิลซ้อฟท์ (PeopleSoft) เจ ดี เอ็ดเวิร์ดส์ (J.D. Edwards) และ เรเทค (Retek) ได้เข้ามาร่วมใช้โปรแกรมเซฟพาสเสจตั้งแต่เริ่มแรกที่มีการเปิดตัวโปรแกรมเมื่อต้นปีนี้ แม้ว่าโปรแกรมนี้เข้ามาในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกในช่วงเวลาไม่นานนัก แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าในหลายๆ ธุรกิจในภูมิภาค หนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของเอส เอ พี เซฟ พาสเสจ ได้แก่ บริษัท ยูไนเต็ด แล็บบอราทอรี่ จำกัด (United Laboratory) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเวชภัณฑ์ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เอส เอ พี ได้ประกาศความเป็นผู้นำในธุรกิจโซลูชั่นที่กำลังขยายตัวอย่างดีด้วยการเปิดตัวบริษัทในกลุ่มใหม่ที่ชื่อ ทูมอโร่นาว (TomorrowNow) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยจะมาเป็นบริษัทที่จะช่วยขยายธุรกิจของเอส เอ พี ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และมีหน้าที่สำคัญในการลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงซอฟท์แวร์ของลูกค้าพีเพิลซ้อฟท์และเจ ดี เอ็ดเวิร์ดส์ให้ลดเหลือเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เอส เอ พีขยายสู่ตลาดธุรกิจขนาดกลาง
ตลาดธุรกิจขนาดกลางเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับเอส เอ พี ซึ่งทำกำไรกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดกำไรสุทธิจากการจำหน่ายซอฟท์แวร์ในบัญชีเอพีเอ โดยกว่า 1 ใน 4 ของลูกค้าที่ประกอบธุรกิจขนาดกลางโดยตรงรายใหม่ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกต่างได้ประโยชน์จากบริการชั้นเยี่ยมในการช่วยบริหารค่าใช้จ่ายภายในองค์กรจากโซลูชั่นของเอส เอ พี จากในส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ใช้บริการของบริษัทพันธมิตรเอสเอพี ทางเอพีเอได้เห็นความเจริญเติบโตที่สูงถึง 139 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มลูกค้าใหม่ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ในปี 2547 (ไตรมาส 2 2547) ซึ่งมีจำนวนลูกค้ามากถึง 300 รายที่อยู่ในบริการ โดยลูกค้ารายสำคัญในภูมิภาคนี้ที่ใช้บริการ ได้แก่ PT Socfin, Dharma Polymetal (ประเทศอินโดนีเชีย), Calcom Cements, Galaxy Surfactants (ประเทศอินเดีย), Isuzu Malaysia, Chemopharm (ประเทศมาเลเชีย), Qingdao Jinhua Industrial Group, Hebei Zhongji Auto Trading Group (ประเทศจีน) และ Rusty และ Orion Laboratories (ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์)
“เอส เอ พีและพันธมิตรได้พิสูจน์ให้เห็นว่าโซลูชั่น และบริการคุณภาพของบริษัทได้ช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนานวัตกรรม และสร้างความเจริญเติบโตของธุรกิจ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้เอส เอ พีว่าเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานสูงสุด (Gold Standard) ในธุรกิจซอฟท์แวร์โซลูชั่น” มร. ฮานส์-ปีเตอร์ เคลย์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เอส เอ พี จำกัด ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าว “จุดแข็งและประสบการณ์ของเอส เอ พีในการทำงานับบริษัทพันธมิตรในด้านการส่งผ่านเทคโนโลยีและบริการที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่ตรงจุดของลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อมนั้น ทำให้เอส เอ พีสามารถเจริญรุดหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพปีนี้ และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเจริญเติบโตที่ต่อเนื่องของบริษัทในภูมิภาคนี้ จากการที่มีบริษัท ขนาดกลางและย่อมอยู่เป็นจำนวนมากขึ้นที่มักจะเสาะหาวิธีการที่จะช่วยให้พวกเขาเกิดความคล่องตัวเพิ่มขึ้นในการแข่งขันทางการตลาดที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน บริษัทเหล่านี้ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรที่ช่วยจัดเตรียมโซลูชั่นที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถได้รับเงินลงทุนคืนมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และช่วยให้บริษัทสามารถขยายความต้องการต่างๆ ทางด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
เอส เอ พี เน็ตวีฟเวอร์ — ซอฟท์แวร์แพลตฟอร์มเพื่อความเป็นผู้นำขององค์กรธุรกิจในตลาดอุตสาหกรรมความเคลื่อนไหวครึ่งปีแรกประจำปี พ.ศ. 2548 แสดงให้เห็นว่ามีลูกค้าจำนวนมากให้ความสนใจในการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์ม เอส เอ พี เน็ตวีฟเวอร์ เพื่อพัฒนาระบบงานโดยรวมขององค์กรธุรกิจ อีกทั้งการเดินทางมาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของ มร. ไช อากาสซี่ (Shai Agassi) สมาชิกกลุ่มผู้บริหาร เอส เอ พี เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อประกาศการจัดตั้งคอมกรุ๊ป (ComGroup) ให้เป็นสำนักงานตัวแทนอิสระในการจัดจำหน่ายซอฟท์แวร์ เอส เอ พี เน็ตวีฟเวอร์ และเป็นแห่งแรกในสาธารณรัฐประชาชนจีนในการนำโซลูชั่นเน็ตวีฟเวอร์ที่ผ่านการตรวจสอบออกสู่ตลาดเอเชีย แปซิฟิก รวมจนถึงเครือข่ายการพัฒนาซอฟท์แวร์ของ เอส เอ พี (SDN-Software Development Network) ในเวอร์ชั่นทั้งภาษาจีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีสมาชิกรวมทั้งหมด ณ วันนี้สูงถึง 30,000 ราย คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ เทคโนโลยี เอส เอ พี เน็ตวีฟเวอร์ ได้เติบโตครอบคลุมถึงเขตเมืองบังกาลอร์ กรุงปักกิ่ง และกัวลาลัมเปอร์ ที่ให้ความสนใจ และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจด้วยซอฟท์แวร์โซลูชั่น ซึ่งยังคงมีกิจกรรมรองรับอีกมากมายภายในปีนี้
การลงทุนในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ
เอส เอ พี ขยายฐานธุรกิจอย่างรวดเร็วบนภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก อย่างชัดเจนด้วยตัวเลขจากผลประกอบการจากไตรมาสที่สองของปีพ.ศ. 2548 ในเกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรุดหน้าในอินเดีย และจีนอีกด้วย นอกเหนือจากการลงทุนในส่วนของการขยายตัวทางธุรกิจ เอส เอ พีได้จัดตั้งศูนย์เน็ตวีฟเวอร์แห่งแรกของโลก ณ บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย มุ่งเน้นการพัฒนา และทดสอบ ด้วยระบบสถาปัตยกรรมด้านบริการองค์กรธุรกิจ (ESA-Enterprise Services Architecture) พร้อมสรรพด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ทันสมัยสมบูรณ์แบบให้กับตัวแทนจำหน่าย และหุ้นส่วน ปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้ทำให้อัตราการเติบโตของ เอส เอ พี เขตเอเชีย แปซิฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการเพิ่มจำนวนพนักงานในประเทศอินเดียสองเท่าภายใน 18 เดือน
การทัวร์รอบโลกของ เอส เอ พี ผ่านงาน เอส เอ พี ซัมมิท คืออีกหนึ่งความสำเร็จที่เห็นได้ชัดเจน โดยล้วนจัดมาแล้วในนานาประเทศ อาทิ ฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลี อินเดีย ไทย มาเลเซีย จีน และสิงคโปร์ มีผู้เข้าร่วมงานรวมนับหมื่นเพื่อเข้าสัมมนา และแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการเปิดตัวของ mySAP ERP และ SAP NetWeaver รวมจนถึงรางวัลทรงเกียรติที่แสดงให้เห็นถึงผลตอบรับจากผู้ใช้ และสังคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ ได้แก่รางวัล Frost & Sullivan 2005 Asia Pacific Operational CRM Vendor of the Year Award, Asia Freight & Supply Chain Awards 2005, Computer World Hong Kong 2005 Awards และ Indonesian Warta Ekonomi e-Company Awards 2005
รายนามลูกค้าหลักของภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกที่เซ็นสัญญาภายในไตรมาสที่ 2
Farmers Trading Company (Retail)
Rusty (Retail)
จีน
Huiyang Techwise Circuits (High Tech)
Suning Appliance Chain Store Group (Retail)
อินเดีย
Pantaloon Retail (Retail)
Radhakrishna Foodland (Consumer Products)
อินโดนีเซีย
PT PLN (Utilities)
Bank International Indonesia (Financial Services)
ญี่ปุ่น
Fuji Photo Film (High Tech)
Aozora Bank (Financial Services)
เกาหลี
Kia Motors Corporation (Automotive)
CJ Lion (Consumer Products)
มาเลย์เซีย
Star Publications (Media)
Bank Islam (Financial Services)
ฟิลิปปินส์
Purefoods-Hormel Company (Consumer Products)
Manila Water (Utilities)
Singapore
Fujitsu Asia (High Tech)
Hong Leong Asia (Chemicals)
ไต้หวัน
Wistron (High Tech)
Johnson Health Tech (Machinery, Engineering & Construction)
ไทย
GMM Grammy PCL (Media)
National Health Security Office (Healthcare)
เกี่ยวกับเอส เอ พี
เอส เอ พี เอจี (NYSE: SAP) เป็นผู้จัดหาซอฟท์แวร์โซลูชั่นทางด้านธุรกิจชั้นนำระดับโลก โซลูชั่นของเอส เอ พีได้ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรทุกขนาด — ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไปจนถึงองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพร้ซ์ โซลูชั่น mySAP Business Suite - ได้รับการพัฒนาบน SAP NetWeaver ซึ่งเป็นโครงสร้างระบบที่รองรับแอพพลิเคชั่นและการเชื่อมโยงแบบเปิด ช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนทางธุรกิจ เสริมอานุภาพในการปฏิรูปองค์กร และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถปรับปรุงสัมพันธภาพของลูกค้าตลอดจนพันธมิตรให้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับระบบซัพพลายเชนและการดำเนินธุรกิจทั้งระบบ นอกจากนี้ เอส เอ พียังมีโซลูชั่นที่รองรับความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะด้านถึงกว่า 25 ประเภท ตั้งแต่ อุตสาหกรรมการบินไปจนถึงธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีแกนหลักในการดำเนินงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปัจจุบันเอส เอ พีมีลูกค้ากว่า 21,600 รายกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ถึง 120 ประเทศทั่วโลกซึ่งได้รับการติดตั้งซอฟท์แวร์ของเอส เอ พีแล้วกว่า 69,700 แห่ง นอกจากนี้เอส เอ พีมีสาขาอยู่ใน 50 ประเทศทั่วโลก และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง ทั้งที่แฟรงเฟิร์ท และ NYSE ภายใต้สัญลักษณ์ “SAP”
(สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก )
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
ฐิติพันธ์ รักษาสัตย์ จุฑาทิพย์ จิตรสุจริต
บริษัท พิตอน คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 02 612 22 11-5 โทรสาร 01 612 22 16
อีเมล์ thitipan@PITON.biz, jutathip@PITON.biz--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ