กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--ฮอนด้า มอเตอร์
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศแนะนำ NSX-R โฉมใหม่ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีความเหนือชั้นจากรุ่นพื้นฐานเพื่อความเร้าใจยิ่งขึ้นในการขับขี่ โดยนับตั้งแต่เปิดตัว NSX เป็นครั้งแรกในปี 1990 ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนารถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางรุ่นนี้อย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จโดยได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดแห่งรถสปอร์ตพันธุ์แท้ ซึ่งขณะนี้ NSX-R ใหม่เริ่มทำตลาดในญี่ปุ่นแล้ว
NSX-R เปิดตัวครั้งแรก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1992 และทำตลาดนานถึง 3 ปีโดยมีการผลิตจำกัดและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี หลังจากนั้นอีก 7 ปีต่อมา ฮอนด้าจึงได้นำตำนานแห่งพลังของ NSX-R กลับมาอีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ที่ใหม่หมดทั้งคัน
ฮอนด้า NSX-R รุ่นล่าสุดเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนาสปอร์ตพันธุ์แท้ให้มีความเหนือชั้นเพิ่มขึ้นในอีกระดับ ด้วยแนวคิดที่เคยประสบความเร็จมาแล้วในรุ่นเดิม ทั้งในด้านการลดน้ำหนักตัวถัง,การปรับแต่งระบบกันสะเทือนในสไตล์รถแข่ง และการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีการทำงานที่ดีเยี่ยมตอบสนองในด้านสมรรถนะได้อย่างทันใจ โดยในรุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งทีมวิศวกรของฮอนด้ายังให้ความสนใจในด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสมรรถนะการทรงตัวและการยึดเกาะถนนขณะแล่นด้วยความเร็วสูง ทำให้ NSX-R ใหม่มีความเร้าใจในการขับขี่ การยึดเกาะ และการบังคับควบคุมที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม
สำหรับรายละเอียดที่ได้รับการพัฒนาใหม่จากรุ่นเดิม คือ
ฝากระโปรงหน้า พร้อมช่องระบายอากาศ, แผงพร้อมครีบใต้เครื่องยนต์ แผงรีดอากาศด้านหลัง, สปอยเลอร์หลัง ได้รับการผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากนั้น ยังมีนวัตกรรมแห่งความล้ำหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์อีกหลายอย่าง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มแรงกดของตัวถังขณะแล่นด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งสำหรับรถยนต์ทั่วไปที่อยู่บนท้องถนน โดยแรงกดที่เกิดขึ้นจะทำให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ดี ช่วยให้ผู้ขับสามารถบังคับควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำในขณะขับบนความเร็วสูง การตอบสนองในการขับขี่เฉกเช่นรถแข่ง โดยมีอัตราเร่งที่ทันใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบให้ชุดเพลาข้อเหวี่ยงมีความสมดุลในการทำงาน ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนกับเครื่องยนต์ในสายการผลิตที่วางในรถยนต์ที่ทำตลาด รวมทั้งเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ เปลี่ยนชุดควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อจากแบบที่ใช้สายคันเร่งมาเป็นแบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และส่งสัญญาณผ่านทางเคเบิลหรือที่เรียกว่า Drive-By-Wire นอกจากนั้น ยังมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของเครื่องยนต์อีกหลายจุด เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงให้สามารถรองรับต่อแรงกดที่เกิดขึ้นในขณะแล่นด้วยความเร็วสูง และยางถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนน แชสซีส์ปรับแต่งเป็นพิเศษมีความแม่นยำมากขึ้น โรเตอร์ของดิสก์เบรกรุ่นใหม่มาพร้อมกับผ้าเบรกชนิดพิเศษรองรับการใช้งานกับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ สิ่งซึ่งเหล่านี้ช่วยทำให้ NSX-R สามารถสร้างความพึงพอใจในการขับขี่ได้อย่างแท้จริงไม่ว่าจะอยู่บนถนน หรือในสนามแข่ง นอกจากการลดน้ำหนักของตัวถัง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการสืบทอดเจตนารมณ์มาจาก NSX-R รุ่นบุกเบิกแล้ว ชิ้นส่วนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ยังมีความทนทานต่อการใช้งาน เพราะได้รับการผลิตและขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีพิเศษชั้นสูง เพื่อให้ NSX-R รุ่นล่าสุดมีน้ำหนักเบาขึ้น ลักษณะเด่นของ NSX-R
การเพิ่มแรงกดเพื่อลดการยกของตัวถังขณะแล่นด้วยความเร็วสูง
ออกแบบให้ตัวถังด้านหน้าปราศจากแรงยกตัวเมื่อแล่นด้วยความเร็วสูง โดยค่าการยกตัว มีระดับต่ำกว่า0 ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบชิ้นส่วนให้มีความเพรียวลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตฝากระโปรงหน้า พร้อมช่องระบายอากาศ และแผ่นปิดใต้ห้องเครื่องยนต์ แผ่นรีดอากาศด้านท้ายและสปอยเลอร์หลังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบให้เพิ่มแรงกด และลดการยกตัวของตัวถังด้ายท้าย เพราะแรงลมที่ลอดผ่านใต้ท้องตัวถังเมื่อแล่นด้วยความเร็วสูง พื้นผิวของท่อดักอากาศด้านหน้าได้รับการปรับแต่งเพื่อให้สามารถควบคุมทิศทางการไหลของอากาศผ่านสู่ตัวถังได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ฮอนด้าพัฒนาเครื่องยนต์ วี6 VTEC DOHC ความจุ 3.2 ลิตร โดยใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่ง เพื่อเพิ่มกำลังและการตอบสนองที่ฉับไวในทุกรอบเครื่องยนต์
- ลูกสูบและก้านสูบในแต่ละกระบอกสูบได้รับการออกแบบให้มีสมดุลในการทำงานที่ดี
ส่งผลต่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- การถ่วงดุลเชิงพลวัตของเพลาข้อเหวี่ยง ชุดคลัตช์และชุดพลูเลย์ให้มีความแม่นยำสูง
- แบริ่งโลหะผ่านการวัดและปรับเทียบเพื่อให้มีระยะห่างแบริ่งที่เหมาะสม และลดการเสียด
สีของชิ้นส่วนขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ทำให้มีการทำงานอย่างเต็มกำลัง และมีการสึกหรอ
ของชิ้นส่วนน้อยลง เปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายต่ำกว่าเดิมช่วยเพิ่มสมรรถนะในการออกตัว ระบบควบคุมการเปิด-ปิดของลิ้นปีกผีเสื้อด้วยระบบ DBW ลดระยะยุบตัวของคันเร่งให้น้อยลงแต่เพิ่มความฉับไวในการตอบสนองการทำงานได้ดีขึ้น ใช้ชุดเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (LSD) มาพร้อมกับน้ำหนักที่ปรับตั้งไว้เป็นพิเศษ
การปรับปรุงระบบเกียร์และแชสซีส์
ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงให้มีความหนึบยิ่งขึ้น ตัวถังทนทานต่อการบิดตัว โดยเฉพาะการปรับตั้งค่าสมดุลป้องกันการโคลงในขณะเข้าโค้ง ส่งผลให้ NSX-R มีการทรงตัวและยึดเกาะถนนอย่างเหนือชั้น โดยเฉพาะการเข้าโค้งหักศ
- เพิ่มค่าความแข็งของสปริงแบบสปอร์ต
- โช้กอัพเปลี่ยนใหม่ให้มีความหนืดมากขึ้น
- ชุดบุชยางบนหูโช้ก คอนโทรลอาร์มด้านหลัง และจุดอื่นๆ บนชิ้นส่วนของระบบกันสะเทือน
ได้รับเปลี่ยนใหม่ให้มีความทนทานและแข็งแกร่งขึ้น
- เหล็กกันโคลงมีความแข็งแกร่งขึ้น
- ทาวเวอร์บาร์ หรือเหล็กค้ำหัวโช้กทั้งด้านหน้าและหลังแข็งแรงกว่า** ใช้ยางที่ได้รับการออกแบบพิเศษ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนน (บริดจสโตน โพเทนซา RE070ด้านหน้ามีขนาด 215/40R17 และด้านหลังมีขนาด 255/40R17) ล้ออะลูมิเนียมด้วยกรรมวิธีบีบอัดด้วยแรงดันสูง หรือ Forged มีน้ำหนักเบา (พ่นสีพิเศษ "แชมเปี้ยนไวท์") ซึ่งฮอนด้าพัฒนาร่วมกับบริษัท วาชิบีม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตล้อแม็ก BBS ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อนแบบครีบยาว พร้อมโรเตอร์และผ้าเบรกแบบพิเศษ สำหรับการใช้งานในรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ป้องกันการเกิดอาการเฟด หรือเบรกลื่น ฮอนด้า NSX-R มาพร้อมแม่ปั๊มเบรกชนิดพิเศษที่มีการทำงานอย่างฉับไว รวมถึงระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ที่ได้รับการปรับตั้งเป็นพิเศษ
การลดน้ำหนักรถ
ใช้ชิ้นส่วนที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยผ่านกระบวนผลิตที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง ส่งผลให้น้ำหนักรถเบาขึ้น
- ฝากระโปรงหน้า พร้อมช่องระบายอากาศ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า
CFRP (Carbon Fiber Reinforced Plastic) ในหม้อไอน้ำแรงดันสูง
- สปอยเลอร์หลังแบบชิ้นเดียวมีขนาดใหญ่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และข้างในสปอยเลอร์
เป็นแบบกลวง นับเป็นครั้งแรกของโลกอุตสาหกรรมรถยนต์ที่นำสปอยเลอร์ซึ่งผ่านการ
ผลิตในลักษณะนี้มาติดตั้งในรถยนต์ในสายการผลิต * นอกจากนั้น ยังติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3
ในตำแหน่งที่สูง สามารถมองเห็นได้ง่าย นอกจากนั้น ยังมีการลดน้ำหนักในด้านอื่นๆ อีก เช่น
- ล้อมีน้ำหนักเบาขึ้น,ลดขนาดของแบตเตอรี่**, คานยึดโช้กอัพมีน้ำหนักเบาขึ้น, เลิกใช้ยาง
อะไหล่ (แทนที่ด้วยชุดซ่อมยางแบบแอโรซอล), เลิกใช้ระบบล็อกประตูไฟฟ้า และระบบ
ปรับกระจกมองข้างด้วยไฟฟ้า, กระจกบังลมหลังมีขนาดบางกว่าเดิม, พรมปูพื้นชนิด
พิเศษมีน้ำหนักเบา, เลิกใช้สารเคลือบใต้ท้องรถและแผ่นเหล็กใต้ท้อง, เลิกใช้แผ่นฉนวน
กั้นด้านหลัง, เลิกใช้สวิตซ์เปิดกระโปรงหลัง ฯลฯ
หมายเหตุ : * จากการสำรวจของฮอนด้า
** ยกเว้นรุ่นที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เลือกติดตั้งพิเศษจากบริษัท เช่น ถุงลมนิรภัยคู่ SRS,
ระบบปรับอากาศ ระบบเสียงจาก Bose และชุดไฟหน้าแบบ HID
รูปลักษณ์ภายในและภายนอก
ภายในห้องโดยสารของ NSX-R ได้รับการออกแบบและตกแต่งในทุกรายละเอียดโดยสะท้อนถึงภาพลักษณ์แห่งความปราดเปรียวของรถสปอร์ตชั้นเยี่ยม อีกทั้งทุกอุปกรณ์ยังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้ง่าย
- หัวเกียร์ผลิตจากไทเทเนียม เป็นลักษณ์ทรงกลม และบู๊ตเกียร์มีน้ำหนักเบาสั่งทำพิเศษ
- พวงมาลัยของ Momo หุ้มหนัง (ในรุ่นที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย Momo รับหน้าที่ในการหุ้มหนัง
เพียงอย่างเดียว )
- เบาะนั่งทรงบักเก็ตซีตแบบอารามิด โครงเบาะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ หุ้มด้วยหนังผลิต
โดย Recaro
- ติดตั้งไฟเตือนแบบ LED ซึ่งจะสว่างขึ้นเพื่อเตือนให้ผู้ขับเปลี่ยนเกียร์ในตำแหน่งที่สูงขึ้น
หากมีการลากเกียร์จนถึงรอบเครื่องยนต์สูงสุดที่ถูกจำกัดไว้
- แผงคอนโซลกลางและแผงข้างสั่งทำพิเศษตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม แผงข้างและแผ่นบน
ฐานคันเกียร์ตกแต่งผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์
- แผงหน้าปัดและขอบคิ้วผลิตจากยางชนิดพิเศษ ลดแสงสะท้อนบนกระจกบังลมหน้า
- พื้นมาตรวัดบนแผงหน้าปัด เช่น รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว และระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
ตกแต่งด้วยสีดำของลายคาร์บอน ตัดกับสีของเข็มมาตรวัดที่เป็นสีเหลืองอย่างลงตัว
- นอกจาก 8 สีตัวถังมาตรฐาน NSX-R ยังมีสีพิเศษ "แชมเปี้ยนชิพ ไวท์" ให้เลือก พื้นตัวถังในชุดโคมไฟพ่นสีพิเศษ (แชมเปี้ยนชิพ ไวท์) โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ "H" บนพื้นสีแดง ซึ่งบ่งบอกความเป็นไทพ์ อาร์ ขนานแท้ ฝาปิดของชุดดูแลเครื่องยนต์มีรูปทรงเป็นลายตาข่ายและผลิตจากอะลูมิเนียม ส่วนฝาวาล์วพ่นสีแดงสั่งทำพิเศษ--จบ--
-สส-