กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาวรายใหญ่ของประเทศ ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้น IPO 200 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในสิ้นปีนี้ ผู้บริหารมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับมาตรฐานในระดับโลก มีความคล่องตัวสูง อีกทั้งหลังรัฐบาลใหม่กระตุ้นการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลดีต่อธุรกิจเหล็กโดยตรง ประกอบกับราคาเหล็กพลิกสู่วงจรขาขึ้น พร้อมโชว์รายได้ 6 เดือนแรกปี 54 โตแบบก้าวกระโดดกว่า 2,790 ล้านบาท ขณะที่รายได้ทั้งปี 53 อยู่ที่ 3,893 ล้านบาท
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาวรายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยว่า วันนี้ (5 กันยายน 2554) บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาวสำหรับนำไปแปรรูปเป็นเหล็กเพื่อการก่อสร้างได้หลายชนิด เช่น เหล็กเส้นกลม (Round Bar) และเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) ซึ่งจะนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างหลักในอุตสาหกรรมการก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ สะพาน เขื่อน ทางยกระดับ และอาคารสูง เป็นต้น โดยบริษัทฯ มีกำลังการผลิตสูงสุด 730,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีนโยบายให้ดำเนินการผลิตในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ (Off-Peak Period) ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตของบริษัทฯ ต่ำกว่าการดำเนินการผลิตในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (Peak Period) ทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเต็มที่รวมเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ เท่ากับ 450,000 ตันต่อปี
นายอนาวิลกล่าวด้วยว่า เหล็กแท่งยาวของบริษัทฯ สามารถนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลายลักษณะจึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม จึงเป็นธุรกิจที่มีความคล่องตัวสูง โดยบริษัทฯ มีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดยการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ และได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2000 จาก Bureau Veritas Certification ตั้งแต่ปี 2551 และปัจจุบัน เป็น ISO 9001:2008
“บริษัทฯ เป็นเพียงหนึ่งในสองบริษัทที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาวในประเทศไทยที่เป็นสมาชิกของ LME ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายเหล็กล่วงหน้าระดับโลก จึงถือได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีมาตรฐานที่ยอมรับได้ในระดับโลก ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ภาพพจน์ และเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ” นายอนาวิลกล่าว
สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มทุนโดยนำหุ้นในส่วนที่ยังไม่ได้เรียกชำระจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทออกเสนอขาย โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800 ล้านหุ้น และมีทุนเรียกชำระแล้ว 600 ล้านหุ้น ซึ่งการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการ
“เรามั่นใจว่า การนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในช่วงระยะเวลานี้เป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากสภาพตลาดคึกคักขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐ หลังจากที่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเชื่อว่า จะเกิดการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น รวมถึง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบกับอุตสาหกรรมเหล็กก็นับได้ว่าถึงรอบของการฟื้นตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อราคาเหล็กโดยตรง รวมถึงส่งผลดีต่อบริษัทฯ ด้วย” นายอนาวิลกล่าว
ด้านนางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า ธุรกิจของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้เหล็กในโครงการก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ซึ่งสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2553 ทั้งปีอยู่ที่ 3,893 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,790 ล้านบาท
“รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายด้านการตลาดที่ดีขึ้น และราคาตลาดของผลิตภัณฑ์เหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมาก ประกอบกับสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ทำให้มั่นใจว่า หุ้นเพิ่มทุนของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี” นางสาวปิ่นมณีกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนาม บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้)
อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) โทร. 086-884-4458, 02-248-7967-8 ต่อ 117
email : orn_tabo@hotmail.com, c_mastermind@hotmail.com