กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ (KTAM World Property Fund (KT-PROPERTY) ระหว่างวันที่ 12 -21 กันยายน 2554 โดยกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก Henderson Global Property Equities Fund บริหารโดย Henderson Global Investors บริษัทจัดการลงทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึง 556,396 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2553) โดยกองทุนรวมหลักมีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นของบริษัท หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (หรือเทียบเท่า) ที่จดทะเบียน หรือมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการกำกับดูแล โดยมีรายได้หลักจากการเป็นเจ้าของ บริหารจัดการ และ/หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยทีมงานบริหารที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ คือเป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITs ซึ่งมีลักษณะคล้ายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากรายได้ค่าเช่า และมูลค่าของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในทำเลชั้นนำทั่วโลกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะแก่การกระจายความเสี่ยงเพิ่มเติมจากการลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้แต่เพียงอย่างเดียว กองทุน KT-PROPERTY ถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างสะดวก คล่องตัว โดยใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า
นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินบาท รวมถึงมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้งอีกด้วย
การเสนอขายกองทุนนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาของกองทุนรวมรายอุตสาหกรรมที่มีบริษัทบริหารจัดการกองทุนชั้นนำและโดดเด่นของโลกเป็นผู้บริหาร เช่น กองทุนหุ้นพลังงาน กองทุนหุ้นเกษตร และกองทุนหุ้นเหมืองโลหะ เป็นต้น
ด้านนายปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ในฐานะตัวแทนสนับสนุนการขายกล่าวเสริมว่า ตลาดหุ้นโลกได้ปรับตัวลงประมาณร้อยละ 20 จากระดับสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากความ กังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนและกำไรต่อหุ้นของหุ้นโลกที่ลดลงในปีหน้า ใน อดีตที่ผ่านมา หลังจากที่ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงร้อยละ 20 ทิศทางของตลาดหุ้นเกิดได้ 2 รูปแบบ ทางแรกคือ ตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยหุ้นจะปรับตัวลงต่อโดยเฉลี่ยอีกร้อยละ 20 หรือทางที่สองคือตลาดกลับมาปรับ ตัวขึ้น โดยหุ้นจะปรับตัวขึ้นประมาณร้อยละ 20 ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
นักวิเคราะห์ซิตี้เชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะกลับมาปรับตัวขึ้น ถึงแม้ว่าความเสี่ยงด้านกำไรของบริษัททั่วโลก เพิ่มสูงขึ้น เรายังคงเชื่อว่าโอกาสที่ผลกำไรจะทรุดลงมากยังน้อยอยู่ การที่ตลาดจะปรับตัวลงต่อเนื่องนั้น ส่วนมากจะเกิดเมื่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนซบเซา โดยกำไรต่อหุ้นตกลงมากกว่าร้อยละ 10 ส่วนตัวเลข เศรษฐกิจโลกที่จะปรับลงนั้นสะท้อนถึงการเติบโตที่ลดลง ไม่ใช่เศรษฐกิจตกต่ำ เราเห็นว่าการที่เศรษฐกิจเติบโต ลดลงนั้น ไม่ได้ทำให้ผลกำไรหมดไป หุ้นโลกมีระดับราคาที่น่าสนใจจากข่าวร้ายต่างๆ ที่ได้สะท้อนไปแล้ว และเราเชื่อว่าหุ้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
การลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการมีส่วนร่วมกับการเติบโตในระยะยาว เพิ่มไปจากการลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม อย่างไรก็ดี การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนจะต้องมีวินัยในการสร้างพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และปรับให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Averaging) ก็อาจเป็นอีกวิธีในการลงทุน นายปวิณ กล่าว