กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของ อาวียองซ์ แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม ภายใต้การบริหารงานโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ที่เดินทางครบรอบ 11 ปี พร้อมด้วยการก้าวสู่ธุรกิจไร้พรมแดน กับการบุกตลาดต่างประเทศขยายสู่ประเทศมาเลเซีย ได้จัดงานฉลองแฮปปี้เบิร์ดเดย์อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี มร.เบาเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในงาน ณ เดอะ มอลล์ บางกะปิ โดยมีผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ตั้งแต่ระดับผู้นำกระทั่งเพิ่งเริ่มต้นบนสายธุรกิจเครือข่ายนี้ พร้อมด้วยผู้ร่วมธุรกิจทั้งจากประเทศกัมพูชา และมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้นับพันคน พร้อมด้วยการมอบโล่ประกาศเกียรติยศให้แก่ผู้บริหารสโมสร 30 ล้าน คือ ชินวัตร กิจส่งแสง — จันทรัตน์ ศรีกิจตยนนท์ และ อภิวัชร์ วิบูลย์วัฒนกุล ที่นั่งรถโรลส์รอยซ์คันหรูขึ้นรับรางวัล นอกจากนี้ยังมอบโล่ประกาศเกียรติยศให้แก่ผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน ผู้บริหารสโมสร 5 ล้าน และผู้บริหารสโมสร 1 ล้าน รวมกว่า 40 รหัส ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความปิติยินดี พร้อมด้วยการจับรางวัลมอบโชคใหญ่ให้แก่ผู้มาร่วมงาน เป็นทองคำแท่งหนัก 4 บาท มูลค่า 100,600 บาท 1 รางวัล
เริ่มต้นเปิดงานด้วยการแสดงชุด Grow Thailand Go Malaysia ที่เติบโตในประเทศไทย แลกก้าวสู่มาเลเซีย ต่อด้วยการเปิดงานพร้อมเผยวิสัยทัศน์ด้านการบริหารงานภายใต้ยูนิลีเวอร์ โดย มร.เบาเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย เผยว่า “หลายคนอาจมีวันเกิดที่ต่างกัน แต่เมื่อใดที่พูดถึงอาวียองซ์ เรามีวันเกิดวันเดียวกัน และในตอนนี้อาวียองซ์ครบรอบ 11 ปี แต่ยูนิลีเวอร์กำลังจะครบรอบ 80 ปีในประเทศไทย โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วยูนิลีเวอร์ทั่วโลกได้มีวิสัยทัศน์ว่า เราจะเติบโตและจะขยายธุรกิจเพิ่มเป็น 2 เท่า ในขณะเดียวกันจะลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมลงครึ่งหนึ่งในระหว่างที่เราเติบโต จากวิสัยทัศน์นี้เมืองไทยก็มีการเติบโตซึ่งเป็นไปตามแผน และหนึ่งในความสำเร็จนี้พิสูจน์ได้จากการที่ยูนิลีเวอร์ได้รับรางวัลเป็นบริษัทนายจ้างดีเด่นประจำปีนี้ ในขณะที่วิสัยทัศน์ของอาวียองซ์เองก็เรียบง่าย คือ 10 ปีข้างหน้าจากนี้ไป อยากเห็นผู้ร่วมธุรกิจทุกคนได้เป็นผู้บริหารสโมสรเงินล้าน โดยตอนนี้ได้มีการลงทุน 100 ล้านบาทในการทำซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้ร่วมธุรกิจได้ขยายธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้านี้ ต่อมาด้านนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่จะคิดค้นให้ดีขึ้น ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น ในขณะที่แผนปันผลตอบแทนใหม่ที่ได้เริ่มใช้แล้วเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีความทันสมัยและมีรายได้ที่ยั่งยืน สุดท้ายในเร็ววันนี้เรากำลังจะสร้างออฟฟิตแห่งใหม่ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจะเป็นสำนักงานใหญ่ของอาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลอีกด้วย และสำหรับผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ รวมถึงระดับผู้นำในธุรกิจ สิ่งที่จะร่วมเติบโตไปกับอาวียองซ์ คือการแนะนำอย่างต่อเนื่อง เชิญผู้มุ่งหวังใหม่ๆ มาร่วมธรุกิจ แนะนำสินค้า และอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อเพื่อสร้างแครือข่าย และเราจะสร้างการเติบโตให้ประเทศไทย สร้างผู้บริหารสโมสรเงินล้านให้ได้ 1 หมื่นคน แล้วเราก็ไปเติบโตในประเทศมาเลเซีย”
ในขณะที่แม่ทัพใหญ่ สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมถึงวิสัยทัศน์การบริหารอาวียองซ์เพิ่มเติมว่า “การที่เราได้มาร่วมทำธุรกิจอาวียองซ์ ส่วนหนึ่งอาวียองซ์มีความมุ่งหวังที่อยากให้ทุกคนได้มีธุรกิจที่มั่นคงแข็งแรง และอาวียองซ์พยายามย้ำเสมอว่า ธุรกิจของเราสามารถส่งต่อให้ลูกหลานของท่านได้ ดังนั้นอนาคตของอาวียองซ์จะเป็นอย่างไร อยู่ในมือของทุกคนในวันนี้ ฉะนั้นถ้าอยากประสพความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย เรามองเห็นอะไรในธุรกิจนี้ มองเห็น “อากาศ” หรือ “โอกาส” หากมองเห็นเป็นแค่อากาศ เราก็จะไม่ประสพความสำเร็จ แต่หากเราอยากประสพความสำเร็จ เราต้องมองให้เห็นว่าเป็นโอกาส และต้องมองให้ทะลุด้วยว่าในโอกาสนั้นมีอะไร เพราะโอกาสของอาวียองซ์จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและสานฝันของเราได้ จากนั้นตั้งมั่นกับ พันธสัญญาคือความมุ่งมั่นของตัวเรา แล้วทุกคนก็จะประสพความสำเร็จในธุรกิจอาวียองซ์”
โดยไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ ที่ระหว่างคุณสุชาดาถามคำถามกลับมายังผู้ร่วมงาน ว่าท่านมองเห็นธุรกิจนี้เป็น “อากาศ” หรือ “โอกาส” พร้อมกับบอกให้ทุกคนแหงนหน้ามองขึ้นไปบนเพดานฮอลล์ จะพบกับลูกบอลขนาดใหญ่หลายลูก จากนั้นลูกบอลก็แตกพร้อมกับการโปรยปรายของธนบัตรต่างๆ ตั้งแต่หลักพันไปยังสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย ทำเอาผู้มาร่วมงานแตกตื่นวิ่งเก็บกันจ้าละหวั่น จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีการสำคัญคือการประกาศพร้อมมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้บริหารสโมสร 30 ล้าน คือ ชินวัตร กิจส่งแสง — จันทรัตน์ ศรีกิจตยนนท์ และ อภิวัชร์ วิบูลย์วัฒนกุล ที่นั่งรถโรลส์รอยซ์คันหรูขึ้นรับรางวัล โดยชินวัตร กิจส่งแสง — จันทรัตน์ ศรีกิจตยนนท์ ผู้บริหารสโมสร 30 ล้านคนล่าสุด เผยว่า “จากแรงกดดันของคนรอบข้าง พร้อมด้วยเสียงบ่นจากพ่อแม่ที่ไม่สนับสนุน โดยตั้งเป้าหมายว่าถ้าทำธุรกิจอาวียองซ์ไปแล้ว 1 ปี รายได้ไม่แตะ 6 หลักจะเลิกทำทันที ถึงแม้ว่ารายได้ในเดือนแรกนั้นจะได้เพียง 306 บาท แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าธุรกิจอาวียองซ์จะสามารถสร้างรากฐานชีวิตครอบครัวได้ในอนาคต ด้วยความมั่นใจในวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหาร ผนวกกับสินค้าที่เทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ จึงทำให้การลุยตลาดไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งทุกวันนี้สิ่งที่ยังคงปฏิบัติกันอยู่ คือการชักชวนผู้มุ่งหวังใหม่ให้เข้ามาร่วมทำธุรกิจ พร้อมกับการถ่ายทอดความสำเร็จให้ดาวน์ไลน์ ออกช่วยเหลือทีมงานขยายเครือข่ายให้มากขึ้น เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในทีมด้วย ซึ่งเวลานี้เป้าหมายที่ได้วางไว้คือการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อม เมื่อบริษัทกำหนดพิกัดให้มุ่งตรงออกสู่ตลาดต่างประเทศ เมื่อนั้นเราพร้อมที่บุกขยายเครือข่ายธุรกิจ ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่เติบโตเคียงคู่กันมา”
ทางด้าน อภิวัชร์ วิบูลย์วัฒนกุล ผู้บริหารสโมสร 30 ล้านอีกหนึ่งคนที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้เผยว่า “จากพนักงานธนาคารกินเงินเดือนประจำ สู่การเป็นนายจ้างเปิดสำนักงานตรวจสอบบัญชี โดยใน 1 ปีจะมีเวลายุ่งเพียง 3 เดือน ส่วน 9 เดือนที่เหลือนั้นคือเวลาว่าง กระทั่งกระโดดก้าวเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายแต่ไม่ประสพความสำเร็จ แต่ก็ไม่เข็ดหราบ เพราะตลอดเวลาเชื่อมั่นว่าธุรกิจเครือข่ายนั้น สามารถตอบโจทย์ทั้งในเรื่องรายได้และเวลา กระทั่งได้มาสัมผัสกับธุรกิจ อาวียองซ์และศึกษาอย่างจริงจัง ประกอบกับการใส่จิตวิญญาณแห่งความเป็นเจ้าของธุรกิจ ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวเพื่อจะได้สามารถแนะนำให้ผู้มุ่งหวังที่ชวนมาได้ทดลองใช้ด้วยความมั่นใจ จากรายได้หลักพัน ก็เข้าสู่หลักหมื่น จนทะยานขึ้นสู่หลักแสนในเวลาไม่กี่ปี และยิ่งตอนนี้เงินลงทุนเพียงแค่ 600 บาท แต่ยังสามารถทำธุรกิจได้ทั่วโลก มันเกินความคุ้มเสียอีก โอกาสที่คนไทยจะได้เป็นอัพไลน์คนทั่วโลก ซึ่งจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป”
พร้อมด้วยการประกาศและมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน ที่นั่งรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีมูซีนคันงาม ผู้บริหารสโมสร 5 ล้าน และผู้บริหารสโมสร 1 ล้าน ปิดท้ายงานด้วยการจับรางวัลมอบโชคใหญ่ให้แก่ผู้มาร่วมงาน เป็นทองคำแท่งหนัก 4 บาท มูลค่า 100,600 บาท 1 รางวัล ร่วมด้วยรางวัลอื่นๆ อีกเพียบ สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุขกันอย่างถ้วนหน้า