กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร ธนาคารออมสิน
โดย ยศพิชา คชาชีวะ
ผ้าไหมของไทยมีชื่อเสียงขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลก ความเงาแววระยับของผ้าไหมเอาไปตัดสูท ตัดเสื้อทรงไหนก็สวย ยามที่ผ้าไหมสีเหลือบ อย่างสีเขียวปีกแมลงทับต้องแสงอาทิตย์ มันจะเปลี่ยนสีได้เหมือนกับเล่นกล ซึ่งไม่มีผ้าชนิดไหนทำได้อย่างนี้อีกแล้ว
เมืองไทยโชคดีที่ภูมิปัญญาในการทำผ้าไหมตกทอดมาจากปู่ย่าถึงลูกถึงหลานไม่สูญหายแถวยังพัฒนาผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ผ้าไหมสวยขึ้นมีความคงทนมากขึ้น
ใครที่ไม่เคยเห็นขบวนการทอเส้นไหม ไปเห็นแล้วจะทึ่ง จากรังไหมสีเหลืองเล็ก ๆ นำไปต้ม แล้วใช้ไม้สาวขึ้นมากลายเป็นเส้นไหมยาวต่อเนื่องกันได้ คิดดูด้วยปัญญาเรา ๆ รังไหมคนละรังเป็นเส้นยาวติดกันได้ไง
ย้อนไปดูจุดเริ่มต้นไม่มีตรงไหนง่าย ๆ แต่มีประโยชน์ ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกต้นหม่อน ให้ใบหม่อนเป็นอาหารของตัวหนอนไหม เดี๋ยวนี้ได้ผลพลอยได้เก็บใบหม่อนมาตากแห้งทำเป็นชาเขียวใบหม่อนลดความดัน กันมะเร็งไปโน่น ลูกของต้นหม่อนก็กินได้นะครับ เป็นพวกเบอรี่ ฝรั่งเรียก Mulberry ลูกสีม่วง ๆ กินสดหวานอร่อย เอามาทำแยมก็ดี เมืองไทยยังไม่ค่อยนิยม
ตัวดักแด้ไหมเขายังนำมาทอดโรยเกลือกินอร่อย แบบกินแมลง ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีใครรังเกียจแล้ว เป็นอาหารโปรตีนราคาถูกชั้นยอด ส่วนรังไหมเป็นของมีค่าที่สุด เส้นไหมจากรังไหมเขายังต้องนำไปย้อมให้ได้สีที่ต้องการ ถึงจะนำมาทอ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีโรงงานทอดผ้าทันสมัยแล้ว แต่การทอผ้าไหมความขลังยังอยู่ที่การทอแบบวิธีดั้งเดิม พุ่งกระสวยทีละเส้น ตบเส้นไหมให้แน่น สร้างลวดลายจากความชำนาญและประสบการณ์ของคนทอ เพราะอย่างนี้ผ้าไหมถึงแพงสมกับคุณค่าของตัวมันเอง
มาถึงตรงนี้ถ้าเกิดความอยากไปดูเขาทอผ้าไหม หรือจะไปซื้อผ้าไหมถึงแหล่งบ้าง ต้องเชียร์ให้ไปชัยภูมิ เพราะเป็นแหล่งผ้าไหมขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของไทย แถมอาทิตย์นี้ยังมีวันหยุดหลายวัน ขับรถไปดูดอกกระเจียวบานที่ป่าหินงาม แล้วเลยไปดูผ้าไหมด้วยก็คุ้มอย่าบอกใคร
กลุ่มที่ผมจะพาไปดู เป็นกลุ่มทอผ้าไหมคุ้มบ้านใหม่ อยู่ที่ หมู่ 1 อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ และแน่นอนครับกลุ่มนี้เป็นสมาชิกของโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบทของธนาคารออมสิน (สพช.) เป็นกลุ่มดีเด่นมีผลงาน มีความสามัคคี ทอผ้าไหม ทำงาน ออมเงินกันอย่างขยันขันแข็ง
ตัวประธานกลุ่มเป็นสาวหน้าแฉล้มเหมือนในรูปอัธยาศัยไมตรียิ้มแย้มดีมาก ใครเจอก็ติดใจ ชื่อคุณสมพาน สิงห์หมื่นชัยภูมิ เธอมีร้านขายผ้าไหมอยู่ในตัวอำเภอเขว้าด้วย จึงเป็นช่องทางการจำหน่ายผ้าไหมของกลุ่มทางหนึ่ง
หนทางไปเยี่ยมรานขงคุณสมพานไม่ยาก จากตัวเมืองชัยภูมิออกมา 13 กิโล จะเห็นโรงพยาบาลอำเภอบ้านเขว้าอยู่ซ้ายมือ เข้าไปอีก 1 กิโลจะถึงตัวอำเภอบ้านเขว้า แถบนั้นจะมีร้ายขายผ้าไหมอยู่หลายร้าน แต่ร้านของคุณสมพานชื่อ สมพานไหมไทย สถานที่โอ่โถงพอสมควร รวมโรงทอผ้าอยู่ด้วย ไปดูกันได้ ใครไปไม่ถูก เอาเบอร์คุณสมพานไปได้ 044-839296 ครับ ที่ร้านยังเป็นที่ทำการของกลุ่มด้วย บรรดาสมาชิกจะอยู่รายล้อมกันแถวนั้น
กลุ่มของเธอก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2537 แรกเริ่มมีกันอยู่ 25 คน ปัจจุบันร่วมร้อย ก่อนหน้านั้นแต่ละบ้านก็ทอผ้าไหมกันอยู่แล้ว แต่กระจัดกระจาย เมื่อรวมกลุ่มกันเข้า ทุกคนจึงแข็งแรงขึ้น ยิ่งมาได้เข้าเป็นสมาชิก สพช. ที่ธนาคารออมสินสาขาชัยภูมิด้วยแล้ว การจัดการต่าง ๆ ก็เป็นรูปแบบชัดเจน เช่น สมาชิกทุกคนมีการออมเงินสัจจะอย่างสม่ำเสมอ ใครจะกู้ก็มาขอกู้ระยะสั้นได้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าเงินกู้นอกระบบมาก การกู้ต้องมีการทำสัญญา มีคนค้ำประกันซึ่งเป็นสมาชิกด้วยกันนั่นเอง ทุกคนต่างพึ่งพากัน อาศัยกัน จึงไม่มีใครผิดนัดชำระเงินกู้ให้เห็นเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การจัดทำบัญชีก็ง่าย ๆ แต่โปร่งใส แบ่งสันปันส่วนกำไรจากการทอผ้าอย่างยุติธรรม สมาชิกทุกคนเลยแฮปปี้เป็นอย่างดี
ผ้าไหมที่สมาชิกทอได้จะมาฝากคุณสมพานนำไปจำหน่ายที่ร้านในตัวอำเภอ บางทีทาง สพช. จะแนะนำให้ไปจำหน่ายตามงาน เช่น งานที่ออมสินสำนักงานใหญ่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ผ้าไหมของกลุ่มนี้จึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเพราะมีการตลาดที่ดี ผลกำไรเมื่อได้มาจะนำเข้าบัญชีกลุ่มก่อน ค่อยจัดสรรให้กับสมาชิกต่อไป สิ้นปีมีเงินปันผลด้วย
ถึงตอนนี้กลุ่มมีเงินออมสัจจะอยู่เกือบหนึ่งแสนบาท กู้เงิน สพช. เมื่อแรกเข้า 5 ปีก่อน มา 5 แสนบาท นำมาลงทุนซื้อเส้นไหม อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สมาชิก ก็ใกล้จะใช้หนี้หมดแล้ว
คุณสมพานบอกเราว่าที่กลุ่มประสบความสำเร็จอย่างนี้ ก็เพราะทุกคนร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้เกิดความรักสามัคคี เสียสละ อดทน คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เมื่อถึงเวลาทำงานก็ทำงาน มีประชุมมาร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันทุกเดือน กลุ่มยังมีโอกาสไปดูงานตามที่ต่าง ๆ เปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น และนำส่งที่เป็นประโยชน์กลับมาใช้ในกลุ่มต่อไป
อาทิตย์นี้ถ้าจะไปดูดอกกระเจียวที่ป่าหินงามอย่าลืมแวะไปดูผ้าไหมงาม ๆ ของคุณสมพานด้วยแล้วกันนะครับ--จบ--
-ศน-