กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ประเภท Action / Adventure (3D)
กำหนดฉาย 29 กันยายน 2011
จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง เจเรมี่ โบลท์ (Resident Evil ทั้งสี่ภาค, Event Horizon, Pandorum)
กำกับ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน (Resident Evil: Afterlife, Resident Evil, Death Race)
เขียนบท แอนดรูว เดวี่ย์ (The Tailor of Panama, Bridget Jones's Diary)
นำแสดง โลแกน เลอร์แมน (Percy Jackson, Gamer, 3:10 to Yuma)
ออแลนโด้ บลูม (Pirates of the Caribbean และ The Lord of the Rings ทั้งสามภาค)
มิล่า โจโววิช (Resident Evil ทั้งสี่ภาค, The Fifth Element, The Fourth Kind)
คริสตอฟ วอลซ์ (Inglourious Basterds, The Green Hornet)
หนึ่งดาบพิทักษ์บัลลังก์ ปฏิวัติความมันส์แห่งสามทหารเสือ
ครั้งแรกของการผจญภัยผนึกคมดาบทะลุจอ
ผลงานจากผู้กำกับ Resident Evil
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวเริ่มต้นในเมืองเวนิส เมื่อสามทหารเสือผู้ยิ่งใหญ่ ประกอบไปด้วย อาโตร์ (แมทธิว แม็กเฟเดียน), ปอร์โต (เรย์ สตีเวนสัน) และ อารามิส (ลุค อีแวน) บุกเข้าไปในพระราชวังเพื่อชิงสมบัติล้ำค่าที่สุดของยุโรป นั้นคือพิมพ์เขียวของ "ยานเหาะ" ที่ออกแบบโดย ลีโอนาโด ดา วินชี แต่แล้ว มิลาดี เดอ วินเทอร์ (มิล่า โจโววิช) คนรักของ อาโตร์ ก็ได้หักหลังและนำสมบัติไปให้ ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม (ออแลนโด้ บลูม) ทำให้ภารกิจที่สามทหารเสือได้รับมอบหมายมาต้องพบกับความล้มเหลว
อีกหนึ่งปีต่อมา ดาตาญัง (โลแกน เลอร์แมน) เด็กหนุ่มผู้มุ่งมั่นและเปี่ยมไปด้วยแรงใจ ก็ได้ออกเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อทำตามความฝันในการเป็นทหารเสือ และเป็นนักรบผู้ปกป้องบัลลังก์กษัตริย์ที่เก่งที่สุดในโลก
การผจญภัยนำพาเขามาสู่มหานครปารีส และโชคชะตาก็ทำให้เขาพบกับสามทหารเสือชื่อก้อง แต่แล้วภาพที่ ดาตาญัง วาดเอาไว้กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อสามทหารเสือกลับหมดไฟในการต่อสู้ หลังได้รับความอับอายจากภารกิจที่ล้มเหลว ประกอบกับ คิงหลุยส์ กษัตริยืวัยเยาว์ของฝรั่งเศส ก็ถูกควบคุมโดย คาร์ดินัล รีเชอริเยอ (คริสตอฟ วอลซ์) ที่จ้องรอโอกาสในการกำจัดกลุ่มทหารเสือ
แผนการล้มบัลลังก์ของ รีเชอลีเยอ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ด้วยความช่วยเหลือของ มิลาดี และ บัคกิ้งแฮม เขาวางแผนที่จะทำลายกษัตริย์หนุ่มด้วยการยุยง และโน้มน้าวให้ฝรั่งเศสทำสงครามกับอังกฤษ ซึ่งจะสร้างโอกาสในการยึดครองบัลลังก์ที่สั่นคลอน และตั้งตัวเป็นผู้ปกครองฝรั่งเศสในยามคับขัน
แผนการได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มิลาดี ขโมยสร้อยเพชรเส้นโปรดของ ควีนแอนน์ (จูโน่ เทมเปิ้ล) แห่งฝรั่งเศส แล้วนำไปไว้ในหอคอยแห่งลอนดอน ซึ่งเป็นบ้านของ บัคกิ้งแฮม ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นดยุคเจ้าชู้ (และยังไม่รวมถึงการที่เขาเป็นเจ้าของยานเหาะลำแรกของโลก) จากนั้นก็ให้ปลอมจดหมายรักขึ้นมา โดยเนื้อหาคือคำขอบคุณสำหรับสร้อยเพชรของ บัคกิ้งแฮม ที่ส่งไปถึง ควีนแอนน์ และวางให้ คิงหลุยส์ พบกับจดหมายโดยบังเอิญ
ควีนแอนน์ พบว่านี่คือหลักฐานชิ้นสำคัญของการทรยศ ที่เธอสงสัยในตัวของ รีเชอลีเยอ มานาน ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เธอต้องนำสร้อยเพชรกลับมาอย่างรวดเร็วและไม่ให้ใครรู้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่และบัลลังก์ของฝรั่งเศสจะต้องถูกทำลาย อย่างไรก็ตามเธอก็มีแผนการ...
ควีนแอนน์ ได้ส่งนางสนมคนสนิท คอนสแตนซ์ (กาเบรียลล่า ไวล์ด) ไปหา ดาตาญัง เพื่อเล่าแผนการชั่วร้ายของ รีเชอรีเยอ และขอให้เขาช่วยโน้มน้าวใจสามทหารเสือ ให้กลับมาทำภารกิจเพื่อชาติอีกครั้ง ซึ่งในที่สุดแรงใจและความกระตือรือล้นของ ดาตาญัง ก็ได้ปลุกชีวิตของสามทหารเสือขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งหมดเดินทางไปอังกฤษเพื่อที่จะล่าตัว บัคกิ้งแฮม และนำสร้อยเพชรของ ควีนแอนน์ กลับมาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
เมื่อประเทศถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทหารเสือทั้ง 4 ต้องใช้ความสามารถทั้งหมด ในการก้าวตามให้ทันแผนการอันชั่วร้ายของ ริเชอริเยอ การผจญภัยของ ดาตาญัง ที่มีจุดเริ่มต้นจากหมู่บ้านเล็กๆ เดินทางมาสู่อภิมหาสงครามเรือเหาะ และการต่อสู้บนหลังคาของมหาวิหารนอทร์-ดาม ทั้งหมดเพื่อกอบกู้ประเทศฝรั่งเศสและศักดิ์ศรีของทหารเสือ... หนึ่งเพื่อหมู่ หมู่เพื่อเอกภาพ จะถูกประกาศก้องขึ้นมาอีกครั้ง!
The Three Musketeers นำแสดงโดยทีมนักแสดงแถวหน้าของฮอลลิวู้ด ประกอบไปด้วย มิล่า โจโววิช (Resident Evil 1-4) ในบท มิลาดี สาวสวยสุดอันตราย, ออแลนโด้ บลูม (Pirates of the Caribbean, The Lord of the Rings) ในบท ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม ผู้หยิ่งผยอง, คริสตอฟ วอลซ์ นักแสดงออสการ์จาก Inglourious Basterds ในบท คาร์ดินัล ผู้ชั่วร้าย
นอกจานั้นก็ยังมีนักแสดงที่รับบทเป็นทหารเสือผู้ทรงเกียรติ นำโดย โลแกน เลอร์แมน (Percy Jackson & The Olympians: The Lightning Thief) ที่รับบทเป็น ดาตาญัง หนุ่มน้อยผู้เปี่ยมไปด้วยแรงใจ, แมทธิว แม็กเฟเดียน (Pride & Prejudice, Robin Hood), ลุค อีแวน (Immortals, Clash of the Titans) และ เรย์ สตีเวนสัน (The Book of Eli, Thor) ในบทบาทสามทหารเสือผู้ยิ่งใหญ่
The Three Musketeers สร้างจากอมตะนวนิยายคลาสสิกของ อเล็กซองเดร์ ดูมาส์ ผลงานการกำกับของ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน (Resident Evil 1-4) เขียนบทโดย แอนดรูว เดวี่ย์ (The Tailor of Panama, Bridget Jones's Diary) โดยยังมีทีมงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ออกแบบงานสร้าง พอล ออสเตอร์เบอร์รี่ (The Twilight Saga: Eclipse), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ปิแอร์-อีฟ เกรอน (Perfume: The Story of a Murderer) และผู้กำกับภาพ เกลน แม็คเฟอร์สัน (Resident Evil: Afterlife)
ปลุกตำนานทหารเสือ + ดาตาญัง และสามทหารเสือ
โรเบิร์ต คัลเซอร์ และ เจเรมี่ โบลท์ สองผู้อำนวยการสร้าง กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน อีกครั้งใน The Three Musketeers แต่มันแตกต่างจากผลงานก่อนหน้าอย่างแฟรนไชส์ Resident Evil เพราะครั้งนี้พวกเขาต้องย้อนยุคไปเล่าตำนานแห่งการผจญภัยในยุควิคตอเรียน
ผู้อำนวยการสร้าง โรเบิร์ต คัลเซอร์ พูดถึงจุดเริ่มต้นในการสร้างว่า "ผมกับ พอล ร่วมงานกันมานานกว่า 10 ปี ปกติหนังแล้วของเราจะเกี่ยวกับ ซอมบี้ อสุรกาย และยานอวกาศ แต่ครั้งนี้จะเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป ผมคิดว่า พอล ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลูกสาวในการสร้างเรื่องราวการผจญภัย มันเป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดงให้เห็นว่า พอล ไม่ใช่แค่ผู้กำกับหนังแอ็คชั่น แต่เขายังเป็นนักเล่าเรื่องที่สามารถถ่ายทอดทั้ง การต่อสู้ ความรัก อารมณ์ขัน และเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ"
การคัดเลือกตัวนักแสดงถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะตัวละครในเรื่องต่างก็เป็นที่รู้จัก และเคยถูกถ่ายทอดมาแล้วในโลกภาพยนตร์ คัลเซอร์ เล่าว่า "ความท้าทายอยู่ที่การคัดเลือกนักแสดง เพราะทุกคนต้องเข้าใจบทบาทของตัวละคร และยังต้องมีความทุ่มเทอีกด้วย เมันต้องมีทั้งการฟันดาบ ขี่ม้า หรือห้อยตัวอยู่อากาศ นักแสดงที่เข้ามารับบทจะต้องมีความสามารถรอบด้าน"
โลแกน เลอร์แมน เป็นนักแสดงคนแรกที่ถูกเลือกให้เข้ามารับบทเป็น ดาตาญัง เขาเผยว่า "ดาตาญัง เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนุ่ม เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยแรงใจ ที่ช่วยจุดประกายให้สามทหารเสือกลับมาสู้อีกครั้ง ถึงแม้ตอนแรกเขาจะเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่เขาก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับผู้อื่นเมื่อเดินทางถึงปารีสและพบกับคนมากหน้าหลายตา"
ผู้อำนวยการสร้าง เจเรมี่ โบลท์ ก็พูดถึงความคล้ายคลึงระหว่าง เลอร์แมน กับตัวละครของเขาว่า "เราอยากให้ ดาตาญัง มีอายุเท่ากับในหนังสือ นั้นคือประมาณ 17-18 ปี เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ ถึงแม้ร่างกายและความสามารถจะยังไม่มากพอ แต่เขามีไหวพริบและเข้ากับคนง่าย และยังมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ผมมีความรู้สึกว่า โลแกน เกิดมาเพื่อรับบทเป็น ดาตาญัง จริงๆ"
เลอร์แมน รู้สึกตื่นเต้นในการได้ร่วมงานกับ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน เขาเผยว่า "การทำงานร่วมกับ พอล และทีมงานของเขาถือเป็นประสบการณ์ที่สุดยอด เพราะคุณสามารถทำความเข้าใจกับตัวละคร และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่คุณรู้สึก พอล เปิดรับความคิดเห็นของทุกคน"
นอกจากนั้น เลอร์แมน ก็ยังตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่เข้ามารับบทเป็นสามทหารเสือ ถึงแม้การพบกันครั้งแรกของพวกเขาในหนังไม่ได้เป็นอย่างที่ ดาตาญัง จินตนาการเอาไว้ "เมื่อ ดาตาญัง พบสามทหารเสือ เขาก็รู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง เขาคิดว่าสามทหารเสือจะเป็นวีรบุรุษเหมือนที่ถูกเล่าขาน แต่กลับกลายเป็นพวกขี้เมาและไม่มีจุดหมายในชีวิต อย่างไรก็ตาม ดาตาญัง ก็ได้รับการยอมรับจากสามทหารเสือ และทำให้พวกเขาพร้อมกลับไปต่อสู้กับศัตรูอีกครั้ง"
การคัดเลือกนักแสดงเข้ามาเป็นสามทหารเสือไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เพราะในหนังสือของ ดูมาส์ ก็ได้อธิบายบุคลิกของแต่ละคนเอาไว้ชัดเจน ไม่วาจะเป็น อารามิส ผู้ลึกลับ, ปอร์โต ผู้น่าเกรงขาม และ อาโตร์ ผู้เศร้าโศก
เจเรมี่ โบลท์ พูดถึงนักแสดงที่เข้ามารับบทเป็นสามทหารเสือว่า "พวกเขาต้องสร้างความสมดุลให้แก่กันและกัน เพราะสามทหารเสือต้องมีความเท่าเทียมกัน แมทธิว แม็กเฟเดียน เข้าใจความเศร้าที่ถูกซ่อนในตัว อาโตร์ ในขณะที่ เรย์ สตีเวนสัน ก็สามารถถ่ายทอด ปอร์โต ที่สนุกและเต็มที่กับชีวิตได้อย่างดี และ ลุค อีแวน ก็เหมาะกับ อารามิส ที่รูปงามแต่ก็เต็มไปด้วยปริศนา"
แมทธิว แม็กเฟเดียน รู้สึกดีใจกับบทบาทที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติของตัวละคร "อาโตร์ ถูกหักหลังโดยคนรักของเขา เมื่อ มิลาดี หันไปร่วมมือกับ บัคกิ้งแฮม และทำให้ อาโตร์ กลายเป็นคนที่หมดความเชื่อในชีวิต เขาเป็นตัวละครที่มีด้านมืดและใช้การดื่มเพื่อซ่อนความเศร้า"
แม็กเฟเดียน เล่าถึงประสบการณ์ในการร่วมงานกับผู้กำกับว่า "พอล มีพลังงานที่ไม่มีวันหมด ความตื่นตัวของเขาทำให้พวกเรารู้สึกตื่นเต้นไปด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับทุกคนควรมี นั้นคือมีแรงใจกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ เพราะอย่างน้อยมันจะช่วยทำให้นักแสดงมีแรงบันดาลใจ"
ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิท แต่สามทหารเสือต่างก็มีบุคลิกที่แตกต่างกัน ลุค อีแวน ที่รับบทเป็น อารามิส ก็หลงไหลในนิยายสามทหารเสือมาตั้งแต่เด็ก เขาพูดถึงการที่ ดาตาญัง เข้ามาในชีวิตของสามทหารเสือ "พวกเรารับ ดาตาญัง เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน อาโตร์ เปรียบเสมือนพ่อของเขา ส่วน ปอร์โต ก็เหมือนกับคุณลุง และสำหรับ อารามิส เขาก็เป็นเหมือนพี่ชายของเขา เราเปรียบเสมือนกับครอบครัวใหญ่"
อีแวน พูดถึงรายละเอียดในตัวละครของเขาว่า "อารามิส เคยเป็นนักบวชมาก่อน เขามักจะอ่านไบเบิ้ลหรือสวดมนต์อยู่เสมอ เขามีจิตวิญญาณที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและยังเป็นเพื่อนที่ดี เขาไม่เคยทรยศผู้อื่น และสวดให้กับศัตรูทุกคนที่เขาสู้ด้วย ในสนามรบ อารามิส จะมีสไตล์การต่อสู้ที่ทั้งโดดเด่น คล่องแคล่ว และงดงาม เขาเป็นเหมือน เจมส์ บอนด์ แห่งศตวรรษที่ 17”
เรย์ สตีเวนสัน รับบทเป็น ปอร์โต ผู้เปี่ยมไปด้วยพลังในการใช้ชีวิต เขาเผยถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทเป็นตัวละครนี้ว่า "สิ่งที่สำคัญคือเราต้องสร้างสรรค์ตัวละครในแนวทางของตัวเอง คุณไม่สามารถลอกเลียนแบบจากหนังที่เคยมีมา การต่อสู้ของ ปอร์โต มีความแตกต่าง การแต่งตัวและมีทัศนคติก็แตกต่างจากคนอื่น แต่ภายในจิตใจเขาก็ยังมีเลือดของทหารเสืออยู่เต็มเปี่ยม นั้นคือสิ่งที่เชื่อมทั้งสามคนเข้าด้วยกัน"
สตีเวนสัน ถือเป็นนักแสดงที่เข้าฉากต่อสู้มากที่สุด โดยเขาได้นักกีฬาฟันดาบเหรียญทองโอลิมปิด อิมเค่ ดูพริเซอร์ มาช่วยฝึก เขาเล่าถึงประสบการณ์ว่า "อิมเค่ เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม โดยเมื่อเราต้องถ่ายทำแบบ 3D ถูกอย่างที่คุณทำจะจะต้องออกมาเป๊ะทุกมุม ดังนั้นกฏระเบียบของการถ่ายทำในระบบ 3D ก็จะต้องมีมากกว่าปกติ และอย่าลืมว่าคุณต้องเหวี่ยงดาบไปหาเพื่อนนักแสดง ดังนั้นคุณก็ต้องมีความแม่นยำกว่าการถ่ายทำในระบบปกติ"
มิลาดี + บัคกิ้งแฮม + ริเชอลิเยอ สามบุคคลอันตรายแห่งยุควิคตอเรียน
นอกจากกลุ่มทหารเสือ ฝั่งผู้ร้ายของ The Three Musketeers ก็ได้นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์เข้ามาประชันกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ออแลนโด้ บลูม, มิล่า โจโววิช และ คริสตอฟ วอลซ์ โดยผู้อำนวยการสร้าง เจเรมี่ โบลท์ เล่าถึงการเลือกนักแสดงฝั่งผู้ร้ายว่า "พอล และผมอยากทำให้คนดูแปลกใจ อย่างเช่น ออแลนโด้ บลูม ซึ่งไม่ใช่ผู้ร้ายแบบหนังทั่วไป ทั้งอากัปกิริยาและท่าทางของเขาจะดูสุดโต่ง นี่เป็นครั้งแรกคนดูจะได้เห็น ออแลนโด้ ทำอะไรแบบนี้"
ออแลนโด้ บลูม รับบทเป็น ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม โดยเขาเผยถึงการเข้ามารับบทว่า "เรื่องราวของสามทหารเสือถือเป็นตำนาน โดยตลอดอาชีพการแสดงของผมคือการเดินทางเพื่อเติมเต็มความฝัน และการแสดงในหนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความฝัน สิ่งที่ทำให้ผมสนใจก็คือบทบาทของ บัคกิ้งแฮม ที่ไม่ใช่ผู้ร้ายทั่วไป แต่เป็นตัวละครที่ดูร้ายอย่างมีสีสัน ผมรู้ทันทีหลังจากได้อ่านบทว่าจะต้องสนุกแน่ๆ และผมก็ยังดีใจในการได้ร่วมงานกับ พอล โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเล่าถึงแนวทางในตำนานสามทหารเสือฉบับเขาให้ผมฟัง"
บลูม ยังอธิบายถึงตัวละครของเขาว่า "ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม คือรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร และก็ยังเป็นพวกนิสัยเสีย เป็นเหมือนนกยูงที่ชอบโชว์ออฟ ตอนที่ผมและ พอล คุยกันถึงตัวละครนี้ เขาบอกให้ผมนึกถึงร็อคสตาร์ในยุคปี 70s เช่น เดวิด โบวี่, จิม มอร์ริสัน หรือ มิค แจ็คเกอร์ เพราะ บัคกิ้งแฮม ใช้ชีวิตเหมือนกับร็อคสตาร์ ผมคิดว่านี่ไม่ใช่สามทหารเสือที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะพวกเราไม่ได้มันให้มันดูจริงจังเกินไป มันจะทำให้คุณลืมไปว่ามันเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 17 ได้ยังไง"
มิล่า โจโววิช ก็เป็นแฟนนิยายของ อเล็กซองเดร์ ดูมาส์ ตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็ได้ส่งต่อมาถึงลูกสาวของเธอ มิล่า อธิบายถึงสิ่งที่าดึงดูดเธอให้เข้ามารับบทเป็น มิลาดี เดอ วินเทอร์ ว่า "สำหรับฉันแล้ว The Three Musketeers เป็นการผจญภัยที่คลาสสิก มันเป็นหนังสือที่คุณจะวางไม่ลงเมื่อได้เริ่มอ่าน ดูมาส์ เป็นนักเขียนที่น่าทึ่ง ตอนจบแต่ละบทจะทำให้คุณรู้สึกค้างคา และอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบทต่อไป"
โจโววิช พูดถึงการเข้ามาทำงานในเรื่องนี้ว่า "ฉันเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่แรก เมื่อ พอล เริ่มพัฒนาบทกับ แอนดรูว เดวี่ย์ โดย มิลาดี ก็ถือเป็นตัวละครที่ฉันชอบที่สุด ฉันรู้สึกดีใจที่ พอล ต้องการทำอะไรที่แตกต่างออกไปจากแฟรนไชส์ Resident Evil หรือหนังแอ็คชั่น-ไซไฟเรื่องอื่นๆ เขาให้อกาสฉันได้รับบทเป็นตัวละครที่น่าจดจำแบบนี้"
โจโววิช ได้พูดถึงความแข็งแกร่งในตัวของ มิลาดี ว่า "ฉันมองเห็น มิลาดี เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ในโลกสมัยเก่า เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด มีไหวพริบ เป็นตัวของตัวเอง และสามารถกลมกลืนไปกับทุกสถานการณ์ มันต้องอาศัยผู้หญิงที่เข้มแข็งในการยืนอยู่บนโลกของผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 17 การได้แสดงเป็นหญิงแกร่งที่มีอำนาจเหนือผู้ชายถือเป็นเรื่องที่ฉันรู้สึกภูมิใจ"
โจโววิช ยังได้พูดถึงด้านมืดของ มิลาดี ว่า "ฉันรู้สึกเป็นเกียรติในการได้รับบทนี้ สำหรับฉันนี่ไม่ใช่แค่การแสดงเป็นผู้ร้าย แน่นอนว่า มิลาดี อาจไม่ได้ทำเรื่องที่ถูกศีลธรรมนัก แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่คอยให้ผู้ชายทำอะไรให้ เธอโกหก หักหลัง และขโมย แต่นั้นก็เพราะว่าพวกผู้ชายในเรื่องก็ทำ (หัวเราะ) ข้อแตกต่างอย่างเดียวก็คือเธอเป็นผู้หญิง ฉันรู้สึกเห็นใจและสงสารในสถานะของเธอ และฉันก็เคารพแนวทางการใช้ชีวิตของเธอ"
เจเรมี่ โบลท์ ก็ได้พูดถึงนักแสดงสาวว่า "มิล่า สวมวิญญาณเป็น มิลาดี ได้เหมือนกับที่เธอเป็น อลิซ เธอมีภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ ผมคิดไม่ออกว่าใครจะเหมาะสมไปกว่าเธอในการรับบทเป็น มิลาดี เธอเป็นสายลับสามหน้า ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ มิล่า สามารถนำเอาสิ่งที่แปลกใหม่และเสน่ห์น่าดึงดูดเข้ามา ผมคิดว่าแฟนหนังของเธอจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่พวกเขาจะได้เห็น"
จากการทำงานในแฟรนไชส์หนัง Resident Evil ทำให้ โจโววิช รู้สึกสบายใจกับการแสดงฉากสตันท์ เธอเผยว่า "ฉันชอบแสดงฉากแอ็คชั่นด้วยตัวเอง มันเป็นโอกาสที่ฉันโหยหาในการทำงาน และเป็นบางสิ่งที่แฟนๆรอคอยและตั้งความหวัง ดังนั้นฉันจึงต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวัง"
โจโววิช พูดถึงฉากที่เธอประทับใจว่า "ฉันชอบฉากที่ มิลาดี บุกเข้าไปในพระราชวัง ฉันต้องสู้กับทหารสิบคนในชุดย้อนยุคแบบเต็มยศ ฉันคิดว่าไม่มีใครเคยทำฉากแอ็คชั่น โดยให้นักแสดงสวมชุดคอร์เซ็ทและกระโปรงสุ่มมาก่อน (หัวเราะ) มันเป็นความท้าทายเพราะ มิลาดี ต้องเก่งที่สุดอีกด้วย ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้แสดงเป็นแอ็คชั่นหญิงคนแรกแห่งยุควิคตอเรียน"
คริสตอฟ วอลซ์ รับบทเป็น คาร์ดินัล รีเชอลีเยอ ผู้ชั่วร้าย โดยเขาพูดถึงตัวละครนี้ว่า "รีเชอลีเยอ มีอำนาจเหนือกษัตริย์ เขาจัดการกับทุกเรื่องด้วยตัวเองเพื่อให้มันเป็นไปอย่างราบรื่น เขายังควบคุมทุกอย่างด้วยการทูต ซึ่งเป็นอำนาจที่อำนาจเหนือกว่าความสามารถในการต่อสู็"
ด้วยความที่เขาเป็นนักแสดงที่ได้รับรางวัลออสการ์ การเข้ามารับบทจึงต้องมีกระบวนการในการศึกษาข้อมูล และเข้าใจถึงยุควิคตอเรียนในหนัง วอลซ์ เผยว่า "ผมอ่านชีวประวัติของ รีเชอลีเยอ ตัวจริง เพราะมันสำคัญที่จะหาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่มีอยู่จริง แต่การแสดงในหนังเรื่องนี้ก็จะไม่ใช่ คาร์ดินัล รีเชอลีเยอ แบบที่อยู่ในประวัติศาสตร์ แต่จะเป็นการตีความในแนวทางของผมเอง"
เจเรมี่ โบลท์ พูดถึง วอลซ์ ว่า "มันเป็นเรื่องน่าทึ่งในการเห็น คริสตอฟ ทำงาน เราเข้าใจความยอดเยี่ยมของนิยาย ดูมาส์ และตัวละครนี้ก็น่าจดจำที่สุดคนหนึ่งในโลกวรรณกรรม ดังนั้นเราจึงอยากได้นักแสดงที่มีความสามาถที่จะดึงส่วนนั้นออกมา คริสตอฟ ทำได้เหนือกว่าความคาดหมาย พวกเรารู้สึกโชคดีที่ได้เขาเข้ามาแสดงในบทนี้"