เผยความก้าวหน้าทางการแพทย์ของกทม.มีอาคารใหม่รองรับผู้ป่วยอย่างเต็มที่

ข่าวทั่วไป Tuesday August 20, 2002 11:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--กทม.
กทม.พัฒนาการให้บริการทางการแพทย์ขึ้นอีกขั้น โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ในโรงพยาบาล 4 แห่งคืบหน้าพร้อมรองรับผู้ป่วยอย่างเต็มศักยภาพ ล่าสุดอาคารอนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลกลางเปิดให้บริการแล้ว อาคารอเนกประสงค์โรงพยาบาลตากสินเตรียมพร้อมเปิดให้บริการเร็วๆนี้ โรงพยาบาลเจริญกรุงฯกำลังเร่งสร้างอาคารใหม่ 24 ชั้น ส่วนอาคารเพชรรัตน์แล้วเสร็จพร้อมเป็นที่ตั้งศูนย์โรคหัวใจกทม.และการบริการเวชศาสตร์ฉุกเฉินครบวงจร ขณะเตรียมเปิดสถานบริการแห่งใหม่ย่านชานเมืองตะวันออก "โรงพยาบาลสิรินธร" 1 ต.ค.นี้
ในกิจกรรม "พบกัน จันทร์ละหน คนกับข่าว ครั้งที่ 55" เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.45) เวลา 11.00 น. ที่ห้องรับรองกรุงเทพมหานครสำนักการแพทย์ กทม.แถลงข่าว เรื่อง ความก้าวหน้าของสำนักงานแพทย์ และการเตรียมพร้อมในการเปิดให้บริการโรงพยาบาลสิริธร และอาคารเพชรรัตน์ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวิชรพยาบาล โดยมี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย นพ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนพ.ถาวร ตันติกุล ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ร่วมแถลงข่าว
ผุดอาคารใหม่รองรับการบริการประชาชนอย่างเพียงพอ
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาบริการทางการแพทย์ ทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพการบริการ บุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะด้านอาคารสถานที่ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการให้บริการแก่ประชาชนขณะนี้ได้มีการพัฒนาจนก้าวหน้าไปมาก โดยในส่วนของโครงการก่อสร้างอาคารอนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลกลาง ปัจจุบันสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ 99.56% รายละเอียดการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ คือ ทางลงที่จอดรถ 2 ทาง ที่จอดรถ สวนหย่อม สำหรับการย้ายสถานที่ทำงานได้มีการย้ายจากตึกอำนวยการ รวมทั้งบางส่วนของตึกเอื้อประชาไปยังอาคารอนุสรณ์ 100 ปี และสามารถเปิดดำเนินการได้ในบางส่วน ได้แก่ ห้องตรวจรักษาโรคผู้ป่วยนอก ห้องคลอด หอผู้ป่วยสูติ-นรีเวชกรรมสามัญและพิเศษ หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย และอายุรกรรมพิเศษ หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์100% ภายในปลายปีนี้
สำหรับความคืบหน้าของอาคารอเนกประสงค์ 20 ชั้น ของโรงพยาบาลตากสิน ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ วงเงินในการ ก่อสร้างทั้งสิ้น 316.14 ล้านบาท มีการรับมอบอาคารไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ.45 ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสามารถให้บริการแก่ประชานได้ดียิ่งขึ้น ส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 24 ชั้น โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ นั้น ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จ 25% อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงสร้างชั้นที่ 11 คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถขึ้นโครงสร้าง 24 ชั้นได้
รพ.สิรินธรพร้อมเปิดบริการ 1 ต.ค.นี้
ด้านนพ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดให้บริการ โรงพยาบาลสิรินธร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 45 นี้ว่า ขณะนี้ด้านอาคารสถานที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 94.10% งานส่วนที่เหลือเป็นการเก็บรายละเอียดภายในอาคาร เช่น การติดตั้งประตู หน้าต่าง กระจก ฝ้า หลอดไฟ และทาสีครั้งสุดท้าย คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ ด้านบุคลากรนั้น ทางคณะกรรมการ ข้าราชการกทม.ได้อนุมัติอัตราในปีงบประมาณ 2546 สำหรับเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง จำนวน 127 อัตรา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคัดสรรบุคคลเพื่อบรรจุลงในตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ดีจะมีการพัฒนาขึ้นทุกปีให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียงตามแนวพระราชดำริ ภายในปี 2549
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า เมื่อโรงพยาบาลสิรินธรเปิดให้บริการจะเริ่มให้บริการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะแบ่งพื้นที่ในการดูแลรับผิดชอบกับโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนผู้อยู่ในความดูแลทราบเพื่อขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลต่อไป
ตั้งศูนย์โรคหัวใจกทม.ในอาคารใหม่ "เพชรรัตน์"
สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างอาคารเพชรรัตน์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล ขนาด 20 ชั้น นั้น ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์กล่าวว่า การก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการส่งมอบอาคารแล้ว ขณะนี้ได้เปิดพื้นที่ใช้งานแล้วประมาณ 70% คาดว่าจะเปิดเต็มที่ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาคารแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของศูนย์โรคหัวใจกรุงเทพมหานคร และเปิดให้บริการเวชศาสตร์ฉุกเฉินครบวงจร ในระบบ One Stop Service โดยจัดให้มีบริการตั้งแต่แรกรับผู้ป่วย ตรวจวินิจฉัย และการให้บริการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ตลอดจนมีห้องผู้ป่วยหนักเพื่อรับผู้ป่วยไว้รักษาภายในอาคารพื้นที่เดียวกัน ซึ่งจะทำให้ลดขั้นตอนการรับบริการและลดระยะเวลาที่สูญเสียไปจากการเคลื่อนย้ายไปยังหน่วยบริการ แต่ละขั้นตอนเพิ่มอัตราความปลอดภัยให้กับชีวิตและสุขภาพของผู้ป่วย ทั้งนี้ จะสามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยอย่างเต็มศักยภาพในต้นปี 2546 และมีเป้าหมายจะขยายเตียงเพิ่ม อีก 300 เตียง ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,200 เตียง--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ