กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--ททท.
รมต.สมศักดิ์ เผยททท.ร่วมบริษัทนำเที่ยวญี่ปุ่น จัดรายการเวิลด์คลาส นำสุดยอดของไทยมาบริการนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นแพคเกจมีทั้งกลอ์ฟ สปาหรือพิธีแต่งงาน พร้อมจัดรายการเวิลด์ เฮอริเทจ หนึ่งเดียวในโลก เพียงมาไทยได้ไปท่องเที่ยวทั้งสุโขทัย เมืองเว้ หลวงพระบาง และนครวัต
กรุงโตเกียว- นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนญี่ปุ่นถึงแผนงานในการชักชวนชาวญี่ปุ่นท่องเที่ยวประเทศไทยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวญี่ปุ่นพัฒนารายการนำเที่ยวใหม่ ๆ ขึ้นเพื่อสนอบสนองชาวญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้นโดยร่วมกับบริษัทจาลแพค จัดทำรายการเวิล์ดคลาส ซึ่งจะรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดในเมืองไทยมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แบ่งเป็นกอล์ฟ แพคเกจ, สปา แพคเกจ, เว็ดดิ้ง แพคเกจ เป็นต้น
"ทั้งนี้เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้ใช้บริการสนามกอล์ฟชั้นยอด สปาที่ดีที่สุดและพิธีแต่งงานที่ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ"นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า
อีกรายการหนึ่งที่ไทยมีความภูมิใจคือ เวิล์ด เฮอริเทจ ซึ่งเรียกว่ามีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่มีแพคเกจนี้ไว้บริการนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวไปประเทศไทย จะได้ไปท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ไปหลวงพระบางในประเทศลาว เมืองเว้ในเวียดนาม และนครวัตในกัมพูชา หรือเท่ากับได้พบและสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลกถึง 4 แห่งในคราวเดียว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ไทยยังได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเฉพาะกลุ่มได้แก่ กลุ่มลองสเตย์ กลุ่มนักเรียน และกลุ่มการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (หรือ อินเซนทีฟ) เป็นต้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการเดินทางออกนอกประเทศมาก ขณะที่ประเทศไทยมีความพร้อมสูงในการให้บริการ
"ในฐานะรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวขอให้คำมั่นว่าเราจะดูแลผู้สูงอายุและเยาวชนญี่ปุ่นเป็นอย่างดี เมื่อไปเยือนประเทศไทย" นายสมศักดิ์ประกาศผ่านสื่อมวลชนญี่ปุ่น
สำหรับในปี 2545 นี้ ททท.ได้ตั้งเป้าหมายชักชวนชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวไทยให้ได้ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าจากผลการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัทนำเที่ยวและบริษัทที่เกี่ยวข้อง 21 บริษัทของญี่ปุ่นโดยททท.จะให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมการตลาดจะยิ่งช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้บริษัทนำเที่ยวญี่ปุ่นได้เสนอตัวเลขอัตราเพิ่มของแต่ละบริษัทระหว่าง 5-20%
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันที่มีชาวญี่ปุ่นไปเที่ยวไทยเกินกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไทย สาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปเที่ยวเมืองไทย เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวญี่ปุ่นนิยม มีสถานที่ท่องเที่ยวคุณภาพสูงอยู่เป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากวัฒนธรรมไทยที่ทั่วโลกประทับใจ
"นิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ สหรัฐอเมริกา ได้รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จากการสำรวจความเห็นนักท่องเที่ยวพบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับสามของโลกและเป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับหนึ่งของเอเซีย"
อนึ่งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ททท. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัทนำเที่ยวและบริษัทที่เกี่ยวข้องในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นรวม 8 บริษัทและจะลงนามบันทึกความเข้าใจกับอีก 13 บริษัทที่เมืองโอซาก้า ในวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีความสำคัญต่อประเทศไทยทั้งในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมซึ่งอยู่ในระยะเพิ่งเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำรายได้ให้กับประเทศกว่า 320,000 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนั้นวานนี้คณะผู้แทนไทย นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ร่วมรับประทานอาหารและหารือกับบริษัทนำเที่ยว และสายการบินชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งพอจะสรุปได้ว่าไทยและญี่ปุ่นจะแสวงหาแนวทางความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้นในหลายด้าน และที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็จะได้แก่ การกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการบิน การส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เป็นต้น ทั้งนี้จะดำเนินการไปพร้อม ๆกันทั้งในส่วนของภาครัฐบาล และภาคเอกชน
ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
จิระประภา ศุภโกวิท
โทร.0-26166749-50 , 0-2615-4940
โทรสาร.0-2615-4941--จบ--
-ศน-