ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ประกาศย้ำครองแชมป์ผู้นำอันดับ 1 ตลาดรับสร้างบ้านหรูสไตล์คลาสสิค

ข่าวอสังหา Friday September 9, 2011 09:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ได้ร่วมออกงานรับสร้างบ้าน 4G Home 2011 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ผ่านมาผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งในแง่ของการจอง และการที่มีผู้ให้ความสนใจมาเยื่ยมชมบูธมากมาย มีหลายคนที่เพิ่งรู้จักกับดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เป็นครั้งแรก และรู้สึกประทับใจกับรูปแบบบ้านที่นำมาโชว์ในงาน ซึ่งหลังจากจบงานก็มีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้เข้าไปพบเพื่อนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติม อีกทั้งได้มีการปิดยอดขายอันดับหนึ่งภายในงานด้วยมูลค่า 274 ล้านบาท นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวแบบบ้านใหม่ล่าสุดเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม-ซูเปอร์ไฮเอนด์ และกลุ่มครอบครัวขนาดกลางที่มีธุรกิจเล็ก ๆ และไม่ต้องการที่จะเดินทางไกล เลยทำเป็นสำนักงานภายในบ้านด้วย คล้าย ๆ กับโฮม ออฟฟิค โดยนำไปโชว์ 2 แบบ คือ แบบ Experiti เป็นแบบบ้านในกลุ่ม Emperor X ที่เกิดจากความต้องการ และพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เกิดเป็นแนวทางในการค้นคว้าแบบบ้านใหม่นี้ กับอีกแบบ คือ Peranto เป็นแบบบ้าน The Emperor House ซึ่งปรากฏว่าลูกค้าส่วนใหญ่สนใจสอบถามแบบบ้าน Peranto เป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปแบบที่แปลกตา มีการแบ่งพื้นที่ส่วนบ้านกับส่วนสำนักงานอย่างชัดเจน มีความพิเศษตรงที่เชื่อมต่อด้วยเฉลียงทางเดินด้านหน้าที่ต่อเนื่องกัน นำไปสู่โถงทางเข้าที่โค้งและเปิดพื้นที่ 2 ชั้น (Double Space) ทำให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ต้อนรับสมาชิกทุกคนภายในบ้าน หรือแขกผู้มาเยือนอย่างภูมิฐาน สมฐานะ มีห้องนอนชั้นล่างที่เหมาะสำหรับรับรองแขกหรือผู้สูงอายุ ในส่วนของห้องนอนชั้นบน ยังประกอบด้วยส่วนแต่งตัว และห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง สำหรับห้องนอนใหญ่ เน้นความโล่งกว้าง พร้อมโถงโดมในส่วนพักผ่อน นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติของสวนหย่อมบนหลังคา สำหรับทิศทางตลาดรับสร้างบ้านหรูในปัจจุบัน มีการแข่งขันสูงมากแต่อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าได้ให้ความเชื่อถือและไว้วางใจว่าดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เป็นผู้นำในเรื่องการรับสร้างบ้านหรูสไตล์คสาสสิค หรือเรียกได้ว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายแต่อย่างใด ส่วนการที่มีผู้ประกอบการรายอื่นๆ เข้ามาร่วมเล่นมากขึ้นในตลาดนี้คิดว่าเป็นการส่งผลที่ดี เพราะจะทำให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการในตลาดตัวจริงยังมีเพียงไม่กี่ราย เพราะผู้ประกอบการต้องมีประสบการณ์บวกกับความชำนาญสูง และที่สำคัญลูกค้าต้องได้เห็นของจริง ซึ่งความมั่นใจทั้งหมดมาจากที่ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ได้มีการรับสร้างบ้านมาแล้วทุกระดับทุกราคา แม้แต่บ้านหลังละ 200 — 300 ล้าน ขึ้นไปก็มีผลงานอ้างอิงได้หลายหลังซึ่ง จัดว่ามากเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอนตามสโลแกน "Trust Classic …Trust The Emperor House" ส่วนในเรื่องต้นทุนค่าแรง และราคาวัสดุที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นนั้นทางบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. อาชีพอิสระ เช่น นักร้อง นักแสดง นักกีฬา 2. กลุ่มเจ้าสัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ 3. นักการเมือง 4. กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ และ 5. กลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งตอนนี้ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเอสเอ็มอี นอกจากนี้ยังมีการจัดการบริหารองค์กรภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการคัดสรรบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ หรือช่างฝีมือที่ดีมาก เพื่อลดระยะเวลาการทำงานลง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้มากขึ้น และสุดท้ายอาจต้องใช้วิธีการสต็อกวัสดุบางอย่าง เช่น เหล็ก หรือพูดคุยกับพันธมิตรวัสดุต่าง ๆ ที่สามารถตรึงราคาเพื่อลดต้นทุนการผลิตในอนาคต อย่างไรก็ดี แม้บริษัทจะสามารถบริหารจัดการองค์กรเพื่อรับมือกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็ตาม แต่การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และวัสดุฯ อย่างต่อเนื่องจะส่งผลทำให้ราคาบ้านปรับขึ้น ซึ่งภายในไตรมาส 4 หรือหลังงานรับสร้างบ้าน 2011 นี้ เชื่อว่าทุกบริษัทคงจะปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน” นายสุรัตน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัทกนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 0-2284-2662

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ