กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--พฤกษา
หลังจากที่พฤกษา ปรับโมเดลธุรกิจใหม่โดยแตกไลน์มาพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้ แบรนด์ “ไอวี่” เมื่อกว่า 4 ปีที่ผ่านมานับเป็นย่างก้าวที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง สามารถโกยรายได้เข้าบริษัทได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ในวันนี้ไอวี่ก้าวไปอีกขั้น เตรียมพัฒนาแบรนด์สู่อินเตอร์ฯ วางตำแหน่งแบรนด์ให้เกาะกลุ่มลูกค้าระดับ A+ เปิดบริการ “Servizio” เป็นผู้ช่วยลูกค้าในการดูแลอสังหาฯ พร้อมดึงบริษัทรับบริหารโครงการมืออาชีพมาช่วยในการบริหาร อาทิ บ.โจนส์ แลง ลาซาลล์, บ.เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน, บ.ซาวิลส์ เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด พร้อมวางเป้าหมายการปรับตำแหน่งของแบรนด์ในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้ารองรับชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าคนไทยมากเป็นเงาตามตัว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า “ไอวี่เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์แรกของพฤกษา ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขาย และการทำการตลาด เพราะระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไอวี่แบรนด์เดียว ก็สามารถทำเงินเข้าบริษัทได้เฉียด 10,000 ล้านบาท และในปีนี้กำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ของไอวี่ ซึ่งก็ถึงเวลาที่ไอวี่จะลุกขึ้นเพื่อวางตำแหน่งของแบรนด์ (Brand Positioning) ให้ชัดเจน มากยิ่งขึ้น โดยเราวางไว้ว่า “ไอวี่จะเป็น แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับ A+ ทั้งในเรื่องการพัฒนาโครงการ และการให้บริการ”
1) ด้านการพัฒนาโครงการ แบรนด์ไอวี่จะเน้นทำเลที่ตั้งในเมืองเรียกว่า prime location , ให้สินค้าที่มีสเปคที่ดี ใส่ใจเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง โดยกำหนดให้มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรมระดับ 6 ดาว เพราะว่าเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยภายในห้องของลูกค้าแต่ละห้องที่จะถูกว่าspace planning ที่ดี เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ในการอยู่อาศัย และตั้งใจให้ทุกโครงการมีความสูง floor to ceiling ไม่ต่ำว่า 2.80 เมตร ซึ่งจะให้ความรู้สึกหรูหรา โล่ง โปร่ง สบาย
2) ด้านการบริการ ทางไอวี่ได้ตั้งหน่วยงานที่ชื่อว่า “Servizio” (เซอวิสิโอ) ที่ให้บริการดูแลลูกค้าเหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดสำหรับลูกค้า คือ ให้บริการทั้งเรื่องการฝากขาย เช่า รวมไปถึงเป็นตัวกลางในการเจรจาสรรหาบริษัทที่เข้ามารับช่วงงานบริหารโครงการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอวี่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ที่เข้ามาบริหารส่วนกลางของคอนโดมิเนียมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คอนโดมิเนียมมีมูลค่ามากขึ้น หรือว่าด้อยค่าลง ซึ่งที่ผ่านมา Servizio ได้ตัวเชื่อมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพันธมิตรระดับแบรนด์เนม อาทิ โจนส์ แลง ลาซาลล์, เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน, ซาวิลล์ เข้ามาให้บริการในโครงการของไอวี่ เพื่อให้โครงการสวย คงคุณค่าความงาม และเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ต่อไป”
การลุกขึ้นมาวางภาพลักษณ์ของคอนโดมิเนียมแบรนด์ “ไอวี่” ในครั้งนี้ เปรียบเหมือนเป็นการพัฒนาการของแบรนด์ๆ หนึ่ง ที่ได้ทดลองตลาด รับรู้ความเคลื่อนไหวของตลาดแล้ว รับรู้แล้วว่าลูกค้าของเราเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร และเราเองต้องการก้าวไปทางไหน ซึ่งเรานำแนวคิดนี้พัฒนาไปพร้อมๆ กัน การพัฒนาคอนโดฯ ต่อไป นอกจากนี้ ไอวี่ ยังต่อยอดธุรกิจ ในบางส่วนของโครงการที่มีศักยภาพมากเพียงพอ คือ การทำเป็นเซอร์วิส คอนโดมิเนียม (Serviced Condominium) โดยได้เริ่มนำมาที่โครงการ ไอวี่ ทองหล่อ เป็นที่แรก โดยได้บริษัท อาริวา ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ปที่มีความสามารถระดับการบริหารจัดการงานเซี่ยงไฮ้ เอ็กซ์โปร์ ที่ประเทศจีน มาช่วยในการบริหารการเช่า
“ธรรมชาติของโครงการที่มีศักยภาพดี ทั้งทำเล สินค้า และบริการ ย่อมเป็นที่ต้องการของตลาด ทางไอวี่จึงต่อยอดแนวคิดให้ลูกค้าของไอวี่ส่วนหนึ่งที่ต้องการปล่อยเช่าห้องให้กับต่างชาติ มาทำเป็นธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จ คือ เซอร์วิส คอนโดมิเนียม โดยเริ่มต้นที่ไอวี่ ทองหล่อ ซึ่งเราได้ บริษัท อาริวา ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป ซึ่งมีประสบการณ์ผลงานที่โดดเด่นในเวทีระดับโลก อาทิ การบริหารจัดการงานเซี่ยงไฮ้ เอ็กซ์โปร์ ที่ประเทศจีน การบริหารผู้เช่าในธุรกิจเซอร์วิส คอนโดมิเนียม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ในโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการในต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์กว่าสามสิบปีในธุรกิจนี้ มาช่วยบริหารผู้เช่าให้กับไอวี่ทองหล่อ โดยตั้งเป้าให้เป็นกลุ่มลูกค้าแถบเอเชีย 60 เปอร์เซ็นต์ และเป็นลูกค้าที่เป็นยุโรป-อเมริกันอีก 40 เปอร์เซ็นต์” นายประเสริฐ กล่าว
จากที่กล่าวมาในข้างต้น เป็นการยืนยันการเติบโตไปในแบบของความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล โดยเราได้เลือกเฉพาะพันธมิตรที่มี แบรนด์ระดับโลกมาช่วยเราในการบริหาร ซึ่งพันธมิตรที่ไอวี่มีอยู่ ณ ตอนนี้ ได้แก่ โจนส์ แลง ลาซาลล์, เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน, ซาวิลล์ ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนมีความสามารถในเวทีอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละบริษัทที่มาร่วมงานกับไอวี่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในมุมมองที่แตกต่างกันไป
คุณสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากการเปิดของระบบบีทีเอสขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทองหล่อได้กลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยระดับหรูหรา ตามมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนที่มีฐานะในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า และสถานบันเทิงที่มีสไตล์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นปัจจัยเสริมสำคัญที่ทำให้ทองหล่อเป็นทำเลทองที่สามารถดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านสุขุมวิทและใกล้เคียง ให้เข้ามาอยู่อาศัย และใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน”
“เนื่องจากทองหล่อเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ที่ดินแถบนี้มีราคาสูง ในขณะที่มีที่ว่างเหลือไม่มากสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ไอวี่ทองหล่อขึ้นในทำเลนี้ได้ จึงนับเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่ของการปรับขึ้นของมูลค่าในอนาคตและการสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า โดยเฉพาะเมื่อได้รับการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ” คุณสุพินท์กล่าว
คุณพิภพ วงศ์เชิดขวัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟิร์ส แปซิฟิค ฮาริสัน จำกัด กล่าวถึง “สถานการณ์ตลาด เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ในภูมิภาคเอเชีย มีการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจาก มีจำนวนอพาร์ทเมนท์ที่เกิดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับในภูมิภาคเอเชีย มีการเติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก โดยเฉพาะมีโครงการ คอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก และถูกนำมาปล่อยให้เช่าพักอาศัย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันธุรกิจ เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ เติบโตและแข่งขันกันอย่างมาก โดยเฉพาะ เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ที่ต่อยอดแนวคิดจากการนำเอาห้องชุดของคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่า เพื่อสร้างรายได้ให้กับเจ้าของห้องชุด เช่น โครงการไอวี่ ทองหล่อ ของบริษัท พฤกษา (มหาชน) จำกัด ที่นำเสนอบริษัท อาวีว่า ฮอสพิทัลลิตี้ กรุ๊ปฯ ที่มีความสามารถในการบริการผู้เช่าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ ไอวี่ ทองหล่อ และ กำลังอยู่ระหว่างนำเสนอการบริการผู้เช่าประเภทเดียวกันนี้ กับ โครงการ ไอวี่ สาทร เช่นกัน
คุณเนียร์จา สัจเดว์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพย์สิน บริษัท ซาวิลส์ (ประเทศไทย) กล่าวถึง “ตลาดคอนโดมิเนี่ยมในยุโรป เป็นที่แน่ชัดว่ามีการเติบโตอย่างมากทั้งในด้านของยอดขายและอัตราการเติบโต ซาวิลล์ เอง ซึ่งอยู่เป็นผู้นำในเรื่องการบริหารโครงการระดับพรีเมี่ยม ซึ่งจะคัดเลือกเฉพาะ โครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ งในลอนดอน สำหรับซาวิลล์เองในฮ่องกงมีการบริหารมากกว่า 500 โครงการ และสำหรับในเมืองไทยเอง เรามีโครงการที่บริหารอยู่แล้ว รวมกว่า 30 โครงการ”
“การที่เราตัดสินใจเลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาค เป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่จะทำให้แบรนด์ไอวี และแบรนด์พฤกษา เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก ไม่แน่อีกไม่นาน เราอาจจะเห็นพัฒนาการของไอวี่ไปที่ต่างประเทศ ก็ได้เมื่อเราเจนเวทีระดับอินเตอร์แล้ว” นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่: อัญญาพร ธรรมติกานนท์
โทรศัพท์: 0-2209-3900 ต่อ 3441 โทรสาร: 0-2209-3904 E-mail: anyaporn_t@pruksa.com