มนต์เสน่ห์แห่งทับทิม ราชินีแห่งอัญมณี

ข่าวทั่วไป Friday September 6, 2002 12:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เตรียมจัดงานอลังการแห่งปี บางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 30 มนต์เสน่ห์แห่งทับทิม ราชินีแห่งอัญมณีที่ทั่วโลกยอมรับ
พิธีเปิดงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นในวันที่ 18 กันยายน 2545 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับได้จัดขึ้นในไทยเป็นประจำทุกปี ๆ ละ 2 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เนื่องจากได้รวบรวมอัญมณีหลากสีสัน รวมทั้งเครื่องประดับที่ทันสมัยวิจิตรบรรจง ตลอดจนรูปแบบของการจัดงานที่แปลกใหม่ พิธีเปิดงานจะนำเสนอถึงความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมอัญมณีไทยด้วยเครื่องประดับอันทรงคุณค่า อมตะนิรันดร์กาล ภายใต้แนวคิด Precious Gems Precious Jewels ที่มีทับทิมเป็นราชินีแห่งเครื่องประดับทั้งปวงและอุดมไปด้วยอัญมณีหลากสีสัน และในค่ำวันที่ 19 กันยายน 2545 จะมีการจัดงานเพื่อขอบคุณผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งจะมีบุคคลจากทั้งภาครัฐบาลและเอกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมงาน ทุกท่านจะได้พบกับมนต์เสน่ห์แห่งทับทิม ราชินีแห่งอัญมณี ด้วยการแสดงที่อลังการแสงสีตระการตา วิพิธทัศนาเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ และการต้อนรับอย่างเป็นกันเองที่เคยสร้างความประทับใจให้กับอาคันตุกะที่มาเยือนด้วยนางแบบชั้นนำ นักร้องมืออาชีพ นักดนตรี และแดนเซอร์ ยิ่งใหญ่เต็มเวที พร้อมใจร่วมแต่งแต้มสีสันให้เป็นค่ำคืนแห่งความประทับใจมิรู้ลืม
งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับเป็นงานแรกและงานเดียวในประเทศไทยที่มีผู้ประกอบการต่างประเทศเข้าร่วมงานในแต่ละครั้งกว่า 10,000 คน และมีผู้ประกอบการนานาชาติในอุตสาหกรรมเดียวกันร่วมเปิดบูธกว่า 1,700 คูหา บนพื้นที่โอ่โถงกว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งการจัดงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ เป็นงานแสดงสินค้าที่มีรูปแบบการจัดงานที่ครบวงจรที่สุด
งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 30 นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2545 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 18-20 หรือ 3 วันแรกของการจัดงานจะเป็นวันธุรกิจ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเข้าชมและเลือกซื้อสินค้า ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ส่วนวันที่ 21-22 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมท่านละ 50 บาทเท่านั้น โดยรายได้จากการขายบัตรจะนำไปบำรุงองค์กรสาธารณะต่อไป
นายบรรพต หงษ์ทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจัดเป็นอุตสาหกรรม 1 ใน 3 สาขา ที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐและยังเป็นหนึ่งในสินค้าในโครงการนำร่องผู้ผลักดันสินค้าของรัฐบาล (Product champion) นับว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และจากมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จนถึงปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี พ.ศ. 2542 มีมูลค่าการส่งออกรวม 67,479.27 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 81,312.22 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2544 สำหรับอัตราการส่งออกในปัจจุบัน พ.ศ. 2545 (เดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม) มีมูลค่าการส่งออกรวม 51,306.85 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ดร. สุณี ศรีอรทัยกุล นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับกล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่มีความพยายามในการผลักดันการส่งออกอัญมณีไทย ตลอดจนวิธีทางการตลาด ทำให้อุตสาหกรรมไทยยืนหยัดอยู่ได้ พร้อมทั้งได้เร่งรัดการยกระดับพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และรูปแบบให้ดียิ่งขึ้นและสามารถแข่งขันได้ ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงทางการตลาด ที่สำคัญการออกแบบตัวเรือนมีความทันสมัยและมีฝีมือละเอียดอ่อน ทำให้อุตสาหกรรม อัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีมูลค่าเพิ่มอย่างมาก และเป็นที่ดึงดูดของลูกค้าต่างประเทศ ในปัจจุบันผู้ประกอบการชาวไทยมุ่งเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับตลาดระดับกลางถึงบน ส่งผลให้ยอดการส่งออกน่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา
ในปีนี้งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับจะเน้นการส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจากรัตนชาติให้เป็นที่นิยมและแพร่หลาย ได้แก่ พลอยในตระกูลคอรันดัม ซึ่งพลอยประเภทนี้มีหลักเกณฑ์การเรียกชื่อทางวิชาการอย่างง่ายๆ ตามสีที่ปรากฏ กล่าวคือ หากมีสีแดงจะเรียกว่าทับทิม (Ruby) แต่ถ้ามีสีอื่นๆ ยกเว้นสีแดงจะเรียกว่าแซปไฟร์ (Sapphire) เช่น แซปไฟร์สีน้ำเงิน เรียกว่า ไพลิน แซปไฟร์สีเหลือง เรียกว่า บุษราคัม และแซปไฟร์สีเขียว เรียกว่า เขียวส่อง เป็นต้น ซึ่งคอนเซ็ปต์ของงานจะสอดคล้องกับที่สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งทัมทิบ หรือ Ruby Year 2002 เนื่องจากทับทิมที่ค้นพบในประเทศไทยจัดเป็นทับทิมที่มีคุณภาพดีที่สุด จนได้รับการขนานนามว่า Siamese Ruby ซึ่งเกิดจากการเจียระไนจากภูมิปัญญาไทยจนเกิดสีประกายรุ้ง ทำให้ทับทิมไทยเปล่งประกายสวยกว่าที่ธรรมชาติให้มาและยังคงคุณค่านานชั่วอายุคนโดยไม่เปลี่ยนแปลง จนเป็นที่ยอมรับว่าทับทิมจากประเทศไทยเป็นทับทิมที่สวยที่สุดและมีฝีมือด้านการเจียระไนดีที่สุดในโลก
งานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์
งานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งคณะผู้จัดงานจะมีการกำหนดแนวคิดที่ชัดเจน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในแวดวงอุตสาหกรรมได้รับข้อมูลข่าวสาร ขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาฐานลูกค้าและขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นด้วย สำหรับแนวคิดในการจัดงานครั้งที่ 30 นี้คือ การนำเอาสีสันของอัญมณีไทย ประเภทพลอยเก้าสีมารังสรรและเจียระไนให้เกิดสีมณีรุ้ง เป็นประกาย และทรงคุณค่าในตัวเอง ด้วยกรรมวิธีการเผาพลอยโดยใช้ภูมิปัญญาไทย เพื่อให้ได้พลอยสีต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ภายใต้แนวคิด Precious Gems Precious Jewels โดยเน้นเครื่องประดับที่งดงามด้วยสีสันของทัมทิบและพลอยสีที่ผสานกับการเจียระไนอย่างปราณีตบรรจงและความหลากหลายในการออกแบบ
รายละเอียดของงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 30
การจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2545 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนเนื้อที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยคูหาทั้งหมด 1,700 คูหา เพื่อรองรับยอดผู้ประกอบการกว่า 600 บริษัท ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการจากต่างประเทศ 150 คูหา จาก 80 บริษัททั่วโลก ทั้งนี้พื้นที่แสดงสินค้าแบ่งออกเป็น 2 อาคาร โดยฮอลล์ 5 จะจัดแสดงอัญมณีและเครื่องประดับทองและเงิน ส่วนฮอลล์ 6 จะจัดแสดงพลอย เพชร ไข่มุก เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และคูหาผู้ประกอบการจากต่างประเทศ
สำหรับพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 30 จะมีขึ้นในวันที่ 18 กันยายน 2545 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในพิธี ซึ่งจะจัดให้สมกับเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Precious Gems Precious Jewels โดยนำพลอยที่มีสีสันเป็นธรรมชาติ ได้แก่ ทับทิม ไพลิน บุษราคัม มรกต เพชร ไพฑูรย์ เพทาย นิล และโกเมน มาเรียงร้อยให้เข้ากับตัวเรือนที่มีความวิจิตรบรรจง เจิดจรัสไปด้วยสีสันสดใสของเนื้อพลอยอันทรงคุณค่า
ส่วนในค่ำคืนวันที่ 19 กันยายน 2545 ทางสมาคมฯ ได้เตรียมจัดงานต้อนรับและขอบคุณผู้เข้าร่วมงาน ภายใต้ชื่องาน "Exotic Ruby Night" ซึ่งจะมีการแสดงอัญมณีประเภททัมทิบและพลอยหลากสี โดยนางแบบชั้นนำของประเทศไทย และในค่ำคืนวันที่ 20 กันยายน 2545 จะมีการจัดงาน "Vogue Night" ซึ่งเป็นงานสำหรับนิตยสารในแวดวงอุตสาหกรรมอัญมณี
งานแสดงสินค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ครั้งที่ 30 นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2545 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 18-20 หรือ 3 วันแรกของการจัดงานจะเป็นวันธุรกิจ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเข้าชมและเลือกซื้อสินค้า ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ส่วนวันที่ 21-22 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมท่านละ 50 บาทเท่านั้น
โครงการ TGJTA Elite Creation
โครงการ TGJTA Elite Creation เป็นนิทรรศการแสดงผลงานอัญมณีและเครื่องประดับจากผู้ประกอบการชั้นนำของไทย ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดของผลงานประดิษฐกรรมที่พรั่งพร้อมไปด้วยความงามของเนื้ออัญมณี ความปราณีตบรรจงของการเจียระไน ความหลากหลายของการออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์ โดยจะจัดแสดงชิ้นงานเหล่านี้ไว้ในคูหา Elite Creation
Hot 2003
ทางคณะผู้จัดงานจะจัดคูหาไว้ให้กับผู้ประกอบการชาวไทยได้แสดงผลงานของตนในคูหา Hot 2003 โดยผลงานที่จัดแสดงเป็นการแสดงชิ้นงานที่แสดงวิสัยทัศน์ใหม่ของผู้ประกอบการอัญมณีไทยในรูปแบบที่หลากหลายเกือบ 200 แบบ นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนให้ผู้ซื้อต่างประเทศร่วมโหวตผลงาน Hot 2003 ที่โดดเด่นที่สุดด้วย
Close Bid Auction
สำหรับผู้ที่สนใจจะประมูลอัญมณีและเครื่องประดับหายาก ทางคณะผู้จัดได้จัดคูหา Gemmopolis ให้ผู้สนใจได้ร่วมประมูลในลักษณะ "Close Bid" ซึ่งสินค้าที่นำมาประมูลนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพชร พลอย จิวเวลรี่ รวมไปถึงอัญมณีและเครื่องประดับที่ใช้แล้ว รวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท
นิทรรศการของ 6 กลุ่มอุตสาหกรรม
6 กลุ่มอุตสาหกรรม ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องประดับเงิน กลุ่มเครื่องมือเครื่องจักร กลุ่มอุตสาหกรรมเพชร กลุ่มเครื่องประดับทองและแพลตตินัม กลุ่มอุตสาหกรรมพลอยเนื้ออ่อนและอื่นๆ กลุ่มอุตสาหกรรมพลอยสี ซึ่งนิทรรศการของ 6 กลุ่มอุตสาหกรรมจะจัดแสดงการโชว์เหลี่ยม การเจียระไนเพชร การแสดงพลอยสีมีค่าที่หาได้ยาก เป็นต้น
ความร่วมมือจากองค์การต่างๆ
นอกเหนือจากนิทรรศการการแสดงอัญมณีและเครื่องประดับที่ให้ความอลังการแล้ว ผู้เข้าร่วมงานยังจะได้รับความรู้ทางวิชาการจากนิตยสารในแวดวงอุตสาหกรรม ได้แก่ Vogue Gioiello, Jewelry News Asia, Vicenzaoro, etc และสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ, GIA (Gemology Institute of America) เป็นต้น
สัมมนา
เพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ทางผู้จัดงานฯ จึงได้จัดสัมมนาทางวิชาการให้ประโยชน์ต่อผู้ส่งออก รวมไปถึงผู้ประกอบการที่เตรียมจะส่งออกและผู้สนใจทั่วไป โดยการสัมมนาเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ทางวิชาการและการปฏิบัติการ รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในอนาคต
บริการอำนวยความสะดวก
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในงาน ได้แก่
- Cyber Cafe บริการอินเตอร์เน็ต เพื่อการติดต่อข้อมูลข่าวสาร
- VIP's Lounge / Buyers Lounge บริการชา กาแฟ ขนบขบเคี้ยว อาหารว่างและผลไม้
- Shuttle Bus รถบัสบริการรับผู้เข้าร่วมงานชาวต่างประเทศจากย่านใจกลางเมืองมาสู่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค
- Computer Touchscreen แสดงแผนผังคูหาของผู้ประกอบการ เพื่อสะดวกต่อการเดินชม
- Fair Guide เป็นพ็อกเก็ตบุ๊คแสดงแผนผังคูหา เพื่อสะดวกต่อการพกพา
- Food & Beverage อาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ศุภาดา ใจดี, เหมือนฝัน นิลคูหา
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8--จบ--
-ศน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ