กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก รวมทั้งตลอดภูมิภาคเอเชีย มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะผันผวน มร. มัลคอล์ม วิลเลียมสัน ประธานบริหารวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวนำในการปราศรัยในที่ประชุมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก East Asia Economic Summit ที่ประเทศมาเลเซียในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
มร. วิลเลียมสัน เป็นประธานร่วมในการประชุม East Asia Economic Summit ที่จัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยการสนับสนุนจาก World Economic Forum เพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่คาดว่าภูมิภาคนี้จะต้องเผชิญต่อไปในปีหน้า ระหว่างภาคธุรกิจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
มร. วิลเลียมสัน กล่าวว่า "เศรษฐกิจภายในของเอเชียตะวันออกและในภูมิภาคนี้โดยรวม จะได้พบกับโอกาสดี ๆ รวมทั้งความท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกในช่วงปีที่ผ่านมาค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกโดยทั่วไปจะอยู่ในภาวะตกต่ำ และในตลาดทุนมีความปั่นป่วนก็ตาม"
มร. วิลเลียมสัน กล่าวว่า "ในขณะนี้ มีเพียงสหรัฐอเมริกา และเอเชียเท่านั้น (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ที่เป็นแหล่งของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก" โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เกื้อหนุนต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย ดังนี้:
- นโยบายการคลังและการเงินที่แข็งแกร่ง ที่ช่วยให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง รวมทั้งเป็นรากฐานที่มั่นคงต่อการเติบโตต่อไป
- การเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่เกิดจากการผลักดันของนโยบายที่เกี่ยวข้องและโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงในระยะยาว ซึ่งรวมถึง การเปลี่ยนแปลงของสถิติโครงสร้างประชากร การเพิ่มขึ้นของรายได้ของประชากรในชนบท และนโยบายการปล่อยกู้ของธนาคารให้กับผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
- ประโยชน์ของโลกาภิวัฒน์ต่อเศรษฐกิจ - ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นในเรื่องโลกาภิวัฒน์ ประชาชนมักจะไม่ได้คำนึงถึงว่า โลกาภิวัฒน์ได้สร้างประโยชน์อย่างมากให้กับเศรษฐกิจเอเชีย ดังเห็นได้จาก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้ช่วยลดปัญหาความยากจนได้รวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ
มร. วิลเลียมสัน ได้สนับสนุนให้เศรษฐกิจเอเชียก้าวไปอีกขั้นสู่การรวมตัวกัน เพื่อที่เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
มร. วิลเลียมสัน ยังได้เตือนให้เศรษฐกิจเอเชียระมัดระวังกับปัญหาท้าทายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นขณะที่กำลังก้าวไปข้างหน้า อาทิ ปัญหาความไม่แน่นอนของการส่งออก ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาหนี้สินของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
มร. วิลเลียมสัน กล่าวว่า "อาจฟังดูแปลกที่ได้ยินคำเตือนเหล่านี้จากประธานของบริษัทบัตรชำระเงินไม่มีใครรู้มากกว่าพวกเราอีกแล้วว่า ผู้บริโภคที่ดีที่สุดคือผู้บริโภคที่มีความสามารถในการชำระหนี้"
วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รายงานยอดปริมาณเงินผ่านบัตรรวม 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2544 - มิถุนายน 2545 หรือเพิ่มขึ้น 17% วีซ่า เอเชีย แปซิฟิก มีปริมาณเงินผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกัน
มร. วิลเลียมสัน กล่าวว่า "ปัจจุบันภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เป็นภูมิภาคที่มีการเจริญเติบโตสูงสุดของวีซ่า โดยประเทศเกาหลีใต้เป็นตลาดใหญ่ภายในที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของวีซ่า รองจากสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ดังนั้นการเติบโตในระยะยาวของตลาดเอเชียจึงมีความสำคัญต่อวีซ่าเป็นอย่างมาก"
ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ
วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล
วีซ่าเป็นระบบชำระเงินชั้นนำของโลก โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่ากว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และมีร้านค้ารับบัตรกว่า 29 ล้านแห่งทั่วโลก และเครื่องเอทีเอ็มที่รับบัตรวีซ่ากว่า 800,000 เครื่อง วีซ่าได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ๆ ปัจจุบันวีซ่ามีธนาคารและสถาบันการเงินเข้าร่วมเป็นสมาชิก 21,000 แห่งทั่วโลก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด
อนัญญา โศภิษฐกมล (ต่อ 110) หรือ ภิรดี วงศ์ร่มฟ้า (ต่อ 109) โทรศัพท์ 0 2664 9500 โทรสาร 0 2664 9515
อีเมล์ ananya@bangkokpr.com / piradee@bangkokpr.com-- จบ--
-ศน-